ศิลปะแห่งการทำลายล้าง Into the Storm

โดย...แหนงดู 

คงจะไม่มีอะไรแตกต่างจาก Twister (ปี 1996) นักหรอก ผู้เขียนคิดก่อนเข้าโรงหนัง จึงไม่ได้คาดหวังกับ Into the Storm มากมาย แต่ปรากฏว่า ... ดีกว่าที่คาดคิด!!!

เมื่อเมืองซิลเวอร์ตันถูกพายุทอร์นาโดโหมกระหน่ำ ความเสียหายเกิดขึ้นแทบทุกหย่อมหญ้า ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความหวาดหวั่น เพราะพายุยังไม่นิ่งและกำลังก่อตัวใหญ่ขึ้นๆ คาดว่าจะตามมาด้วยสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

เช้าวันงานพิธีสำเร็จการศึกษาของไฮสคูลในเมืองซิลเวอร์ตัน แกรี ฟุลเลอร์ (ริชาร์ด อาร์มิเทจ) คุณพ่อลูกสองและรองผู้อำนวยการโรงเรียนต้องทำทุกอย่างเพื่อให้พิธีผ่านไปด้วยดี แต่เขาจะจัดการกับสภาพอากาศอันเลวร้ายได้ยังไง ขณะที่ลูกชายวัยรุ่นของเขาซึ่งถูกใช้ให้เก็บภาพพิธีสำเร็จการศึกษาก็ทิ้งงานไปกับสาวและมุ่งหน้าสู่อันตราย

ในเวลาเดียวกัน ผู้ชำนาญด้านการล่าพายุก็เดินทางมาในเมือง นำทีมโดย พีท มัวร์ (แมตต์ วอล์ช) นักล่าพายุและผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีผู้ทุ่มเท เขากำลังถูกบีบจากเจ้าของทุน จึงโทษว่าเป็นความผิดของ อัลลิสัน สโตน (ซาราห์ เวย์น คอลลีส์) นักอุตุนิยมวิทยาที่วิเคราะห์ข้อมูลผิด ในเมืองยังมีกลุ่มเด็กต๊องที่ทำเรื่องเสี่ยงชีวิตเพราะสนุกและหวังจะสร้างประวัติศาสตร์บนโลกอินเทอร์เน็ต

เพราะโคตรพายุทอร์นาโดขนาดยักษ์ในระดับอีเอฟ 5 ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ นี่อาจจะเป็นครั้งหนึ่งของชีวิต ในขณะที่ผู้คนต่างหาแหล่งหลบภัย เหล่านักล่าพายุทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นไม่อาจจะหลบอยู่ในที่ (คิดว่า) ปลอดภัยเหมือนคนอื่นๆ

Into the Storm ผลงานการกำกับโดย สตีเฟน เควล จาก Final Destination 5 ตัวเรื่องนั้นก็ไม่ต่างกับเป็นโซพโอเปร่า แต่ก็ทำออกมาได้สนุก สมจริง วิชวลเอฟเฟกต์น่าตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อพายุปรากฏ ด้วยวิธีการเล่าเรื่อง การถ่ายทำ และมุมกล้องทำให้คนดูจะเหมือนกับอยู่ใจกลางเหตุการณ์ จนแทบสัมผัสกับพายุที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ได้ มุมของหนังจากสารพัดกล้องอาจจะทำให้เวียนหัวกันบ้าง เสียงก็น่าทึ่งมากๆ ใครไม่ชอบหนังเสียงดังก็อาจจะตกอกตกใจได้ เดอะ ไททัส ซึ่งเป็นพาหนะของนักล่าพายุก็น่าตื่นตา เพราะมันวิ่งด้วยความเร็วสูง มีกระจกกันกระสุน ยึดเกาะพื้นได้ในสภาพที่มีแรงลมสูง บันทึกข้อมูล เก็บภาพด้านในของใจกลางพายุได้ ฯลฯ

ช่วงแรกของหนังเป็นการปูพื้นให้รู้จักตัวละคร นับเป็นช่วงที่อืดไปสักหน่อย จุดโดดเด่นของหนังอยู่ที่การพัฒนาคาแรกเตอร์ตัวละครซึ่งมีหลากหลายและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเด็กหนุ่มวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่านกับเดทแรก และความสัมพันธ์ของเขากับพ่อผู้เป็นแบบอย่างของเด็กๆ และคนที่เชื่อถือได้ของชุมชน ทั้งยังเป็นทั้งพ่อและแม่ของเด็กวัยรุ่น 2 คน หรือจะเป็นนักล่าพายุที่ต่างความคิด หรือหนุ่มบ้าบิ่นที่ต้องการบันทึกเหตุการณ์เพื่อความบันเทิงและสร้างตัวเอง นักแสดงอาจจะไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่ก็ตีโจทย์ได้ดี (ริชาร์ด อาร์มิเทจ มีเสน่ห์มากๆ บอกเลย)

เป็นหนังน่าทึ่งและน่ากลัวด้วยพลังและการทำลายล้างของพายุ แต่ก็มีบางจุดที่การ์ตูนเกินไปหน่อย และมีบางตรรกะที่น่าสงสัย ถ้าชอบหนังประเภท Disaster เคยประทับใจกับ Day After Tomorrow หรือ Twister มาก่อนก็ไม่น่าพลาดชม

หนังพายุเรื่องนี้มีช่วงดราม่า ทั้งยังสอดแทรกข้อคิดชีวิตในมุมของครอบครัว การงานหน้าที่ ฯลฯ หนังทำให้คนดูตระหนักในความสำคัญของครอบครัวและมนุษยธรรม บางครั้งเราก็อาจจะไม่รู้ว่า เราจะทำเพื่อคนที่รักได้มากแค่ไหน และการรวมตัวกันจะช่วยเอาชนะทุกอุปสรรคได้

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เหนือการควบคุม บางคนนั่งลง บางคนวิ่งหนี และบางคนวิ่งเข้าใส่ เรายังไม่รู้ว่าปฏิกิริยาของตัวเองจะเป็นแบบไหน จนกว่าจะถึงเวลานั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมีสติ

 

Into the Storm ตอกย้ำกับคนดูว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับมนุษย์ คือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

Into the Storm

โคตรพายุมหาวิบัติกินเมือง

ปี 2014

ประเภท แอ็กชั่น/ระทึกขวัญ

ประเทศ สหรัฐอเมริกา

ภาษา อังกฤษ

ความยาว 1 ชั่วโมง 29 นาที

กำกับ สตีเฟน เควล

แสดงนำ ริชาร์ด อาร์มิเทจ/ซาราห์ เวย์น คอลลีส์/แมตต์ วอล์ช/อลิเซีย เด็บแนมแครีย์/อาร์เลน เอสคาร์เพตา/นาธาน เครส/จอน รีพ/เจเรมี ซัมพ์เตอร์

ทอร์นาโดเป็นชื่อที่ประเทศริมมหาสมุทรแอตแลนติกใช้เรียกพายุหมุนหรือไต้ฝุ่น ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดานั้นจะใช้มาตรวัดความแรงของพายุหมุนตามความเร็วลมศูนย์กลางของพายุ มาตรวัดนี้เรียกว่า เอนแฮนซ์ ฟูจิตะ สเกล (Enhance Fijita Scale) ซึ่งตั้งชื่อตาม เทตสุยะ ธีโอดอร์ ฟูจิตะ เจ้าของสมญามิสเตอร์ทอร์นาโด นักวิจัยพายุชาวญี่ปุ่นอเมริกัน ในมาตรวัดความแรงของพายุนี้แบ่งความแรงของพายุออกเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่อีเอฟ 0 ถึงอีเอฟ 5 ตามความเร็วลมศูนย์กลาง

“ไม่ว่าจะในนามบุคคลหรือผ่านข่าวสาร พวกเรารู้ดีว่าหายนะจากธรรมชาติมีความยิ่งใหญ่ขนาดไหน ผมโตขึ้นที่มิดเวสต์และรู้ถึงพลังของพายุทอร์นาโดเป็นอย่างดี สำหรับหนังเรื่องนี้เราอยากสร้างความสมจริงให้พลังที่เหนือการควบคุมนี้ เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นพายุอย่างเต็มตา และได้เห็นว่ามันน่ากลัวขนาดไหน” – สตีเฟน เควล

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมคิดว่าพายุทอร์นาโดที่กระหน่ำเมืองของคุณอย่างไม่ยั้งจะทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณเป็นคนแบบไหน ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับบทคนธรรมดาที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ โดยเขาเองไม่ได้ทันตั้งมือรับสถานการณ์นี้ ที่คล้ายกับสิ่งที่ผมคิดไว้ คือ ถ้าเราเดินผ่านตึกที่มีไฟลุกไหม้และได้ยินเสียงเด็กกรีดร้อง คุณจะวิ่งเข้าไปช่วยเด็ก หรือจะมองหาใครสักคนให้มาช่วย?” ริชาร์ด อาร์มิเทจ

“ภายใต้เหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าสับสนอลหม่าน ทุกคนเริ่มจากการเป็นคนแปลกหน้า จากนั้นต้องผ่านเรื่องราวต่างๆ ร่วมกันนานนับชั่วโมง มันมีทั้งความกระตือรือร้นและอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้น จนผ่านพ้นประสบการณ์ที่เลวร้ายอย่างยาวนาน มันมีความหมายต่อกันตรงที่พวกเขาร่วมกันเผชิญหน้ากับวิกฤต มันเป็นสิ่งที่ฉันกระตือรือร้นอยากไปค้นหามาก” ซาราห์ เวย์น คอลลีส์