posttoday

ชาราฎา อิมราพร ศิลปินสาวที่จะก้าวสู่วงการศิลปะ

07 กันยายน 2557

สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า พิกเล็ตชาราฎา อิมราพร ตอนนี้เธอเรียนอยู่ปี 2 สาขาวิชาวิจิตรศิลป์

โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า พิกเล็ตชาราฎา อิมราพร ตอนนี้เธอเรียนอยู่ปี 2 สาขาวิชาวิจิตรศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พิกเล็ต เป็นน้องสาวของศิลปินฝาแฝด เนโกะ จัมพ์ วรัฐฐา อิมราพร และ ชรัฐฐา อิมราพร มาถึงตอนนี้หลายคนเริ่มร้องอ๋อ เพราะเธอก็คือ พิกเล็ต แห่งวงซูการ์อาย ที่เคยปล่อยเพลงสายตายาว จนฮิตติดหูแฟนเพลงทั้งประเทศ แต่มาในวันนี้เธอมาในฐานะนักศึกษาวิชาวิจิตรศิลป์ หรือภาพพิมพ์ ซึ่งเป็นอีกบทบาทหนึ่งของเธอที่ทำได้ดีไม่แพ้ผลงานเพลงที่ทำอยู่

พิกเล็ต เล่าให้พี่ๆ ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะเข้าเรียนที่นี่ เธอเรียนมาทางสายศิลป์อาร์ต ที่โรงเรียนสารสาสน์ฯ ร่มเกล้า เพราะช่วงนั้นเริ่มทำเพลงอย่างจริงจังมากขึ้น เลยอยากหาโรงเรียนที่คุณแม่สามารถรับส่งได้ง่ายและคุณครูที่พอจะเข้าใจเรื่องการทำงานไปพร้อมๆ กับการเรียน ที่จริงคุณแม่ก็อยากจะให้เรียนก่อนทำงาน แต่เมื่อมีงานเข้ามาแล้วคิดว่าสามารถคุมทั้งเรื่องงานและเรียนไม่ให้เสียไปได้พร้อมๆ กัน ถึงจะรู้สึกเหนื่อยและหนัก แต่ก็เลือกที่จะทำแบบนี้มากกว่า พิกเล็ต เรียนจบมาได้เกรด 3 กว่าเหมือนกัน แล้วเลือกสอบตรงเข้าที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

“แรกๆ เรื่องศิลปะเราไม่ได้มีความรู้มาก อาศัยแค่ว่าเราชอบวาดรูป แต่พอเข้าเรียนที่นี่ต้องเรียนเรื่องศิลปะหนักมาก ต้องเรียนเรื่องศิลปะในแต่ละยุค ผลงานของศิลปินแต่ละคนว่าเขาถ่ายถอดผลงานของเขาออกมาอย่างไร แล้วก็มีฝึกเรียนจิตรกรรม ภาพพิมพ์ แล้วก็ประติมากรรม เป็นพื้นฐานให้นักศึกษาได้เรียนรู้กว้างๆ และค้นหาว่าแท้จริงแล้วตัวเราเองอยากจะเลือกเรียนต่อทางด้านสาขาไหนตอนขึ้นปี 2

“ตอนแรกเราก็ลังเลเหมือนกันระหว่างภาพพิมพ์กับจิตรกรรม ซึ่งเราชอบทั้งสองสาขา ก็ปรึกษาคุณแม่ว่าจะเลือกเรียนอะไร สุดท้ายเราก็เลือกภาพพิมพ์จะเป็นงานที่ผสมผสานเทคนิคหลากหลายเพื่อให้ได้ภาพออกมาอย่างที่เราต้องการ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นการวาดอย่างเดียว เราจะเอาวัสดุอะไรก็ได้มาสร้างเป็นภาพที่เราต้องการ ในขณะที่จิตรกรรมจะเป็นการวาดภาพลงสีบนสเกลขนาดใหญ่มากๆ และจะใหญ่ขึ้นไปเรื่อยตามชั้นปีที่เรียน สุดท้ายก็เลือกเรียนต่อด้านภาพพิมพ์ เพราะสามารถสร้างภาพได้อย่างไม่จำกัดเทคนิคและขนเอางานกลับมาทำนอกมหาวิทยาลัยได้ อีกอย่างเคยเห็นผลงานที่อาจารย์วาดออกมาแล้วรู้สึกว่าสวยมาก เราก็อยากจะทำได้แบบนั้นบ้าง”

พิกเล็ต เล่าต่ออย่างรู้สึกอินกับผลงานของเธอเอง ว่า แรงบันดาลใจของเธอส่วนใหญ่ได้มาจากการจัดคอมโพสที่เราคิดว่าสวยและชอบอะไรที่ดูเป็นผู้หญิง ก็มาตีโจทย์ว่าอะไรที่ดูเป็นผู้หญิง ผู้หญิงชอบอะไร ผู้หญิงชอบของหวาน ความอ่อนช้อย ตุ๊กตา อมยิ้ม และลายเส้นผมของผู้หญิง ซึ่งงานของพิกเล็ตเพื่อนๆ เห็นก็จะรู้ว่าเป็นผลงานของเธอ เพราะออกแนวหวานและดูเป็นผู้หญิงมาก คือดูแล้วรู้เลยว่าเป็นงานของใคร

ชาราฎา อิมราพร ศิลปินสาวที่จะก้าวสู่วงการศิลปะ

 

“อนาคตผลงานเราคิดว่าถ้าไม่ได้ทำงานบันเทิงก็คงอาจจะเปิดร้านเล็กๆ ของตัวเองและเอาผลงานเก่าๆ ของเรามาทำติดโชว์ที่ร้าน ผลงานเก่าบางคนอาจไม่ชอบเอามาโชว์ แต่เราคิดว่านี่คือผลงานของตัวเราเองตั้งแต่เริ่มจนมีฝีมืออย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ถ้าไม่ได้เริ่มจากผลงานชิ้นนี้ก็คงไม่ได้เห็นผลงานสวยๆ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน”

นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่หาได้ยากในความเป็นเด็กรุ่นใหม่ก็คือ พิกเล็ต เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก เวลาไปเดินในศูนย์การค้าร้านแรกที่เข้าก็คือร้านหนังสือ แล้วก็เลือกหนังสือที่อยากอ่านออกมาเป็นตั้งๆ เอากลับมาอ่านที่บ้าน เวลาสัมภาษณ์เรามักจะได้ยินคำพูดหรือแนวคิดที่ต่างกันออกไปจากคนอื่นๆ อย่างมีเหตุผล

“หนังสือที่ชอบก็มีอาร์ต เพราะต้องเรียนเรื่องการวาดภาพ ต้องอ่านหลายๆ เล่มมาประกอบกัน อันดับ 2 ก็คือ หนังสือนิยาย และหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา อย่างหนังสือเล่มหนึ่งที่ชอบอ่านก็คือหนังสือเรื่องโรคจิต ว่าแต่ละคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันเพราะอะไร ก็ศึกษาลงไปเบื้องลึกของจิตวิทยาให้เราได้เรียนรู้ตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น หนังสืออีกเรื่องก็คือหนังสือเกี่ยวกับคำคมต่างๆ ที่ชอบก็เป็นหนังสือคำคมของคัตโตะ เป็นการกล่าวถึงเรื่องจริงที่เราทุกคนได้พบเจอ แต่ไม่มีใครมักเอ่ยถึงในมุมมองที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ก็เป็นหนังสืออีกเล่มที่ชอบมาก ส่วนหนังสือนิยายก็อ่านหลายเล่ม หลักๆ เวลาอยู่บ้านจึงหมดไปกับการอ่านหนังสือ”

เมื่อถามถึงแนวคิดในการใช้ชีวิตและการแก้ปัญหาของเธอ พิกเล็ต ตอบพี่ๆ ว่า “แนวคิดในการใช้ชีวิตก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้ตั้งว่าเราจะต้องเป็นมหาเศรษฐี มีหน้าที่เรียน มีหน้าที่ทำงานก็แบ่งเวลาทำเต็มที่และสนุกไปกับมัน ในเรื่องการทำงานตอนนี้เราอาจจะได้ทำงานก่อนใครทั้งที่อายุเรายังไม่ถึงวัยต้องทำงาน แต่เราคิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะเราได้มีโอกาสและเป็นสิ่งที่เราชอบ เราไม่อยากทิ้งและอยากทำต่อไปเรื่อยๆ ให้ดีที่สุด ตอนนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จของเราแล้ว เพราะตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเพลงของตัวเอง ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ถ้าประสบความสำเร็จอีกขั้นที่ฝันไว้ก็คือได้กลับมาเลี้ยงดูพ่อแม่ เท่านี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดแล้ว”

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา