ชมรมรักษ์พระธาตุฯ กับงานอนุรักษ์ที่ยิ่งใหญ่

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์/ ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

รีบตอบรับคำชวนของชมรมรักษ์พระธาตุแห่งประเทศไทย ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ และพระธาตุของพระอริยสงฆ์ในแผ่นดิน ที่แสงแห่งศรัทธา หรือห้างสังฆภัณฑ์เดิมที่บางแวก แถวๆ ย่านพุทธมณฑล ถือโอกาสเล่าสู่กิจกรรม รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับพระธาตุที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเชื่อศรัทธา ก็แล้วแต่ผู้อ่านที่จะใช้วิจารณญาณ

สกล แสงมาลี ประธานกิตติมศักดิ์และผู้อุปถัมภ์ ชมรมรักษ์พระธาตุฯ เล่าว่า ชมรมฯ ก่อตั้งมากว่า 10 ปี ถือเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ทำหน้าที่อนุรักษ์พระธาตุและพระบรมธาตุจากที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดคือโครงการศรัทธาธรรมธาตุ จัดหาสถานที่ถาวรในการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุยุคพุทธกาล และพระธาตุของพระอริยสงฆ์ในช่วงกาลปัจจุบันทั้งหมดรวมกว่า 1 ล้านองค์

“โครงการฯ ใช้เวลาในการเก็บรวบรวมกว่า 20 ปี โดยจะเป็นการจัดแสดงที่มากที่สุด และครบถ้วนที่สุด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เจริญศรัทธา กราบไหว้สักการะอย่างใกล้ชิด”

ปราโมช ประสพสุขโชคมณี ประธานชมรมรักษ์พระธาตุฯ กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของชมรมฯ คือการเผยแผ่ประวัติความเป็นมา และความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เลื่อมใส เป็นกำลังใจในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ปราโมชเล่าว่า การก่อตั้งชมรมฯ เกิดจากความเลื่อมใสส่วนตัว โดยครั้งหนึ่งได้ไปกราบสังขารหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีพระธาตุเสด็จมาอยู่ในมือ เพราะความอัศจรรย์ใจจึงหันมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง กับออกเดินทางเสาะแสวงหา อัญเชิญพระธาตุจากที่ต่างๆ ปวารณาตัวที่จะรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างไม่สิ้นสุด

“วัตถุประสงค์พวกเรา คือความเคารพเลื่อมใสสูงสุด ที่มีต่อพุทธศาสนาและองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อยอดถึงการทำนุบำรุง เผยแผ่ความรู้ แจกจ่ายพระธาตุไปทั่วประเทศและทั่วโลก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ตัวแทนวัดในเวียดนามและมองโกเลีย รวมกว่า 400 วัด ก็เพิ่งมารับพระธาตุกับผมโดยตรง ไม่มีค่าใช้จ่าย”

มณียา ณ อุบล เลขานุการชมรมรักษ์พระบรมธาตุฯ เล่าว่า เรื่องของพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงมรรคผลในการปฏิบัติ ทำให้พวกเราซึ่งยังอยู่ในโอฆสงสาร ได้มีศรัทธา มีกำลังใจ ที่จะมุ่งมั่นปฏิบัติพากเพียรให้มากขึ้น ปัจจุบันชมรมฯ มีทีมงานกว่า 10 คน ขณะที่สมาชิกทั่วประเทศอยู่ในหลักหมื่นคน

“ชาวไทยมีศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง ถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนเรื่องผลตอบแทนหรือพุทธพาณิชย์ เราไม่ต้องการเลย แค่มีใครสักคนก้มกราบพระบรมสารีริกธาตุด้วยความเคารพ มีใครสักคนที่ได้ฉุกคิดในสัจธรรมความดีความงาม เพียงแค่นี้พวกเราก็มีความสุข” มณียา เล่า

สกลกล่าวส่งท้ายว่า ใกล้เกลือกินด่าง ที่ชาวพุทธจำนวนมากหลงไปบูชาวัตถุมงคลต่างๆ หากสิ่งที่เป็นพุทธแท้กลับมองข้าม ในวาระที่ชมรมฯ ได้ประดิษฐานถาวรซึ่งพระบรมธาตุและพระธาตุที่แสงแห่งศรัทธา ก็ขอเชิญมาสักการะโดยทั่วกัน สนใจร่วมกิจกรรม หรือขอรับพระธาตุโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.028653999

ความรู้เรื่องพระธาตุ

ธาตุขันธ์ทั้งสี่ มี ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยธาตุที่เป็นรูปธรรมคือ ธาตุดินและน้ำของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ จะมีการแปรเปลี่ยนสภาพที่ผิดจากคนทั่วไป กล่าวคือจะมีลักษณะเป็นผลึกที่สวยงามดั่งอัญมณีหรือแก้ว ทั้งนี้ ไม่เฉพาะแต่พระธาตุที่เป็นส่วนกระดูก หากรวมถึงพระธาตุจากส่วนอื่น เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง

การบูชาพระบรมธาตุและพระธาตุ มีผลานิสงส์ทำให้สำเร็จประโยชน์สมบูรณ์ทั้งชาตินี้และชาติหน้า ผู้กระทำการสักการบูชาด้วยใจบริสุทธิ์ จะน้อมนำให้เกิด

1.พุทธานุสสติ (การระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์)

2.ธัมมานุสสติ (การระลึกถึงพระธรรมเป็นอารมณ์)

3.สังฆานุสสติ (การระลึกถึงพระสงฆ์เป็นอารมณ์)

ส่วนการประดิษฐาน เมื่อได้รับพระบรมสารีริกธาตุ ประสงค์จะอัญเชิญไปยังบ้านเรือนของตน ควรปฏิบัติดังนี้

1.หาผอบหรือเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

2.อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชา หรือหิ้งพระ ให้อยู่ในระดับเดียวกับพระพุทธรูป อย่าให้ต่ำกว่ารูปเหมือนพระสงฆ์ ส่วนพระอรหันตธาตุสมัยพุทธกาล ควรประดิษฐานไว้ต่ำกว่าพระบรมสารีริกธาตุ แต่ให้สูงกว่ารูปเหมือนพระสงฆ์