การ์ฟิลด์ จอมซ่าของ เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์

โดย...ลีโอ เคน / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

สาวน้อยหน้าใส น้องเบสท์ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ ที่ฝากผลงานภาพยนตร์และละครให้แฟนๆ ประทับใจมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง และจ่อคิวออนแอร์อีกหลายเรื่องเช่นกัน

วันนี้เธอพักจากบทบาทละคร แล้วพาเจ้าแมวจอมซ่าส์ นามว่าการ์ฟิลด์ มาบอกเล่าความรักความสัมพันธ์จนทะลุองศาร้อนทีเดียวล่ะครับ

“จริงๆ แล้วฝันอยากจะเลี้ยงแมวมานานแล้ว แต่คุณแม่ไม่ยอมให้เลี้ยงกลัวเราเป็นภูมิแพ้ พอโตขึ้นก็เลยขอเลี้ยง วันหนึ่งไปเดือนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับพี่สาว แล้วก็มีมูลนิธิเขามา เขานำแมวนำหมามาหาคนรับเลี้ยง เราก็มาเจอตัวนี้แล้วถูกชะตา มันมีสีส้ม 2 ตัว แต่พอดีตัวนี้จะสีอ่อนกว่า ขนยาวกว่า อายุประมาณ 3 เดือนแล้ว ก็ไม่รู้พันธุ์อะไร คงผสมหลายเชื้อชาติ (หัวเราะ) ตัวเบามากถือมือเดียวยังได้เลย”

จากนั้นมาน้องเบสท์ก็ได้เจ้าแมวสีส้ม ซึ่งได้ชื่อต่อมาภายหลังว่า การ์ฟิลด์ เป็นเพื่อนข้างกายที่สร้างวีรกรรมอันน่าจดจำ

 

“ทีแรกกะจะหามาเลี้ยงอีกตัว แต่แค่ตัวนี้ตัวเดียวก็ไม่ไหวแล้วค่ะ (หัวเราะ) เราก็ไม่รู้จะดูแลมันอย่างไง บ้านก็พังไปเยอะเลยค่ะด้วยเล็บมัน มุ้งลวดเป็นแบบเม็กเน็ตไอ้ตัวนี้ก็จะเอาเล็บเกี่ยวทุกวันมุ้งมันก็ขาดกระจุย ทำจนพังหมดเลย ขูดเล็บลับเล็บกับโซฟาพังหมด มันจะเป็นแมวโหดค่ะ (หัวเราะ)

เบสท์เคยโดนกัดได้แผลบ่อยมาก มันจะงับมืองับน่อง คือเขาจะเล่นแต่ว่าเล่นแรง บางทีแอบอยู่เราเดินเข้ามามันก็กระโดดใส่ ตอนแรกเราไม่รู้มุกมันว่าจะมาไม้ไหน แต่ตอนหลังรับมือได้แล้ว (หัวเราะ) เวลาจะกินมันก็จะมานั่งมองเรา ครั้งแรก ครั้งที่สองเราก็ไม่สนใจ แต่พอครั้งที่สามเรายังไม่สนใจมันก็จะงับน่องเลย (หัวเราะ) เราก็ต้องไป

บางทีอารมณ์ดีก็จะกระโดดขึ้นมาบนตักแล้วก็มาจูบปาก มันเป็นแมวที่มีหลายอารมณ์ เราก็สปอยมัน จะกินเยอะ เราจะหั่นเนื้อให้มัน มันก็เลยเหมือนมีพุง ห้อยๆ น้ำหนักประมาณ 56 กก. แล้ว

อีกอย่างคือการ์ฟิลด์เป็นแมวตัวยาวเพราะชอบโหน อย่างจะออกไปข้างนอกมันก็จะโหนหัวเพื่อจะออก ตัวมันยาวมาก มันจะใช้วิธีนั่งขอบหน้าต่างแล้วใช้ขาดึงมุ้งลวดเป๊ะ เป๊ะ เราก็จะรู้ว่ามันอยากออกก็จะปล่อยมันไป

 

ตอนแรกก็จะขังมันอยู่ในห้อง ในห้องน้ำเป็นห้องน้ำแมว แต่พอโตก็จะปล่อยให้ออกข้างนอก ออกไปทีมันก็จะโดนกัด เราเลี้ยงแบบคุณชาย ตอนหลังเราก็ทำหมันไม่ให้มันเที่ยว แต่มันก็มีลอยจารึกที่หูมันจะแหว่งเพราะโดนแมวตัวอื่นกัด น่าจะเพราะแย่งสาวกัน ก็เลยจับทำหมันมันซะเลย ตัวเลยอ้วนปั้ก (หัวเราะ) ตอนนี้คงไม่สนใจแมวตัวเมียแล้วล่ะค่ะ (หัวเราะ)”

แม้จะซ่าส์ลดลงไปสักหน่อย แต่การ์ฟิลด์ก็มีดีอยู่เหมือนกันนะ

“การ์ฟิลด์จะเป็นแมวที่สั่งได้และติดคน อย่างแม่บอกว่าให้ไปปลุกเจ้หน่อย เจ้คือเรา มันก็จะไปปลุก มันจะรู้ว่าใครอยู่ห้องไหน อย่างบางทีแม่ก็สั่งให้มันไปเอาผ้าห่มของมันมาให้แม่ซักมันก็จะไปคาบมาให้ ฉลาดมาก รู้มาก หน้าตาไม่ค่อยน่ารักแต่ด้วยความที่มันรู้ภาษาก็เลยทำให้ทุกคนรักมัน ทีแรกคุณพ่อไม่รักมันเลย ค่อนข้างกลัว เขาชอบหมามากกว่า แต่หลังๆ ก็จะรักมัน

การ์ฟิลด์จะมีท่านอนแปลกๆ คือนอนเหมือนโยคะ มือไปทาง ขาไปทาง ตัวก็จะบิดยาวเป็นฟุต และจะชอบนอนปิดตา แต่ถึงจะเป็นแมวซ่า แต่มันชอบต้อนรับแขกนะคะ โดยเฉพาะผู้ชายมันจะชอบเข้าไปพันแข้งพันขา เราก็เออ...มันเป็นแมวเกย์ป่าวเนี่ย (หัวเราะ) เพราะมันจะกัดผู้หญิงในบ้าน มันรักพ่อมาก แต่กัดผู้หญิงในบ้าน ขี้รำคาญ ขี้หงุดหงิด และมันก็จับหนูเก่ง บางทีก็กัดนก เราก็ตีมันว่าอย่าทำอย่างนี้เดี๋ยวจะโดนกัดคืน มันก็เชื่อฟัง

ถ้าวันไหนอารมณ์ดีก็จะชอบมานั่งบนตักไม่ต้องเรียกนะ และก็ชอบให้เราเกาคอ ทำให้เรารู้สึกว่ายังมีสิ่งมีชีวิตอีกอย่างที่ต้องดูแลเขา ต้องให้ความรักกับเขา เหมือนเป็นเพื่อนเรา เขาแปลกมากเวลาที่เห็นเราเครียดหรือเศร้า เขาจะเดินมาปลอบเรา โดยการเดินเอามือมาแตะเรา เรานั่งเก้าอี้ก็จะมาแตะขา แต่ถ้าเรานั่งพื้นก็จะมาแตะเท้า แล้วนั่งแบบเรียบร้อย เราก็จะลืมความเครียดไปได้เลย”

สุดท้ายน้องเบสท์ฝากถึงคนคิดจะเลี้ยงสัตว์เอาไว้ได้อย่างน่าฟังว่า

“การที่เรามีสัตว์เลี้ยงมันทำให้เราเรียนรู้เรื่องของการให้ มีแมวเหมือนมีลูก เรารู้วิธีการให้ความรัก เขาก็มอบกลับมาให้เราเช่นกัน ความน่ารัก ความสดใส และแสนรู้ ทำให้เราหาย บางคนบอกตุ๊กตาก็ทำได้ แต่ตุ๊กตามันมีหน้าเดียว แต่แมวมันมีหลายอารมณ์ทำให้เรามีความสุข แอบกลัวเหมือนกันว่าวันหนึ่งถ้าเขาไม่อยู่เราคงเศร้า อยากให้เขาอยู่กับเรานานๆ”