posttoday

โรงเรียนทอสี ‘วิถีแห่งพุทธ’ แรงบัลดาลใจของครูอ้อน

09 สิงหาคม 2557

สังคมไทยปัจจุบันมีความซับซ้อน คนไทยมีความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงความต้องการของพ่อแม่

สังคมไทยปัจจุบันมีความซับซ้อน คนไทยมีความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงความต้องการของพ่อแม่ในยุคปัจจุบันที่อยากปลูกฝังให้ลูกเติบโตขึ้นมาในแนวทางที่ตัวเองต้องการ พ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกเก่ง เจ๋งเป็นที่ 1 ต่างผลักดันให้เดินไปตามถนนสายหลัก เริ่มต้นด้วยโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยต่างๆ ต่อมัธยมปลายต้องไปเรียนเตรียมอุดมฯ สิ้นสุดการเรียนระดับปริญญาตรีย่อมเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ หนีไม่พ้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล

ในเส้นทางเดียวกันนี้ เพื่อนำพาไปสู่จุดหมายเดียวกัน คือความสำเร็จด้านการศึกษาของลูก ก็มีกลุ่มพ่อแม่ที่ไม่ต้องการเห็นลูกถูกเคี่ยวกรำ ต้องไปแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่นแข่งขันกับใคร มีถนนสายรอง “โรงเรียนทางเลือก” ผุดขึ้นมาตอบสนองความต้องการของกลุ่มพ่อแม่ที่มีความเห็นต่าง พ่อแม่ที่ไม่หวังให้ลูกเป็นคนเก่ง ขอให้เป็นคนดีในสังคมก็เป็นเรื่องสุขใจแล้ว

ตามหลักการความต้องการและการผลิต เมื่อมีความต้องการเกิดขึ้น ก็มีการตอบสนองความต้องการตามมา เพราะมีกลุ่มบุคคลที่คิดอยากทำโรงเรียนตามแนวที่ไม่ได้จำกัดในวังวนเดิม ในอันจะมุ่งสอนให้เด็กเป็นคนเก่ง แต่กลับต้องการสอนให้เด็กเป็นคนดี สอนให้รู้จักวิถีของชีวิต หนึ่งในนั้นคือ “โรงเรียนทอสี” โรงเรียนเล็กๆ แห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ด้วยจำนวนนักเรียนขณะนี้กว่า 400 คน

โรงเรียนทอสี ‘วิถีแห่งพุทธ’ แรงบัลดาลใจของครูอ้อน

 

“ทอสีไม่ใช่โรงเรียนทางเลือก แต่เป็นโรงเรียนทางหลัก” หนึ่งในบทสนทนากับ คุณครูอ้อนบุบผาสวัสดิ์ รัชชตาตะนันท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนทอสี สาเหตุที่ทำให้ครูอ้อนกล่าวเช่นนั้น เป็นเพราะเชื่อมั่นในการเรียนการสอน โดยยึดหลักพุทธปัญญา จะช่วยรักษาความป่วยของสังคมไทยได้ หลักการสอนโดยนำเอาพุทธปัญญามาเป็นแกนหลักในการเรียนการสอนนั้น จะเน้นสอนให้เด็กเป็นคนดี ซึ่งต่างจากโรงเรียนอื่นทั่วไป เน้นสอนให้คนเก่ง แต่เก่งแล้วเอาเปรียบผู้อื่น แก่งแย่งผู้อื่น แย่งชิงกับคนอื่น ได้สร้างความป่วยให้กับสังคมไทย

“คุณครูอ้อน” อธิบายถึงที่มาของการริเริ่มนำ “พุทธปัญญา” เข้ามาเป็นแกนหลักในการเรียนการสอนของโรงเรียนทอสี ว่า เดิมที “ทอสี” เปิดสอนระดับอนุบาลมาตั้งแต่ปี 2534 จนเมื่อปี 2542 มีแนวคิดจะเปิดสอนระดับประถมศึกษา จึงได้ระดมความคิดจากผู้ปกครองเด็ก ผองเพื่อนของคุณครูอ้อน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการศึกษา และในขณะนั้นมีพระอาจารย์ชยสาโร ซึ่งเป็นผู้สอนครูอ้อนถึงหลักปฏิบัติธรรมเข้าร่วมฟังด้วย

ในที่ประชุมต่างระดมความคิดเห็นหลากหลาย แต่เมื่อยังไม่ได้ข้อสรุป ทางพระอาจารย์ชยสาโรได้เอ่ยขึ้นว่า ในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้ามีหลักการพัฒนามนุษย์ที่เรียกว่า “ไตรสิกขา” ทำไมไม่นำหลักคำสอนนี้มาใช้เสียเล่า

โรงเรียนทอสี ‘วิถีแห่งพุทธ’ แรงบัลดาลใจของครูอ้อน

 

มนุษย์เราสัมพันธ์กับโลกภายนอก ไม่ว่ากับมนุษย์ด้วยกันเอง ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี ในเรื่องของโลกภายนอกมีความรู้มากมายในตำรับตำราสามารถค้นคว้าอธิบายได้ แต่เรื่องของโลกภายในจะเป็นเรื่องของจิตใจและปัญญา ซึ่งตามหลักคำสอนของไตรสิกขาจะมุ่งพัฒนามนุษย์ทั้งทางด้านพฤติกรรม จิตใจและปัญญา

“พี่เป็นชาวพุทธตามทะเบียนบ้าน ไม่ได้มีความรู้ทางด้านพุทธศาสนาเลย ตอนเรียนก็เรียนโรงเรียนคริสต์มาตลอด คุณแม่ของพี่ก็เช่นกัน แต่พอได้ฟังท่านอาจารย์พูดแล้วรู้สึกว่าทำไมมันครบถ้วนบริบูรณ์ ที่ผ่านมาสิ่งที่เราเรียนมาตลอดชีวิต คือการเรียนเฉพาะโลกภายนอก ไม่ได้เรียนโลกภายใน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสนใจจะนำหลักพุทธปัญญาเข้ามาใช้ในการเรียนการสอน”

ครูอ้อน กล่าวอีกว่า “ทอสี” ไม่ได้พัฒนาเพียงแต่ความรู้ทางด้านวิชาการ แต่อะไรที่เกี่ยวข้องกับชีวิต หรือที่เรียกว่าวิถีชีวิต เป็นการเรียนทั้งภายในและภายนอก ที่ผ่านมามีแต่คนบอกว่าประเทศไทยมีคนเก่งมากมาย แต่ประเทศไม่ไปไหนซะที นั่นเป็นเพราะเราเรียนแค่ในห้องเรียน

โรงเรียนทอสี ‘วิถีแห่งพุทธ’ แรงบัลดาลใจของครูอ้อน

 

แต่ทั้งนี้ก็ยอมรับว่ามีผู้ปกครองบางท่านไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการสอนยึดหลักพุทธปัญญา นำลูกลาออกย้ายไปอยู่ที่อื่นบ้าง โดยให้เหตุผลว่าหลักสูตรไม่เข้มข้นมากพอ นั่นเป็นเพราะเขาโตมาแบบนั้น เขาเคยชินกับการเรียนการสอนแบบนั้น และอยากให้ลูกเป็นแบบนั้น ซึ่งเราก็เข้าใจ

อีกนัยหนึ่งที่ทำให้ “ทอสี” และผู้ปกครองไปด้วยกันไม่ได้ หรืออาจเรียกได้ว่า “จริตไม่ตรงกัน” คือ โรงเรียนทอสีให้ความสำคัญกับศีล ครูต้องมีศีล 5 ทางด้านผู้ปกครองเช่นกัน เราจะคุยกับผู้ปกครองในเรื่องนี้ อย่างเช่นทุกปีโรงเรียนจะจัดทัศนศึกษาปีละ 1 ครั้ง ทางโรงเรียนจะกำหนดห้ามไม่ให้ผู้ปกครองเปิดวงเหล้า วงไพ่ เพราะเรามองว่าพ่อแม่ต้องปฏิบัติให้ลูกเห็นการมีศีล ในแง่ของเด็กทางโรงเรียนจะมีการวัดระดับศีลด้วย “คุณธรรม 12 ประการ”

การยึดหลักพุทธปัญญานำมาใช้ในการเรียนการสอนไม่ได้หมายความว่า “ทอสี” จะไม่เน้นเรื่องวิชาการ แต่เป็นเพราะเราเน้นที่กระบวนการเรียนรู้มากกว่า สอนให้เด็กรู้จักและเข้าใจธรรมชาติ เพราะบทเรียนบทแรกของเด็ก คือ “การดูแลตัวเอง” เพราะถือเป็นพื้นฐานของสาระวิชาทั้งหลาย เขาจะต้องสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ถือกระเป๋าด้วยตัวเอง จัดกระเป๋ามาโรงเรียนเอง ไม่มีคนคอยถือให้ มิเช่นนั้นแขนขาเด็กจะอ่อนแรง ย่อมทำให้จิตใจอ่อนแอตาม

โรงเรียนทอสี ‘วิถีแห่งพุทธ’ แรงบัลดาลใจของครูอ้อน

 

“บทพิสูจน์อันหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่าทอสีไม่ได้อ่อนด้อยทางด้านวิชาการ นั่นคือการทดสอบระดับชาติชั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เมื่อปี 2554 ปรากฏว่า ปีนั้นเราได้อันดับที่ 6 จากกว่า 100 โรงในเขต 1 กรุงเทพมหานคร เราได้ทั้งวิชาการและวิชาชีวิต” ครูอ้อน กล่าว

เส้นทางการทำหน้าที่เป็นเบ้าหลอมให้กับระดับประถมศึกษาอาจไม่เพียงพอสำหรับ “ทอสี” เพราะมีแนวคิดในอันที่จะนำหลักการสอนนี้ ขยายขอบเขตไปถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จนถึงปีที่ 6 และเป็นที่มาของ “โรงเรียนปัญญาประทีป”

“วิทิต รัชชตาตะนันท์” คู่ชีวิตของครูอ้อน และผู้อำนวยการโรงเรียนปัญญาประทีป ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของ “ปัญญาประทีป” ว่า คุณแม่ของครูอ้อน “คุณแม่ทอสี สวัสดิ์ชูโต” บริจาคที่ดินที่ปากช่องเพื่อให้จัดตั้งโรงเรียนปัญญาประทีป และขณะนี้ผุดโครงการ “ร้านกุศลกำลังสาม” เปิดรับบริจาคสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว และนำไปขายในราคาถูก นำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ไปช่วยสร้างอาคารโรงเรียนปัญญาประทีปเพิ่มเติม

เมื่อคิดว่าจะทำก็ตั้งใจว่าจะทำให้ดี ต้องการเป็นโรงเรียนต้นแบบ และใช้หลักการเดียวกับทอสี นั่นคือการนำพุทธปัญญามาใช้ ต่างตรงที่ “ปัญญาประทีป” จะเป็นโรงเรียนประจำ เป้าประสงค์ต้องการบ่มเพาะพุทธปัญญาให้กับเด็ก ซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่น หากให้ไปกลับอาจมีข้อจำกัดทางด้านเวลา จึงได้ข้อสรุปจะทำเป็นโรงเรียนประจำขึ้น

“ความยากมันอยู่ตรงนี้ เป็นโรงเรียนประจำ และเป็นเด็กวัยรุ่น สหศึกษาด้วย อายุอยู่ในวัยที่น่ากลัวมาก เพราะฮอร์โมนฉีด ตอนเริ่มต้นเมื่อปี 2552 เรายังอ่อนประสบการณ์ ไม่มีทักษะในการคัดกรอง และเรายังไม่มีชื่อเสียงพอ คนที่มาสมัครปีแรก ลูกจะมีปัญหาไปไหนไม่ได้แล้ว” วิทิต กล่าว

ปีนี้เป็นปีที่ 6 ที่ได้ก่อตั้ง “ปัญญาประทีป” ขณะนี้มีนักเรียนทั้งหมด 71 คน จากทั้งหมด 6 ชั้น ไม่ใช่ไม่มีคนมาสมัครแต่เราต้องการคัดกรองคนที่คิดว่ามีความสนใจ ตั้งใจจริง พร้อมจะร่วมมือเต็มที่ ไม่มีเด็กลักษณะพิเศษเกินไป และอยากทำชั้นละ 1 ห้อง จำกัดไม่เกิน 25 คนต่อห้อง

มีคนชอบถามผมบ่อยๆ ว่า สอนให้เด็กเป็นคนดี โอบอ้อมอารี จะอยู่รอดในสังคมที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดี เต็มไปด้วยความโหดร้ายได้อย่างไร ผมอยากจะบอกว่า คำว่าคนดีในพุทธศาสนา คือดีควบคู่ไปกับเก่ง ซึ่งดีกว่าจะสอนให้เด็กเก่งแต่ขี้โกง

แต่ก็นั่นแหละ หากสังคมไทยยังยึดติดกับการวัดระดับคุณภาพจากความเก่งของเด็กด้วยการแข่งขัน “ปัญญาประทีป” ไม่ได้น้อยหน้าใคร กลับสร้างความประหลาดใจให้กับระบบการศึกษาของไทย เพราะโรงเรียนที่เพิ่งเปิดสอนไม่ถึง 10 ปี ปรากฏว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 สอบโอเน็ตระดับประเทศได้คะแนนเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ขณะที่ 3 อันดับแรก เดาชื่อได้ไม่ยาก เตรียมอุดมฯ สวนกุหลาบ สตรีวิทย์

ครูอ้อน กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า โรงเรียนของเราเป็นคำตอบของการแก้ปัญหาสังคมที่ป่วย ทุกวันนี้เราต้องใช้การศึกษามารักษาอาการป่วยของสังคม โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งหมอ พึ่งพยาบาล

ข่าวล่าสุด

เตือนข่าวปลอม “หลอกลงทุนหุ้น OR” ระวังสูญเงิน - ข้อมูลส่วนบุคคล