posttoday

เดมอน อัลบาร์น สู่อดีตเพื่ออนาคต

22 กรกฎาคม 2557

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

Damon Albarn

Everyday Robots***/Warner Music

อยู่ในวงการเพลงกว่า 20 ปีแล้ว แต่ “เดมอน อัลบาร์น” เพิ่งจะมีโซโลอัลบั้มชุดแรก แต่ที่ชื่อของเขาไม่เคยห่างหายไปจากการรับรู้ของคนฟังเพลงเลยตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมานั้นก็เพราะผลงานซึ่งเขาทำทั้งกับ “เบลอร์” วงบริตป็อบอันโด่งดังในปี 1990 รวมถึงวงเวอร์ชวลฮิปฮ็อป/อิเล็กทรอนิกา/อินดี้อย่าง “กอริลลาส์” และโปรเจกต์พิเศษที่เป็นเหมือนการทดลองทางดนตรีสำหรับเขา ไม่ว่าจะเป็นอัฟริกัน มิวสิค, โอเปร่า ฯลฯ ถ้าคิดอยากทำ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยรอช้า

มาถึงงานส่วนตัวชุด Everyday Robots กันบ้าง เดมอน อัลบาร์น บอกว่า นี่คือการเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่วัยเยาว์ ซึ่งเป็น “สิ่งที่ทำให้ผมเป็นผมในตอนนี้ นี่คือที่ที่ผมจากมา และเหตุผลที่ว่าผมเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร”

30 กว่าปีที่แล้ว ก่อนที่เจ้าหนูเดมอน อัลบาร์น ลูกชายวัย 9 ขวบ ของครูสอนศิลปะและดีไซเนอร์จากเลย์ตันสโตน (ตะวันออกของลอนดอน) จะย้ายไปอยู่ชนบทในเอสเซ็กส์กับครอบครัว เขามีโอกาสไปเที่ยวอิสตันบูลกับเพื่อนของครอบครัว การเดินทางไกลในครั้งนั้นทำให้หนุ่มน้อยได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและออกสำรวจโลกกว้าง ประสบการณ์ครั้งนั้นมีผลกับชีวิตทั้งชีวิต บวกกับการเผชิญชีวิตในเมืองใหม่เมื่อกลับมาอังกฤษ เดมอนถูกกันให้กลายเป็นคนนอก เขาถูกผลักดันให้เข้าหาหนังสือ และออกสำรวจพื้นที่ระแวกบ้านลำพัง จนกระทั่งได้พบกับ เกรแฮม ค็อกซอน ทำให้ดนตรีกลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิต และก่อให้เกิดวงดนตรีบริตป๊อปชื่อ เบลอร์ ตามมา

ช่วงเริ่มต้นแต่งเพลงสำหรับอัลบั้มนี้ เดมอน อัลบาร์น ได้กลับไปเยือนเลย์ตันสโตนที่ซึ่งเขาเติบโตขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเก็บภาพสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีความหมายสำหรับเขา นั่นเป็นเหมือนการได้ย้อนเวลาไปสู่อดีต เนื้อหานั้นเกี่ยวข้องกับความรัก ความสูญเสีย การเติบโต และการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับวัยที่เพิ่มมากขึ้น โทนของเพลงค่อนข้างหม่นเศร้า เดมอนบอกว่า ตัวตนจริงๆ ของเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ ออกจะตรงข้ามมากกว่า แต่ที่เพลงออกมาเฉดสีนี้ก็เพราะการผลักดันของ ริชาร์ด รัสเซลล์ โปรดิวเซอร์และเจ้าของค่ายเอ็กซ์แอลเรคอร์ดสมาช่วยดูแลอัลบั้มนี้ และ “อาจจะเป็นเพราะคอร์ดที่ผมใช้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับงานโฟล์กอังกฤษมากๆ”

อัลบั้มอัลเทอร์เนทีฟ ป๊อป/ร็อก อย่าง Everyday Robots มีเพื่อนบ้านไฮโซในย่านเวสต์ลอนดอนของเดมอน คือ ไบรอัน อีโน มาเป็นแขกรับเชิญ โดยพ่อมดเพลงอิเล็กทรอนิกส์มาร่วมร้องเพลง Heavy Seas of Love คู่กับเดมอน คณะนักร้องเลย์ตันสโตน ซิตี้ มิชชั่น มาร้องประสานในเพลง Mr.Tembo ด้วย

เครื่องเคราดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ถูกนำเข้ามาใช้ โดยผสมผสานเข้ากับดนตรีอะคูสติก เพลงส่วนใหญ่จังหวะเนิบช้า ยกเว้น Mr.Tembo เพลงที่เดมอนแต่งให้กับลูกช้างซึ่งเขาได้พบในสวนสัตว์ที่แทนซาเนีย เพลงนี้เร่งเร้า สนุกสนาน และมีความสุขกับการกำเนิดของทารกตัวโต

เพลงของเดมอน คือ การเชื่อมโยงระหว่างสมัยใหม่กับอดีตกาลและพูดถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นหุ่นยนต์ เป็นหุ่นยนต์ที่มีวิญญาณ เป็นเพลงแห่งความโดดเดี่ยวและแปลกแยกของผู้คนที่วันๆ เอาแต่ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์มือถือเพื่อคอนเนกกับโลก บทเพลงเหล่านี้ทำให้คนฟังได้กลับไปค้นหาคุณค่าที่แท้ในตัวตนของเรา เป็นเพลงเศร้าสร้อย แต่ยังคงมีไอความอบอุ่นแทรกอยู่

นับเป็นอัลบั้มที่ออกจะเรียบร้อยถ่อมเนื้อถ่อมตัวมากๆ สำหรับศิลปินคนที่สามารถทำได้ทุกอย่าง คนที่ทำให้เราตื่นเต้นได้ทุกครั้งเมื่อกลับมา Everyday Robots อาจจะทำให้ผิดคาด แต่ไม่ผิดหวัง

ไม่เลวเลยจริงๆ สำหรับโซโลอัลบั้มแรกในชีวิตของชายผู้ที่มีประสบการณ์ในวงการดนตรีมากว่า 20 ปี!!!

เดมอน อัลบาร์น ในวัย 46 ปี ใช้ชีวิตอยู่กับศิลปินหญิง ซูซี วินสแตนลีย์ ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ มิสซี ซึ่งตั้งตามชื่อของศิลปินฮิปฮอป มิสซี อิลเลียต

อัลบั้มนี้เกิดขึ้นและสำเร็จลง ณ สตูดิโอส่วนตัวของ เดมอน อัลบาร์น ในลอนดอน ซึ่งเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเขา หากไม่มีทัวร์หรือต้องเดินทาง เดมอนจะอยู่ที่นี่เกือบทุกวัน ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ไม่ต่างกับคนทำงานประจำ “มันดูไม่ค่อยร็อกแอนด์โรลล์เท่าไหร่” แต่เขาชอบแบบนี้ เดมอนไม่อยากเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ “ชีวิตมันสั้นนัก” และเขาก็เกลียดมาก ถ้ามีอะไรมาขัดขวางงานประจำวัน “เพราะมันยากที่จะกลับไปสู่จุดเดิมได้อีก”

*โปรเจกต์ต่อไปของ เดมอน อัลบาร์น คือ โอเปร่า (อีกเรื่อง) สำหรับผู้ชายคนนี้การก้าวไปข้างหน้า คือ สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุด “เราต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่อย่างนั้นแล้วอะไรแย่ๆ จะเกิดขึ้นกับคุณ ถ้าหากคุณยังนิ่งอยู่จุดเดิม เรามาอยู่ที่นี่เพียงแค่ระยะเวลาหนึ่ง ถ้าคุณไม่หายใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือมัวแต่หาข้ออ้าง คุณก็จะสูญเสียเวลาอันมีค่าไป”

ข่าวล่าสุด

ไทยเบฟคว้า 2 รางวัลอาหารจากเวที RED TABLE AWARDS 2025