ดวงมณี ยันตวัฒนา ผู้หลงรักงานโรงแรม

โดย...วรธาร / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน &<2288;

สาวสวยบุคลิกภาพดี หน้าคม แอปเปิ้ล-ดวงมณี ยันตวัฒนา ผู้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Bangkok) ปัจจุบันนั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด

ก่อนนี้เธอเคยร่วมงานกับหลายโรงแรม โดยทำอยู่ในตำแหน่งผู้ประสานงานแผนกอีเวนต์ของโรงแรมเจ ดับบลิว แมริออท สุขุมวิท ซอย 2 ตามด้วยสายงานด้านการตลาด ซึ่งเป็นสายงานล่าสุดที่ทำมาจนถึงปัจจุบันกับโรงแรมเชอราตัน พัทยา โรงแรมดับเบิ้ลยู สมุย และโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ สถานที่ทำงานปัจจุบัน

เธอเล่าถึงความชื่นชอบในงานโรงแรมว่า เพราะเป็นงานท้าทายความสามารถและศักยภาพของตนเอง นอกจากนี้ยังเป็นงานที่สนุก ไม่น่าเบื่อ เพราะมีโอกาสได้พบเรื่องราวใหม่ๆ บุคคลใหม่ๆ ลูกค้าใหม่ๆ งานใหม่ๆ โปรเจกต์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงได้เลือกเรียนด้านการโรงแรม

“เปิ้ลรักงานโรงแรม จึงเลือกเรียนด้านนี้ มองว่าเป็นงานที่ทำให้ได้พบอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด ไม่มีความน่าเบื่อ ที่สำคัญท้าทายความสามารถของเรา เพราะจะเห็นว่าโรงแรมในกรุงเทพฯ นั้นมีเป็นพันๆ โรงแรม ซึ่งจะทำอย่างไรให้โรงแรมของเราเป็นที่รู้จักและลูกค้าเลือกที่จะมาพักกับเรา ตรงนี้แหละเป็นโจทย์ที่ทำให้งานไม่น่าเบื่อ เพราะได้ใช้สมอง ใช้ความคิด ความรู้ ความสามารถอยู่ตลอดเวลาในการหากลยุทธ์ต่างๆ มาดึงดูดลูกค้าให้มาพักกับเรา”

ดวงมณีเข้าสู่ชายคาของดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ในปี 2013 หลังโรงแรมเปิดให้บริการมาได้ 3-4 เดือน ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ก่อนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดในเวลาต่อมา และขึ้นเป็นผู้อำนวยการในปัจจุบันนั้นในเวลาไม่ถึง 2 ปี แสดงให้เห็นความทุ่มเทในงานและการมีคุณสมบัติของนักประชาสัมพันธ์และการตลาดที่มีในตัวอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งบุคลิกภาพ ความรู้ความสามารถ ทักษะในการสื่อสาร ไหวพริบปฏิภาณ และความมีใจรักในงานบริการ

 

เธอบอกว่า การเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดีนอกจากต้องมีใจรัก มีความอดทน มีบุคลิกดี และมีทักษะในการสื่อสารที่ดีแล้ว จะต้องมีความรู้ ซึ่งไม่เพียงความรู้ทางวิชาการตามที่เคยเรียนมาเท่านั้น แต่ควรต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับองค์กรเป็นอย่างดี เพราะงานประชาสัมพันธ์ถือเป็นงานที่เป็นกระบอกเสียงให้กับองค์กรโดยตรงในการที่จะรักษาภาพลักษณ์ทางธุรกิจขององค์กรเอาไว้ได้

 

ดวงมณีพยายามถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ และความน่ารู้เกี่ยวกับความเป็นมาและเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน โดยยกเรือนโบราณสีเหลืองซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ด้านข้างหน้าโรงแรมที่แขกผู้เข้ามาพักโรงแรมต่างทึ่งในความงดงาม

“เรือนโบราณสีเหลืองหน้าโรงแรมที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ มาพร้อมกับที่ดินผืนนี้ที่โรงแรมซื้อ ทว่าอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร แต่โรงแรมสามารถใช้ประโยชน์จากเรือนนี้ได้ แต่หากจะปรับปรุงต้องขออนุญาตกรมศิลปากรก่อน ห้ามทุบทำลาย

เมื่อก่อนมีสภาพโทรม ต่อมาโรงแรมได้ขออนุญาตกรมศิลปากรปรับปรุงใหม่ โดยที่ไม่ได้ทำลายสภาพเดิมให้เสียไปแต่อย่างใด จนมีสภาพงดงามอย่างที่เห็นทุกวันนี้ และในปลายปีนี้ทางโรงแรมจะทำเป็นร้านอาหาร มีบาร์ ห้องประชุม ห้องสวีท ส่วนตรงกลางจะเป็นสวนเปิดเรียกว่า คอร์ตยาร์ด เปิดอาฟเตอร์นูนทีเล็กๆ สำหรับลูกค้า”

ขณะที่ภายในเกือบทุกๆ จุดของโรงแรม เธอบอกว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ น่าสนใจแฝงอยู่มากมายที่คนเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะว่าในการตกแต่งดีไซเนอร์จะใส่ความเป็นไทยเข้าไปด้วยเสมอ เช่น ที่ร้านอาหาร เดอะ คิทเชน เทเบิล อยู่ที่ชั้น 2 รอบๆ ห้องด้านหน้าและด้านข้างจะตกแต่งเป็นลวดลายจระเข้ โดยอิงจากนิทานพื้นบ้านเรื่องไกรทอง

 

“ผนังห้องจะเป็นลายจระเข้หมด ส่วนกระจกตรงกลางของร้านอาหารจะมีรูปไกรทองยืนนั่งไหว้เรียงกัน เป็นภาพสามมิติสวยงามมาก โดยที่มาของการตกแต่งเป็นลายจระเข้นี้ เพราะทราบว่าพื้นที่ตรงนี้ในสมัยก่อนเคยเป็นบึงจระเข้

ขณะที่ชั้น 1 ตรงหน้าลิฟต์ก็จะเอาความเป็นกรุงเทพฯ เข้ามาใส่ คือจะมีไฟรถตุ๊กตุ๊ก 800 ดวงประดับอยู่ หรือแชนเดอเลียร์ตรงบริเวณบันไดวน ดีไซเนอร์จะเอาถุงน้ำมาร้อยอย่างสวยงาม ซึ่งถ้าดูไกลๆ จะเป็นแชนเดอเลียร์ที่สวยงามมาก แต่พอดูใกล้ๆ จะรู้ว่ามันคือถุงน้ำธรรมดานั่นเอง ซึ่งดีไซเนอร์ได้ไอเดียจากชีวิตคนกรุงเทพฯ ที่เวลาอากาศร้อนก็จะซื้อน้ำดื่มที่ใส่ถุงขาย

นอกจากนี้ ในชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นพื้นที่จัดประชุม บริเวณด้านหน้าหรือโฟเย่ท์จะมีรูปสุนัขจรจัด 3 ตัวติดอยู่ตามเสา 3 ต้น เป็นรูปถ่ายสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในถนนสีลมนี่เอง ซึ่งครั้งหนึ่งหากยังจำได้มีการเคลียร์สุนัขจรจัดในกรุงเทพฯ แล้วก็มีกลุ่มที่ต่อต้านการทารุณสัตว์มาประท้วง นี่คือที่มา” ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด เล่า

ยังไม่หมดที่เธอจะเล่าให้ฟังครับ แต่เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้เกี่ยวกับดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ให้มากกว่านี้ลองมาสัมผัสดู แล้วคุณจะประทับใจในบริการและบุคลากรของที่นี่

การศึกษา : มัธยมศึกษาจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ปริญญาตรีด้านการโรงแรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลักสูตรนานาชาติ เกียรตินิยมอันดับ 1

ประสบการณ์ทำงาน : โรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท สุขุมวิท ซอย 2 ตำแหน่งผู้ประสานงานแผนกอีเวนต์ โรงแรมเชอราตัน พัทยา โรงแรมดับเบิ้ลยู สมุย และโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ในสายงานด้านการตลาดทั้งหมด

มุมมองในการทำงาน : ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้น การมีโอกาสได้ร่วมงานกับโรงแรมต่างๆ ย่อมทำให้เราได้เรียนรู้งานมากขึ้น กว้างขึ้น หลากหลายขึ้น และที่สำคัญทำให้เราได้พัฒนาตัวเองมากขึ้นไปด้วย