สุรนันต์ ชุ่มธาราธร หัวใจให้คาโปเอรา
จากเด็กขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ภาพความทรงจำในอดีตไม่มีอะไรมากไปกว่าเด็กผอมๆ ขี้แยคนหนึ่ง วันๆ มีแต่ถูกเพื่อนรังแก
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
จากเด็กขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ภาพความทรงจำในอดีตไม่มีอะไรมากไปกว่าเด็กผอมๆ ขี้แยคนหนึ่ง วันๆ มีแต่ถูกเพื่อนรังแก โดนแกล้งแล้วก็ร้องไห้ ร้องไห้แล้วก็โดนแกล้ง วัฏจักรความเลวร้ายที่ถ้าไม่เล่าคู่สนทนาก็คงนึกไปไม่ถึง เพราะภาพของชายหนุ่มฉกรรจ์ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ สุรนันต์ ชุ่มธาราธร หรือโต้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านคาโปเอรา ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติบราซิล เชื่อว่าจะไม่ทำให้คู่สนทนาคนไหนคิดเป็นอื่นได้ นอกจากว่าเขาคือผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง
อาจเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า เจ้าตัวหมายถึงปมความอ่อนแอในวัยเด็ก ที่ผลักดันให้เมื่อโตขึ้นมีความสนใจในกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีม จำได้ว่าขณะเรียนมัธยมศึกษาก็สนใจในกีฬาประเภทต่างๆ แล้ว โดยเฉพาะเทควันโด ซึ่งชื่นชอบมากเป็นพิเศษ กีฬาชนิดเดียวกันนี้เมื่อโต้งบินไปเรียนต่อต่างประเทศที่นิวซีแลนด์ ก็ได้ดิบได้ดีถึงขนาดที่ว่า ได้เป็นแชมป์เหรียญทองของเกาะเหนือนั่นทีเดียว North Island Taekwondo Championship, New Zealand
โต้งบอกว่า วันหนึ่งเขาเดินเข้าไปหาหนังสืออ่านในห้องสมุดมหาวิทยาลัย ไปเจอหนังสือกีฬาคาโปเอราเล่มหนึ่ง ลองพลิกเปิดดูก็ได้พบกับภาพความมหัศจรรย์ของกีฬาชนิดนี้ มหัศจรรย์ขนาดไหน ก็ขนาดที่ว่าทำให้เขาทึ่ง โต้งพูดกับตัวเองว่า คาโปเอรา! มีกีฬาที่สวยงามได้ถึงขนาดนี้ด้วยหรือ? ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Only The Strong หนังที่มีคาโปเอราเป็นตัวนำ จากความสนใจในกีฬาเอ็กซ์ตรีมอยู่แล้ว ก็พยายามหาที่เรียนคาโปเอราในนิวซีแลนด์ ปรากฏว่ามีที่เดียวคือ คาโปเอรา แปซิฟิคคา (Capoeira Pacifica)
เรียนคาโปเอราควบคู่กับการเล่นเทควันโด รวมทั้งเล่นกีฬาอีกหลายชนิด ขณะที่การเรียนหนังสือในห้องไม่ทำให้ชายหนุ่มสนใจนัก โต้งบอกว่า การเรียนทำเพื่อพ่อแม่ทั้งที่ใจไม่ชอบการเรียน ทำให้ผลการเรียนไม่เคยได้ดี ถึงปี 2540 เป็นช่วงต้มยำกุ้งไครซิส โต้งต้องกลับบ้านเพราะไทยลอยค่าเงินบาท ตัวเขาต้องกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศ โดยเลือกเรียนคอมมูนิเคชั่น อาร์ต ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค)
“ใจไม่อยากเรียนอยู่แล้ว ประกอบกับมาเจอระบบบังคับเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ ก็ง่ายมากที่ผมจะตัดสินใจเลิกเรียน” โต้ง เล่า
การตัดสินใจของเขานำมาซึ่งความใจสลายของพ่อ มนัส ชุ่มธาราธร ซึ่งเป็นผู้จัดการภาคของธนาคารนครหลวงไทยเดิม (ปัจจุบันคือธนาคารธนชาต) ได้ชื่อว่าเป็นผู้กว้างขวางและได้รับการยอมรับนับถือจากคนในพื้นที่ไม่น้อย พ่อเป็นคนดุ เป็นคนหัวเก่า เวลาใครถามพ่อว่าลูกชายทำอะไร โต้งแทบไม่อยากได้ยินเวลาพ่อตอบ เขาให้เหตุผลกับพ่อว่า เขาไม่อยากเรียนจริงๆ เขาไม่อยากเสียเวลากับสิ่งที่ไม่สนใจ การลากเวลาออกไปจะเป็นการลากยาว ซึ่งความสูญเสียและความทุกข์ทรมานของทั้งพ่อและเขา
จะว่าไปแล้ว ชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้อยู่หรือใกล้ชิดกับพ่อแม่ที่แท้จริงมากนัก เพราะเพียงชั้นประถมปีที่ 6 เขาก็ย้ายจาก จ.ระยอง เข้ามาอาศัยอยู่กับหัวหน้าสายงานของพ่อที่กรุงเทพฯ แม่ย้ายตามขึ้นมาดูแลเมื่อเขาขึ้นชั้นมัธยมปลาย แต่ก็เป็นช่วงที่พ่อและแม่จะแยกกันอยู่แล้ว จากนั้นประมาณ ม.6 เขาก็บินไปเรียนต่างประเทศ ชีวิตเหมือนถูกตัดบท แต่ก็เป็นบทของชีวิตที่ดำเนินไปตามครรลอง ทั้งที่ตัวละครกระจายพรายพลัด
สิ่งที่ต่อติดเพียงอย่างเดียวคือ คาโปเอรา โดยหลังจากต้องบินกลับจากนิวซีแลนด์กะทันหัน ไม่ทิ้งคือคาโปเอรา โดยตั้งชมรมทำกลุ่มกิจกรรมกับเพื่อนในมหาวิทยาลัย แม้เมื่อลาออกจากมหาวิทยาลัยก็ไม่เลิกง่ายๆ ยังคงฝึกซ้อมและติดตามคาโปเอราจากสื่ออินเทอร์เน็ต แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มผู้ชื่นชอบคาโปเอราจากทั่วโลก ถือเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มคาโปเอรารุ่นแรกๆ ในประเทศ รวมทั้งเป็นประธานชมรมคาโปเอราในประเทศไทยที่ได้การรับรองจากสถานทูตบราซิล ประจำประเทศไทย
คาโปเอราคือศิลปะการต่อสู้และเป็นกีฬาประจำชาติบราซิล มีลักษณะเฉพาะตัวที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ลื่นไหล คล่องตัวด้วยจังหวะดุดันเร่งเร้าสไตล์แซมบ้า โต้งบอกว่า คาโปเอราเกิดจากการผสมผสานของการต่อสู้ การเต้น ดนตรี ปรัชญา แนวคิดและวิถีชีวิตของชาวบราซิล ท่วงท่าของคาโปเอรามีหลายแบบ บางครั้งก็เชื่องช้า สับสน หลอกตา เหมือนการแสดงละคร แต่บางครั้งก็รวดเร็ว หวือหวา เหมือนการแสดงกายกรรม ถือเป็นกีฬายอดฮิตในบราซิลรองจากฟุตบอล
“ชีวิตผมเป็นแบบที่ผมอยากให้เป็น เพราะกีฬาและศิลปะการต่อสู้ที่ให้แรงบันดาลใจอย่างที่สุดนี้” โต้งเล่า
คาโปเอราเปลี่ยนชีวิต จิตวิญญาณขอคารวะต่อทุกท่วงท่าและความงดงามแห่งการต่อสู้ ถามโต้งว่าทุกวันนี้มีความสุขไหม โต้งตอบว่า ไม่มีความทุกข์ ถือว่าตอบได้สมกับที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวงบุดดาเบลสมาก ฝากถึงน้องๆ ที่ยังร่ำเรียนหนังสือว่า ในโลกนี้มีหลายร้อยหลายพันหรืออาจจะถึงหลายหมื่นอาชีพให้น้องๆ เลือก จงเลือกในสิ่งที่เราอยากเลือก จงเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น ในทุกส่วนของชีวิตมีอาชีพแทรกอยู่มากมาย หาสิ่งที่อยากทำให้เจอ แล้วก็เหมือนกับคาโปเอรา ที่ผู้ชนะไม่ใช่คนที่แข็งแรงกว่า แต่เป็นคนที่คิดนำหน้าได้มากกว่า ชีวิตก็เป็นแบบนั้น
“ผมไม่อยากเรียนอะไรที่ผมไม่ต้องการ ผมอยากทำอะไรที่ผมอยากทำ ผมรู้ว่าผมต้องการอะไร และคงพูดได้ว่าโชคดี ที่ได้ทำในทุกสิ่งที่ตัวเองชอบ ทุกวันนี้ถือว่าผมได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ผมภูมิใจในตัวเอง และหวังว่าพ่อจะภูมิใจในตัวลูกของพ่อ”
ล่าสุดเขาจะร่วมแสดงคาโปเอราในกิจกรรมพิเศษของเดอะมอลล์ The Art of Capoeira ในวันที่ 56 ก.ค.นี้ ที่เดอะมอลล์ บางแค เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลฟุตบอลโลก 2014 ร่วมสัมผัสเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของประเทศเจ้าภาพบราซิล ใครสนใจศิลปะการต่อสู้แนวนี้ ก็ขอเชิญไปชมกันได้
The Art of Capoeira
ชื่อ สุรนันต์ ชุ่มธาราธร
ชื่อเล่น โต้ง
อายุ 38 ปี
การศึกษา
2535-2536 มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
2537-2539 Henderson High School, New Zealand
2540-2541 Auckland University of Technology, New Zealand
การทำงาน
2545 – ผู้จัดโชว์ประเภทแอ็กชั่น เอ็กซ์ตรีมสปอร์ต เต้นรำ ดีเจ และอื่นๆ
พิธีกรและผู้ผลิตรายการช่อง True Sports
2550 จัดทำรายการ Martial Arts ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้เป็นรายการแรกของไทย
2555 ทำธุรกิจเสื้อยืดคุณภาพสูง happytshirt และ heavy69
ทำเว็บไซต์ Life Style แบรนด์เสื้อผ้า Street Wear และเป็น Production Team รับผลิตสื่อต่างๆ
2557 ตั้งวง Buddha Bless ภายใต้สังกัด ก้านคอคลับ
ศิลปะการต่อสู้
เทควันโดสายดำดั้ง 2 จาก World Taekwondo Federation
อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอนเทควันโด โรงเรียนนานาชาติ RIS และ BPS
ผู้ฝึกสอนเทควันโด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
เหรียญทองจากการแข่งขัน North Island Taekwondo Championship, New Zealand
Capoeira สายคาดระดับ Instructor จาก Movimento Simples de Capoeira, Brazil
ผู้ริเริ่ม Capoeira ในประเทศไทย ปัจจุบันเป็นประธานชมรมคาโปเอราในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองจาก Embassy of Brazil in Bangkok, Thailand


