posttoday

ความสัมพันธ์บนความต่าง ‘ขวัญ จิตราวิณี’ แอนด์เดอะแก๊ง!

02 สิงหาคม 2557

“เพื่อนกัน ต่อเมื่อไรก็ติด” น่าจะเป็นคำที่เหมาะกับความสัมพันธ์ของเพื่อนกลุ่มนี้ของ ขวัญ-จิตราวิณี วรรณกร

โดย...พรสวรรค์ นันทะ /ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน


“เพื่อนกัน ต่อเมื่อไรก็ติด” น่าจะเป็นคำที่เหมาะกับความสัมพันธ์ของเพื่อนกลุ่มนี้ของ ขวัญ-จิตราวิณี วรรณกร ผู้บริหารฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารกสิกรไทย สาวเก่งอีกคนของวงการแบงก์ ที่สำคัญความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม กระทั้งในระดับมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ และมหาวิทยาลัยต่างประเทศ กระทั่งเรียนจบมาทำงานเป็นผู้บริหารอย่างในปัจจุบัน ความเป็นเพื่อนของพวกเขาก็ไม่เคยสะดุดลงเลยสักครั้ง

มีแต่จะพอกพูนความรักและผูกพันกันมากขึ้น มากไปกว่านั้นความแตกต่างของหน้าที่การงาน บุคลิก และนิสัยที่ไม่เหมือนกันเลย รวมถึงระยะห่างที่ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองในต่างประเทศ ก็ไม่ทำให้มิตรภาพที่ดีระหว่างเพื่อนลดน้อยลงเลย

เราเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้กันเสมอ

ขวัญ เริ่มเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแก๊งนี้ที่คบหากันมาเนิ่นนาน อย่างได้อรรถรสว่า เราคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.4 แล้วก็ต่อมาที่จุฬาฯ จนวันนี้เราไม่เคยทะเลาะกันเลย มีแต่รักกันเป็นห่วงกันมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่ถ้าถามถึงสิ่งที่ทำให้เราคบกันมาได้นานขนาดนี้ ทั้งที่บุคลิกนิสัยก็แตกต่างกัน แถมเรายังมีช่วงเวลาที่ห่างกันไปเรียนต่อต่างประเทศนานหลายปีด้วยแล้ว พี่คิดว่าคงเป็นเพราะเราเติมเต็มให้กันในสิ่งที่เพื่อนขาด หรือเพื่อนเติมให้เราได้ในสิ่งที่เราไม่มี

เริ่มตั้งแต่คบเพื่อนกลุ่มนี้มา ทั้งที่จริงๆ เราเรียนคนละคณะ เพราะพี่เรียนคณะนิเทศศาสตร์ ส่วนเพื่อนอยู่คณะอักษรศาสตร์และรัฐศาสตร์ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน ชวนมาเจอกันเมื่อไร ชวนกันไปรับประทานข้าวที่ไหน หรือจะปรึกษาอะไรก็มักจะได้เสมอ เรียกว่าต่อเมื่อไรก็ติด แม้จะมีช่วงหนึ่งที่หายไปบ้าง เพราะด้วยปัญหาส่วนตัว หรือภาระหน้าที่บ้างก็ตาม

เพื่อนกลุ่มนี้เราไม่ได้รักกันที่เงิน เพราะเราไม่ได้มีปัญหาการเงินที่ต้องช่วยกัน ขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีภาวะวิกฤตในชีวิตที่ต้องช่วยเหลือจนซึ้งใจกันชนิดลืมไม่ลงอะไรทำนองนั้น เพียงแต่ทุกครั้งที่เรารู้สึกไม่มีใคร อย่างพี่ก็โสด เวลาเหงา ก็จะคิดถึงเพื่อน มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนเคยขับรถไปชน จำเป็นต้องไปดูคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บ อยากได้เพื่อนไปด้วยเพื่อความอุ่นใจเผื่อมีปัญหา พี่ก็นึกถึง ปั้มรณพันธุ์ ยันต์ทอง เพราะรู้สึกว่าเพื่อนเป็นที่พึ่งพาได้ในยามที่ต้องเผชิญปัญหาหรือยากลำบาก รวมทั้งเอาส่วนที่ปั้มมี คือ ความแปลกใหม่ สบายใจ เฮฮา ไม่เครียด โดยธรรมชาติเรามีน้อยมาเติมเต็มได้ด้วย

ความสัมพันธ์บนความต่าง ‘ขวัญ จิตราวิณี’ แอนด์เดอะแก๊ง!

 

หรืออีกรูปแบบหนึ่งที่เราประทับใจ จากการที่เพื่อนเติมเต็มให้เรา โดยตัวเองเป็นคนที่เชื่อมั่น ตัดสินใจด้วยเหตุด้วยผล จึงมักจะช่วยเพื่อนฟันธงในบางครั้งที่ต้องการการตัดสินใจ เพื่อให้เรื่องต่างๆ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันผ่านไปได้ อย่างเรื่องสถานที่เที่ยว เลือกร้านอาหาร ฯลฯ พี่จะช่วยเคาะเรื่องจะได้จบและได้ไปกินกันซะที เป็นต้น แต่ด้วยความที่ดูข้างนอกเป็นคนเข้มแข็ง เชื่อมั่น เด็ดเดี่ยว แต่เอาเข้าจริงบางเรื่องเราก็ต้องมีที่พึ่งพาคือเพื่อน เพราะคนเราคงไม่ได้มั่นใจตลอดเวลา หรือมั่นใจในทุกเรื่อง ก็อาจจะต้องพึ่งพาในยามที่เครียดจากงาน อยากได้คำปลอบโยน ดูแล ได้ความอบอุ่นเหมือนมีแม่ดูแลก็จะนึกถึง เติมโศธนา ศรีชัย เพราะเราเอาความอ่อนโยนของเขามาทำให้ความกระด้างของอารมณ์ตัวเองน้อยลง เติมซอฟต์ เติมอารมณ์ของความเป็นแม่ มันช่วยให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้นจากวิถีปกติที่ใช้ในการทำงาน

“พี่มีเพื่อนเยอะแยะหลายกลุ่ม ทำงานมาหลายด้าน ทั้งไอที เอเยนซี จนมาทำแบงก์ แต่เพื่อนๆ กลุ่มอื่นๆ เหมือนมันมีรอย 10 รอย เพื่อนกลุ่มอื่นต่อได้บางรอย แต่เพื่อนกลุ่มนี้ต่อได้ครบทั้ง 10 รอย ไม่มีรอยต่อเลย มันเชื่อมสนิท คุยได้ทุกเรื่องไม่ต้องไปแอ๊บ คุยดารา คุยการเมือง คุยการงาน ทั้งสาระและไม่สาระได้หมด สบายใจ” ขวัญกล่าวสรุปบทสนทนาด้วยความประทับใจ

ในความแตกต่างมักมีจุดเชื่อม

เติมโศธนา ศรีชัย เพื่อนสนิทอีกคนในแก๊ง ซึ่งปัจจุบันทำงานที่บริษัท Compliance Associate Director ซึ่งเป็นบริษัทยา เล่าถึงมิตรภาพที่ประทับใจของเพื่อนๆ ว่า จริงๆ เพื่อนกลุ่มนี้แตกต่างกัน พี่เองเคยห่างไปเรียนอเมริกาตั้งนาน แต่กลับมาก็ต่อติดทุกที เป็นเพื่อนกันต่อกันเมื่อไร่ก็ติด ที่ประทับใจเพื่อนนะ อย่างขวัญเรามีความแตกต่างกัน แต่เรายังมีจุดเชื่อมกันเสมอ เพราะถึงจะห่างกันบ้างเป็นช่วงๆ ก็จูนกันติด

จริงๆ ไม่ได้เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมแล้ว แต่คบกันมาเรื่อยๆ เขาไม่เคยทิ้ง เพราะทุกครั้งที่เราบ่นหรือเปรยไปในกลุ่ม ซึ่งติดต่อกันได้สะดวกขึ้นในโลกโซเชียล กลุ่มนี้จะมีเพื่อนที่คบกันสนิทมานาน 67 คน เช่น ทางไลน์ ว่ากลุ่มมีปัญหาอะไร ก็ต้องมีใครสักคนตอบมา คือเขาไม่ทิ้งเรา อย่างเมื่อปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่พี่เคยมีปัญหาครอบครัวซึ่งเรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตที่ไม่เคยเจอมาก่อน ทันทีที่เราบอกเพื่อนก็มาทันที มันมีกำลังใจ

สิ่งที่ได้จากเพื่อน คือ เพื่อนไม่ได้พูดอะไรให้เราเสียใจเลย ไม่ได้ว่าเราผิดหรือถูก ไม่ได้ว่าอีกฝ่ายด้วย เพื่อนมีความเคารพในพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ของคนอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้เรารู้สึกว่าเราเลือกเพื่อนถูก เพราะมีเพื่อนอีกกลุ่มที่พอรู้ปัญหาก็อยากถามเจาะลึกอินไซด์ แต่เพื่อนกลุ่มนี้ไม่เคยขุดคุ้ย ไม่พูดนินทาต่อ ช่วยให้เราผ่อนคลาย แถมเพื่อนยังช่วยดูแลลูก 3 คนของเราด้วย นับว่าเป็นเพื่อนที่หายาก เพราะเพื่อนไม่มาตัดสินใจเรา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็พร้อมจะอยู่เบื้องหลังเป็นแบล็กอัพให้เราสู้ ให้เราเผชิญปัญหาต่อไปได้ ประทับใจจนความสัมพันธ์ที่ดีส่งต่อไปถึงลูกๆ ของเราที่รักเพื่อนๆ เรามากด้วย

ถ้าถามถึงการช่วยเหลือทางด้านการงานจะไม่ค่อยมี เพราะหน้าที่การงานต่างกันมาก เลยไม่ค่อยได้ช่วยกันมากนัก แต่ก็ปรึกษากันบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นที่ปรึกษาทางใจมากกว่า เพราะคบกันจนเหมือนญาติ คุยได้ทุกเรื่อง และเพื่อนยังเติมในเรื่องที่เราขาดด้วย อีกอย่างกลุ่มนี้พูดอะไรก็รับกันได้ แม้จะงอนกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ไม่เคยเกลียดกัน มันเหมือนเรายอมรับในความแตกต่างของกันและกัน และเติมเต็มให้กันได้ เพราะกลุ่มนี้มันยอมรับในความไม่เหมือนของกันละกันได้ บางมุมเราไม่ชอบก็ไม่เป็นไร แต่เรามีอะไรที่แชร์กันได้เสมอ

อีกเรื่องที่ประทับใจในเพื่อนๆ ทั้งขวัญและปั้ม คือ ทั้งสองคนมีความกตัญญูมาก อย่างขวัญจะต้องมีตารางเพื่อทำในสิ่งที่แม่ชอบตลอดเวลา ทั้งไปวัดพระแก้ว ไปไหว้พระ หรืออย่างปั้ม แม่เป็นอัมพฤษก์และอายุ 70 กว่าปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้แม่เหงา พาไปเดินห้าง พาไปโน้นนั้น ดูแลมาตลอด 7 ปี ที่รับแม่มาอยู่บ้านด้วย

ไม่เอาเปรียบและอย่าคาดหวัง

ปั้มรณพันธุ์ ยันต์ทอง เพื่อนอีกคนที่นั่งฟังการสนทนามาตลอดถึงเขาจะมีตำแหน่งเป็น Associate Director Integrated Planning ที่บริษัท MSD (Thailand)Ltd. บริษัทโฆษณาชื่อดัง แต่ตลอดการสนทนาไม่เคยพูดสิ่งที่เป็นการยกตัวเองว่าฉลาดกว่าเพื่อนเลย แม้จะทำงานด้านโฆษณาที่ต้องใช้ความคิดที่ชาญฉลาดในการทำงานก็ตาม ก่อนจบการพูดคุยเรื่องราวของเพื่อน เขากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ความเข้าใจในความเป็นเพื่อนที่ยอมรับกัน คือ ไม่เอามาเปรียบเทียบ และไม่เอามาคาดหวัง ไม่เอานิสัยจุกจิกมาใช้กับเพื่อนๆ หรือชวนกันไปไหนก็ไม่ต้องมารอให้ครบ เพราะในวิถีชีวิตของความเป็นจริงมันไม่มีอะไรพร้อมหมด แต่คบกันแล้วก็ให้ได้ความสบายใจ

แม้เราจะอยู่คนละชั้นปี อยู่กันคนละคณะ เรียนกันคนละอย่าง แต่พอเจอกันก็คุยกันได้ มีช่วงหนึ่งที่ 2 คนห่างกันไปเรียนต่อต่างประเทศแต่ความเป็นเพื่อนก็คงอยู่ ให้คุยกันได้แทบทุกวัน ทั้งเรื่องชีวิต การงาน ถึงชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งหนึ่งที่มีให้กันเสมอ คือ เวลาเราอยากได้คำปลอบใจ คำแนะนำ ซึ่งไม่ใช่การสั่งว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เพื่อนให้คำแนะนำและมุมมองอีกมุมเพื่อให้เราคิดรอบคอบมากขึ้น เพื่อให้ความสัมพันธ์เดินหน้าต่อไป

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"