ย้อนรอย...นักกีฬาเกาเหลา(โค้ช)

ถือเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ชั่วโมงนี้ กรณี “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดทีมชาติไทย ออกมาแฉว่า โดน “โค้ชเช” เชยองซอก โค้ชเทควันโดทีมชาติไทยลงโทษเกินกว่าเหตุ เนื่องจากมาแข่งขันช้าและไม่พร้อมลงสนาม จนเป็นเหตุให้แพ้คู่แข่งจากเกาหลีใต้ 4-15 คะแนน ในรายการโคเรีย โอเพ่น ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ซึ่งภายหลังโค้ชเชได้เรียกประคุม และทำโทษด้วยการต่อย ซึ่งก้อยทนไม่ได้เอารูปมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตในขณะนี้

จากเหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นระหว่างนักกีฬากับโค้ช เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเปรียบเสมือนลิ้นกับฟันอยู่ที่ว่ามุมมองของแต่ละคน ไม่มีใครผิดหรือถูก ลองย้อนดูว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้างที่นักกีฬากับโค้ชไม่ลงรอยกัน บางครั้งแค่ออร์เดิร์ฟด้วยวาจา แต่บางรายก็หนักหนาถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน

 

ซุป’ตาร์ลูกหนังโดนสตั๊ดบิน

แฟนบอลยังจำกันได้ กรณีที่ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ฉุนขาดที่ลูกทีมถูกอาร์เซนอลบุกมาชนะ 20 ในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อเดือน ก.พ. 2003 ซึ่งตอนนั้นท่านเซอร์วีนแตก เตะรองเท้าสตั๊ดปลิวลิ่วไปโดนหางคิ้วขวาของซูเปอร์สตาร์ เดวิด เบคแฮม ต้องเย็บถึง 16 เข็ม จากนั้นก็โดนดร็อปศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย กับเรอัล มาดริด และ 3 เดือนให้หลังก็ย้ายไปเล่นกับ “ราชันชุดขาว” ตอนนั้นเบคแฮมถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงสุดๆ อนาคตไกล แต่เมื่อมีความบาดหมางกับผู้จัดการ สโมสรก็ต้องเลือกที่จะเสีย เดวิด เบคแฮม ไป และเลือกที่จะให้ท่านเซอร์อยู่กับสโมสรต่อไป “ผมยังจำวันนั้นได้ดี ผมเสียใจที่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น และผมก็ยอมรับว่าคิดผิดที่ย้ายจากโอลด์แทรฟฟอร์ด” เบคแฮม กล่าว หลังจากย้ายไปอยู่กับเรอัล มาดริด ซึ่งหลังจากวันที่ฟ้าหลังฝน แมนฯ ยู ก็คว้าแชมป์มากมายนับไม่ถ้วน ภายใต้การคุมทีมของท่านเซอร์ หากวันนั้นแมนฯ ยู เลือกที่จะให้เบคแฮมอยู่ และปล่อยท่านเซอร์ไป แมนฯ ยู คงไม่มีแชมป์มากมายขนาดนี้ อนาคตแมนฯ ยูที่สูญเสียท่านเซอร์ไป ก็ดูจากฤดูกาลที่แล้วเป็นตัวอย่างได้ดีในยุค เดวิด มอยส์

 

หยาบเกินไปโดนเนรเทศ

เควิน พรินซ์ บัวเต็ง กับ ซัลลีย์ มุนตารี สองผู้เล่นทีมชาติกานา โดนส่งตัวกลับบ้านก่อนเกมที่จะพบกับโปรตุเกส ในฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มจี เนื่องจากมีปากเสียงกับ เคซี อัปเปียห์ กุนซือใหญ่ โดยกุนซือทีมดาวดำให้เหตุผลว่า ทั้งคู่ไม่จริงจังขณะซ้อม ซ้อมไปหัวเราะไป ทำให้เขารับไม่ได้ แต่ผลจากการสอบสวนของสมาคมฟุตบอลกานา ออกมาแถลงความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า บัวเต็งไปด่าโค้ชด้วยถ้อยคำหยาบคายและเอามือไปผลักอก ซึ่งไม่ให้เกียรติโค้ช ถือว่าเป็นเรื่องที่นักเตะไม่สมควรกระทำ สุดท้ายทีมชาติก็ต้องเลือกโค้ชมากกว่านักเตะ “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับนักเตะและโค้ช แต่ถ้าให้เราเลือก สมาคมฯ ไม่เข้าข้างคนที่ผิด” แถลงการณ์ของสมาคมฟุตบอลกานา

 

แร็กเกตลอยสะท้านรัก

พาทริก มูราโตกลู โค้ชแอนด์บอยเฟรนด์ของ เซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกชาวสหรัฐ ซึ่งตกเป็นข่าวว่ากำลังคบหาอยู่กับนักหวดสาวชื่อดัง ออกมากล่าวยอมรับว่าเคยมีปากเสียงกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ จนถึงขั้นปาแร็กเกตเทนนิสใส่กัน ก่อนศึกวิมเบิลดัน 2014 ที่ผ่านมา ทำให้นักหวดมือ 1 โลกกระเด็นตกรอบก่อนเวลาอันควร แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จูบปากและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งตอนนี้เซเรนามีกำลังใจและรู้สึกฮึกเหิมอยากซ้อมเป็นอย่างมาก จึงเชื่อว่าเธอจะกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมในศึกยูเอส โอเพ่น ที่บ้านเกิดแน่นอน “เธอเครียด ผมเข้าใจเธอดี แต่บางทีการให้อภัยซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่” มูราโตกลู โค้ชนักหวดมือ 1 โลก กล่าว หลังจากปรับความเข้าใจกับเซเรนา

 

ยัดห่วงกระแทกหวิดแถมมวย

ดเวย์น เวด ชู้ตติงการ์ดของไมอามี ฮีต โดน อีริก สโปเอตรา โค้ชของทีม ระเบิดอารมณ์ใส่ โดยเอาลูกบาสปาใส่หลังของเวดในเกมที่ฮีต แพ้ อินเดียนา เพเซอร์ส ศึกเพลย์ออฟ รอบรองฯ สายตะวันออก เมื่อปี 2012 หลังจากที่เวดเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานมากและไม่เชื่อฟังคำสั่งในการแก้เกม ทำให้ทีมแพ้ในที่สุด เล่นเอาเพื่อนๆ ต้องวิ่งเข้ามาห้าม เพราะหวิดที่ทั้งคู่จะสาวหมัดใส่กัน แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ทำงานร่วมกันได้ ไม่อยากจะเชื่อ “หลังจากนั้นผมได้เรียกเวดไปคุยและปรับความเข้าใจ ผมขอโทษเขา ซึ่งผมรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ทำแบบนั้นลงไป” สโปเอตรา สารภาพความหละหลวมทางวินัยของนักกีฬา

กับบทลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุของโค้ช หากทั้งสองฝ่ายต่างปรับเข้าหากันโดยไม่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก!!!