รักแห่ง (โรงหนัง)"สยาม"

"โรงหนังสยามมีจุดเริ่มจากความสำเร็จของโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ที่นำเข้าระบบการฉายภาพยนตร์ในแบบต่างๆ เช่น ระบบสามมิติ ระบบทอคค์ - เอ โอ ซีเนมาสโคป - ซีเนรามา (เลนส์เดียว) 70 มม. และซีเนรามา ฉายพร้อมกัน 3 เลนส์"

ย้อนไปเมื่อปี 2509 โรงภาพยนตร์ขนาด 800 ที่นั่ง ซึ่งนับว่าทันสมัยที่สุด เนื่องจากมีบันไดเลื่อนขึ้นลงเป็นแห่งแรก ได้เปิดฉายอย่างเป็นทางการ โดยประเดิมจอด้วย Battle of the Bulge หรือชื่อภาษาไทยว่า รถถังประจัญบาน ภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ของค่ายวอร์เนอร์ บราเธอร์ส นำแสดงโดย เฮนรี ฟอนดา และโรเบิร์ต ชอว์ ค่าชมภาพยนตร์ราคาตั้งแต่ 10 บาท 15 บาท และสูงสุด 30 บาท

โรงหนังสยามมีจุดเริ่มจากความสำเร็จของโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ที่นำเข้าระบบการฉายภาพยนตร์ในแบบต่างๆ เช่น ระบบสามมิติ ระบบทอคค์ - เอ โอ ซีเนมาสโคป - ซีเนรามา (เลนส์เดียว) 70 มม. และซีเนรามา ฉายพร้อมกัน 3 เลนส์ พิสิฐ ตันสัจจา จึงได้รับการติดต่อจาก กอบชัย ซอโสตถิกุล เจ้าของบริษัท เซาท์ อีสเอเซีย ก่อสร้าง ผู้เช่าที่ดินบริเวณสยามสแควร์มาปรับปรุงให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างโรงภาพยนตร์ทั้ง 3 โรง คือ สยาม ลิโด้ และสกาล่า

เริ่มต้นที่โรงหนังสยามที่เดิมทีตั้งใจจะใช้ชื่อว่าโรงภาพยนตร์จุฬาฯ แต่มีผู้คัดค้านว่าเป็นชื่อของพระมหากษัตริย์และมหาวิทยาลัย จึงเลือกใช้ชื่อโรงภาพยนตร์สยามมากระทั่งถึงปัจจุบัน ก่อนถูกไฟไหม้เป็นจุณในการจลาจลวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นการปิดฉากโรงภาพยนตร์ 4 ทศวรรษของคนไทยไปอย่างถาวร

ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ได้ฉายที่โรงภาพยนตร์ที่เหลือเพียงตำนานแห่งนี้ คือ Iron Man 2 (มหาประลัยคนเกราะเหล็ก 2)