หนุ่มเซอร์เสียงเท่ ศรัญ ฌอน แอนนิ่ง
เจอหน้าค่าตาตัวเป็นๆ ก็แทบไม่ต่างกับภาพที่เห็นในมิวสิควิดีโอ “ศรัญ ฌอน แอนนิ่ง” มาพร้อมลุคเซอร์ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา
โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
เจอหน้าค่าตาตัวเป็นๆ ก็แทบไม่ต่างกับภาพที่เห็นในมิวสิควิดีโอ “ศรัญ ฌอน แอนนิ่ง” มาพร้อมลุคเซอร์ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ผมเผ้ายุ่ง ประกายดวงตาปรากฏเด่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่น รอยยิ้มที่มุมปากช่วยให้เขาแลดูผ่อนคลายลง
ลำพังแค่ลุคภายนอกทั้งหมด คงยังไม่เพียงพอที่เขาจะเข้าไปนั่งในใจแฟนเพลงได้ แต่ด้วยเพราะจุดขายสำคัญในฐานะนักร้อง เสียงเท่ที่ไม่เหมือนใครและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นต่างหาก จึงกลายเป็นใบเบิกทางให้เขาก้าวมายืนอยู่ ณ จุดนี้
นักร้องน้องใหม่แห่งค่ายดั๊กบาร์ (เครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) มีเลือดความเป็นไทยอยู่ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งนั้นเขาสืบเชื้อสายมาจากออสเตรเลีย ทั้งคุณพ่อคุณแม่หนุนหลังเต็มที่กับการมาเป็นนักร้อง ขณะที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้และฝึกปรือวิชา อันมีเหล่าครูๆ ทั้งหลายทำหน้าที่เคี่ยวกรำให้
“ตอนนี้ผมอายุ 18 ปี สำหรับผม 18 ปี มันก็ถือว่าเร็วนะที่จะได้มาเป็นนักร้อง เพราะเหมือนมันเพิ่งพ้นวัยเกๆ มาไม่เท่าไหร่ ซึ่งถ้าเร็วกว่านี้ ผมคงเละครับ (หัวเราะลั่น)
ผมเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 11 มาเรียนที่แกรมมี่นี่ละครับ เดิมทีผมก็ฝึกร้องอยู่ที่บ้าน ไม่ได้จริงจังอะไรหรอกครับ มาจริงจังหลังเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดของแกรมมี่ อายุตอนนั้นน่าจะ 15 ปีครับ ฝึกทุกอย่าง ฝึกเรื่องการออกเสียง การใช้ภาษา การเน้นเสียง รวมไปถึงทักษะอื่นๆ ด้วย เช่น เรื่องสเกล เรื่องการหายใจ”
ใช้เวลาร่วม 3 ปีเต็ม จากศิลปินฝึกหัด ประสบการณ์น้อย อ่อนด้อยด้วยเวที วันนี้ศรัญขยับสู่ศิลปินเดี่ยว พร้อมส่งซิงเกิ้ลแรกออกมากำนัลแฟนๆ “มองแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน”
“ส่วนร่วมในการทำเพลงนี้ ถ้าไม่นับเรื่องการร้องก็ยังไม่มีมากครับ ผมจะช่วยพี่ๆ ทีมงานแค่นำสิ่งที่ผมชอบ เช่น เพลง ดนตรี หรือสไตล์ มาทำเป็นเรฟเฟอร์เรนซ์ อะไรที่สามารถเป็นไปได้ในซิงเกิ้ลแรก อย่างอื่นยังครับ เรื่องแต่งคำร้องก็อยากแต่งนะครับ ก็เคยลองแต่งเล่นๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากแต่งเองร้องเองเหมือนกันครับ
แนวเพลงผมจะออกประมาณป๊อปร็อก เป็นแนวที่ผมชอบอยู่แล้ว ใจจริงผมนะ ผมอยากให้มันร็อกกว่านี้ มันน่าจะมันกว่านี้หน่อย ก็คงต้องรอเวลาอีกสักพักครับ เพราะเหมือนผมก็เพิ่งเข้ามาเป็นศิลปิน อาจจะยังไม่ร็อกเท่าไหร่ ถ้ามีโอกาสและพี่ๆ ทีมงานให้โอกาส ผมก็อยากร็อกให้มากกว่านี้ครับ”
ผลตอบรับที่มีต่อศรัญ เรียกว่าเกินคาด กระแสและคำวิจารณ์ค่อนข้างดี ยอดวิวมิวสิควิดีโอก็ล้นหลาม สำหรับนักร้องน้องใหม่ถือว่ามาถูกทาง ได้ใจแฟนๆ ที่ชอบเสียงเท่ๆ และลุคเซอร์ๆ ของเขา
“พอมาเป็นนักร้องเต็มตัวแล้ว มันทำให้ผมต้องเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ต้องเป็นมืออาชีพมากขึ้น แต่ก่อนก็ตามประสาเด็กๆ เอะอะอะไรก็จะไม่อยากทำ ไม่มีระเบียบวินัย ไม่ค่อยรับผิดชอบ ความอดทนน้อย อยากพูดอยากทำอะไรก็ฉับพลัน ไม่คิดหน้าคิดหลัง ตอนนี้ไม่ได้ล่ะ ทุกอย่างมันต้องมีระเบียบวินัย ต้องคิดก่อนจะพูดและทำ ทั้งชีวิตส่วนตัวและชีวิตทำงาน ก็ค่อยๆ ปรับตัวกันไปครับ”
แม้จะมีลุคที่ชวนสะดุดตา สาวๆ เห็นแล้วต้องกรี๊ดสลบ แต่นักร้องหนุ่มลูกครึ่งไทยออสเตรเลีย ก็ยอมรับว่าเสน่ห์ที่ตรึงใจแฟนเพลง คือ เสียงของเขา เสียงที่พร้อมจะสะกดคนฟังได้อยู่หมัด เมื่อนำมารวมกับลุคเซอร์ มันจึงเป็นส่วนผสมทางเคมีที่มีจุดขาย
“ไม่รู้สิครับ ผมก็แค่คนชอบร้องเพลง ผมก็จะร้องให้มันเต็มที่ เพราะผมคิดว่าผมคือคนขายเสียง และมันน่าจะเป็นสิ่งที่เข้าถึงคนฟังได้ง่ายกว่าอย่างอื่นนะ”
ถ้าเปรียบเป็นขั้นบันได จุดที่ศรัญกำลังยืนอยู่ ก็นับว่าเป็นแค่บันไดขั้นแรกที่เขาทำสำเร็จแล้ว ส่วนบันไดขั้นต่อไปของนักร้องหนุ่มรายนี้จะมีทีเด็ดอะไร ความเซอร์กับความเท่ ยังจะเป็นแรงดึงดูดใจได้หรือไม่ รวมทั้งอารมณ์ร็อกเกอร์จะเพิ่มมากขนาดไหน ได้โปรดรอติดตาม
ศรัญคือชื่อที่คุณแม่ตั้งให้ ความหมายชื่อนี้ ตัวศรัญเองก็ไม่รู้ แต่ในพจนานุกรม บอกไว้ว่า มาจาก 2 คำ ศร (สันสกฤต) สนธิกับ อัญ อัญญะ (บาลี) แปลว่า อาวุธชนิดหนึ่งที่ต่างไป (ศรที่ต่างไป ศรที่แปลกไป) หรือ ความแกล้วกล้าที่ต่างไป
นอกจากจะมุ่งมั่นกับการเป็นนักร้องแล้ว ศรัญยังมุ่งมั่นกับการเรียน ปัจจุบันเขาเป็นนิสิตชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ภาคอินเตอร์) “ตั้งใจเลือกนิเทศเลยครับ เพราะอยากเรียนนิเทศอยู่แล้ว เพราะคิดว่านิเทศเป็นศาสตร์ที่น่าจะนำมาปรับใช้กับการทำงานในวงการได้ครับ”
ซิงเกิ้ล “มองแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน” (เนื้อร้อง เผ่าพันธุ์ อมตะ/โปรดิวเซอร์ ธนะพล ฤกษ์สมผุส อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ แห่งวงแคลช) บาดลึกด้วยความหมาย ขณะที่ตัวมิวสิควิดีโอก็น่าสนใจไม่เบา นำเสนอในรูปแบบหนังสั้นชื่อ Sweet Summer (กำกับ ประพัฒน์ คูศิริวานิชกร) หาชมเต็มๆ ได้ในยูทูบ
ปั๊บ โปเตโต้ (พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข) คือ ศิลปินที่ทำให้ศรัญฝันอยากเป็นนักร้อง มีอิทธิพลตั้งแต่สไตล์การร้อง กระทั่งการแต่งตัว และเพลง “ทนพิษบาดแผลไม่ไหว” ก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่มีผลต่อการฟังเพลงของศรัญ “ก่อนหน้านี้ผมจะฟังแต่เพลงสากล โปเตโต้ คือ วงดนตรีไทยวงแรกที่ทำให้ผมหันมาฟังเพลงไทย ตอนนั้นสังคมที่ผมอยู่ก็ไม่มีใครฟังเพลงไทย พอเปลี่ยนโรงเรียนก็มีโอกาสเจอคนไทย ฟังเพลงไทยมากขึ้น”


