ผู้ประกาศข่าวจอมลุย อนุวัต เฟื่องทองแดง
จากนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ที่ไม่เคยคิดจะมาทำงานด้านสายข่าว
โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
จากนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ที่ไม่เคยคิดจะมาทำงานด้านสายข่าว แต่เวลานี้กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้ประกาศข่าวที่กวาดรางวัลผู้ประกาศข่าวชายดีเด่นประจำปีมาแทบทุกสำนักในช่วงปีที่ผ่าน ตั้งแต่ รางวัลโทรทัศน์ทองคำ รางวัลแสงชัย สุนทรวัฒน์ รางวัลนาฏราช ล่าสุดคว้ารางวัล Daradaily The Great Award ครั้งที่ 3 สาขารางวัลผู้ประกาศข่าวชายที่สุดแห่งปี 2013 อนุวัต เฟื่องทองแดง ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 กับการรายงานข่าวแบบลุย จนได้ใจผู้ชมโดยเฉพาะเหตุการณ์ยิงนักศึกษารามคำแหงในช่วงการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา
อนุวัต เล่าถึงเส้นทางชีวิตก่อนจะมาเป็นผู้ประกาศข่าวถึงวันนี้ว่า ตอนเด็กๆ จะถูกทางบ้านและคนรอบข้างปลูกฝังว่าโตขึ้นจะต้องเป็นหมอ หมอเก่ง หมอฉลาด เป็นหมอแล้วรวย เลยเลือกเรียนสายวิทย์คณิต จะได้สอบเข้าเป็นหมอ โดยที่ยังไม่ได้รู้ว่าเป็นสิ่งที่อยากจะเป็น หรือถนัดจริงๆ หรือเปล่า
“ตอนนั้นผมเองยังไม่รู้ว่าตัวเองแท้จริงแล้วถนัดอะไร หรือฝันอยากจะเป็นอะไร แต่เครื่องวัดที่บอกเราได้ง่ายที่สุด ก็คือ ผลการเรียนที่ไม่ได้เรียนดีอย่างที่เคยตั้งใจ จนกระทั่งก่อนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเรามานั่งคิดมาทบทวนตัวเองถึงข้อดีของเราทั้งหมด ก็เห็นว่าเรามีความสามารถทางด้านการพูด และมีไหวพริบในการเจรจาที่ดี ก็มาดูว่ามีคณะอะไรที่น่าจะเหมาะสมกับตัวเรา ก็มาลงตัวที่คณะนิเทศศาสตร์ แต่กว่าจะคิดได้ว่าตัวเองควรเรียนอะไรก็เกือบไปสมัครเรียนต่อไม่ทัน
พอตอนเรียนอาจารย์พูดย้ำสะกดจิตเราตลอดว่าอย่าไปเป็นเลยนักข่าว เป็นนักข่าวมันลำบาก เงินเดือนน้อย ไม่คุ้มกับความเครียดและความเสี่ยงในสายอาชีพ เราก็จำฝังหัวมาตลอดว่าเราจะไม่เป็นนักข่าว เราจะทำในสายอื่นที่อยู่เบื้องหลัง นักข่าวเราจะไม่เป็น จนวันหนึ่งที่สถานีไอทีวีมีประกวดข่าว อาจารย์ก็เลยลองให้เราไปสมัครดู ตอนนั้นเราก็ทำข่าวเจาะเอากล้องไปตั้งแอบถ่ายจนได้ภาพได้เรื่องที่คิดว่าเจ๋งแน่ๆ ก็ส่งเข้าประกวด ผลปรากฏว่าผลงานของเราถูกคัดออกตั้งแต่รอบแรก พอมาดูผลงานของทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศเรากลับรู้สึกว่าผลงานของเขามันธรรมดา แต่ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ
พอใกล้เรียนจบอาจารย์ให้เราเอาผลงานที่ส่งเข้าประกวดทำเป็นหัวข้อจบ เราก็คิดว่าดีเหมือนกัน เพราะเราก็ทำมาได้ครึ่งทางแล้ว เลยเอางานทั้งหมดมาปัดฝุ่นดูใหม่อีกรอบ คราวนี้โทรเข้าไปที่ไอทีวีถึงพี่จอม เพชรประดับ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการรายงานข่าว พี่เขาก็ใจดีบอกว่าเข้ามาได้เลย โดยที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเราก่อนด้วยซ้ำ เราเลยเอาผลงานที่ตกรอบไปให้พี่ดูว่ามีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง พี่เขาก็ชี้ให้ดูตั้งแต่เริ่มต้นว่าผิดตรงไหนบ้าง ตอนนั้นเราถึงตาสว่างว่าผลงานที่เราคิดว่าเจ๋งว่าดี มันมีจุดอ่อนที่เราฟังแล้วก็ยอมรับว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากนั้นเราก็เอางานเดิมไปถ่ายใหม่เขียนสคริปต์ใหม่จนทำเป็นหัวข้อจบการศึกษาได้สำเร็จ”
อนุวัต เล่าถึงชีวิตสมัยเรียน พอหลังจากนั้นเขาเปลี่ยนความคิดมาเป็นนักข่าวด้วยการเข้าทำงานที่ศูนย์ข่าวแปซิฟิก จากนั้นไม่นานนักเขาจึงย้ายมาเป็นผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี และย้ายเข้าทำงานที่ช่อง 7 จนถึงปัจจุบันเขามีรายการข่าวเช้า และรายการอนุวัต จัดให้ ที่ทำให้เรารู้จักและรักผู้ประกาศข่าวคนนี้มากขึ้น
อนุวัต แนะนำคนที่อยากจะเป็นผู้ประกาศข่าวที่ดีว่า การเป็นผู้ประกาศข่าวที่ดีต้องมีพื้นฐานจากการเป็นนักข่าวภาคสนามที่ดีมาก่อน ต้องรู้จักการเขียนข่าว สัมภาษณ์ การหาแหล่งข่าว จนได้รับการยอมรับ ต่อมาก็คือเรื่องการพัฒนาบุคลิกภาพภายนอก คนที่มีทุนเดิมหน้าตาดีรูปร่างดีอยู่แล้วก็ดีไป ส่วนคนที่ไม่มีก็สามารถสร้างได้จากการแต่งกาย การฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก และดูว่าตอนพูดนั้นรับตัวเองได้หรือเปล่า ถ้าแม้แต่ตัวเองยังรับไม่ได้คนอื่นก็รับไม่ได้
ทุกเช้าก่อนออกทำงานต้องอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ให้ละเอียด เพราะข่าวทีวีที่ดูนั้นทุกข่าวจะเป็นข่าวที่ย่อยมาพอให้ได้รับรู้ข่าวสาร แต่เบื้องลึกเบื้องหลังยังมีเรื่องราวต่างๆ อีกมากที่ต้องหาอ่านรายละเอียดเชิงลึกได้ในหนังสือพิมพ์ สุดท้ายคือต้องทำการบ้านในเรื่องราวที่กำลังไปทำในระดับหนึ่ง อาจไม่ต้องถึงกับรู้ลึก แต่ฟังเขาพูดรู้เรื่องว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร และประเด็นของเรื่องนั้นคืออะไร จนสามารถนำมาถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เข้าใจในสิ่งเดียวกับที่พบ
ในส่วนอื่นๆ ที่คิดว่าสำคัญกับการเป็นนักข่าวหรือผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ ก็คือ เรื่องภาษาอังกฤษ ทักษะด้านภาษาจำเป็นอย่างมากสำหรับการทำข่าวในยุคเปิดประชาคมอาเซียน และภาษาอังกฤษอาจทำให้เราก้าวไปสู่การเป็นนักข่าวภาคสนามในระดับสากลได้ ซึ่งอย่ามองข้ามในเรื่องนี้เป็นอันขาด ที่สำคัญกว่านั้นการรายงานข่าวข้อมูลต้องไม่พลาด เพราะในสายตาประชาชนผู้สื่อข่าวคือคนที่น่าเชื่อถือที่สุดที่จะให้ข้อมูลกับเขา
“ความสำเร็จของเราถือว่ามันเกินความฝันไปอย่างมาก การเป็นผู้ประกาศข่าวถึงจะเป็นอาชีพที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่เราได้กำไรชีวิตจากสิ่งที่เราได้เดินทางไปพบเห็น เป็นอาชีพที่มีเศรษฐีพันล้านก็ไม่มีโอกาสเหมือนอย่างเรา จะมีสักกี่คนที่ได้เข้าเฝ้าในหลวงและเห็นพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด จะมีกี่คนที่ได้เดินทางไปถึงสถานที่ต้นเรื่องจริงเพื่อสอบถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ได้ไปทำในสิ่งที่น้อยคนนักจะได้ทำ มันคือเสน่ห์ของอาชีพนี้ และที่สำคัญเรารู้สึกว่าเราโชคดีที่มีทีมงานที่ดี มีช่างภาพที่พร้อมจะลุยไปกับเรา แค่เราถามว่าไปไหม เขาก็ไป ตรงนี้ล่ะที่ได้ใจเราไปเต็มๆ” อนุวัต เล่าถึงข้อดีในการเป็นผู้ประกาศข่าว ซึ่งเขาทิ้งท้ายว่าสิ่งที่ยึดมั่นในการทำงานมาตลอด ก็คือ ทำให้เต็มที่ เราไม่ได้หล่อแต่เราลุยให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้ข่าวได้ภาพกลับมารายงานต่อหน้ากล้องให้ทุกคนได้รับชมว่าเราพบเห็นอะไร พอถึงวันนี้วันที่ได้เราได้รับรางวัลทรงเกียรติ มันคือสิ่งที่เกินฝันกว่าผู้ชายดำๆ อย่างผมจะเคยฝันถึงไปแล้ว


