posttoday

พระเถระ 4 ประเทศสนับสนุน พุทธพลิกสุวรรณภูมิ

25 พฤษภาคม 2557

พระเถระชั้นผู้นำจากราชอาณาจักรไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา สปป ลาว และเวียตนาม

พระเถระชั้นผู้นำจากราชอาณาจักรไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา สปป ลาว และเวียตนาม สนับสนุนโครงการพุทธพลิกสุวรรณภูมิ ที่สถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 (Bodhigayavijjalaya980) เสนอต่อที่ประชุมเสวนาเรื่องพุทธพลิกสุวรรณภูมิ ธรรมวิชัยพลิกปัญหาสู่มรรคา ที่โรงแรมโซฟีเทล อังกอร์โภคีธรา กอล์ฟ & สปา รีสอร์ท ( เสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที 17-18 พฤษภาคม 2557

พระเถระ และผู้นำสถาบันโพธิคยา คาดหวังว่าพุทธศาสนาจะกลับมาเป็นประทีปนำทางชีวิตประจำวันของประชาชนในย่านสุวรรณภูมิ ดังที่เคยเป็นในอดีต ที่พระโสณะเถระ และพระอุตระเถระ ในฐานะพระธรรมทูต นำพุทธธรรรมมาบุกเบิก เมื่อ 300 ปี ก่อนคริสตกาล

พระมหาเถระจาก 4 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมพร้อมกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แห่งคณะสงฆ์สุวรรณภูมิ ประกอบด้วย สมเด็จพระสังฆราชเทพวงศ์ (Somdej Tep Vong) ประมุขสงฆ์มหานิกาย แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พระมหาผ่อง สะมะเลิก ( Som Dej Phong Samaruks) ประธานพุทธศาสนิกสัมพันธ์ สปป ลาว พร้อมด้วยคณะสงฆ์จำนวนหนึ่ง Most Ven. Dr Thich Thien Tam, Vice President of Vietnam Buddhist Sangha และสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (Som Dej Phra Buddha Chinna Wong ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม พร้อมด้วยพระเถระหลายรูปจากประเทศไทยเช่นพระธรรมวรนายก ( Phra Dhammavoranayaka) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระธรรมปริยัติเวที (Phra Thammapariyativethee) เจ้าคณะภาค 15 พระธรรมราชานุวัตร (Phra Thammarajanuwatra ) เจ้าคณะภาค 6 พระเทพโพธิวิเทศ (Phra Thep Phothivithes ) หัวหน้าพระธรรมทูตไทย ประจำอินเดียเนปาล พระเทพวิสุทธาภรณ์ (Phra Thepvisutthaporn) เจ้าอาวาสวันอินทรวิหาร เป็นต้น

สมเด็จพระสังฆราชเทพวงศ์ ทรงแสดงความปีติและอนุโมทนา ที่สถาบันโพธิคยาให้โอกาสพระสงฆ์กัมพูชา เข้าฝึกอบรมพระธรรมทูตเชิงลึกในประเทศอินเดีย เป็นการสร้างสามัคคีของคณะสงฆ์ในภูมิภาคนี้ และคาดหวังว่าจะเพิ่มจำนวนพระสงฆ์จากกัมพูชาให้มากขึ้น

พระเถระ 4 ประเทศสนับสนุน พุทธพลิกสุวรรณภูมิ

 

สมเด็จพระเทพวงศ์ทรงมีความเห็นว่าผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนานั้น ย่อมมีความรู้สึกเหมือนพี่เหมือนน้อง เพราะมีพ่อคนเดียวกันคือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อไรที่พี่น้องทะเลาะกัน ผู้ที่เป็นพ่อต้องเสียใจ ดังนั้นโครงกาของสถาบันโพธิคยา ที่ต้องการพลิกสุวรรณภูมินั้นเป็นโครงการที่ดี แต่กว่าจะเป็นรูปธรรมคงต้องใช้เวลา ต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ส่วนอนาคตมองไม่เห็น

ท่าน ดิช เทียน ต๋ำ (Most Ven. Dr Thich Thien Tam) แห่งเวียตนาม กล่าวผ่านล่าม พระสุทธิธมฺโม ซึ่งเป็นพระชาวเวียตนาม วัดนาคปรก) ว่าความพยายามของสาบันโพธิคยา ที่จะพลิกสุวรรณภูมิให้สำเร็จคามเป้าหมาย ต้องพยายามสร้างความสามัคคีให้เกิดในหมู่ชนที่นับถือพระพุทธศาสนาในภาคพื้นสุวรรณภูมิใก่อน จากนั้นให้ใช้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเช่นอริยมรรคมีองค์ 8 ที่ย่นย่อมาเป็นหลักธรรมคือ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นตัวขับเคลื่อน โครงการพุทธพลิกสุวรรณภูมิจะต้องสำเร็จแน่นอน

หลวงปู่พระมหาผ่อง สะมะเลิก (อายุ 100 ปี) ประธานพุทธศาสนิกสัมพันธ์ สปป ลาว ได้กล่าวถึงการเสวนาว่าแค่ชื่อก็เป็นมงคลแล้ว เพราะตรงกับมงคลสูตร

ส่วนการประชุมเสวนานั้นเป็นการแสดงความคิดเห็น จึงขอฝากให้ที่ประชุมคำนึงถึงหลักการพึ่งตนเอง ส่วนการเผยแผ่จะได้ผลดี ไม่ใช่เพียงแต่พูดเท่านั้น แต่ต้องทำให้ดูด้วย

พร้อมกันนั้นท่านฝากวรรคทองไว้ว่า กินคนเดียวไม่พอกิน แต่กินหลายคนเหลือกิน

พระเถระ 4 ประเทศสนับสนุน พุทธพลิกสุวรรณภูมิ

 

สุดท้ายท่านตอบคำถามว่าพุทธพลิกสุวรรณภูมิเป็นไปได้หรือไม่ว่า ให้ทุกคนเดินตามเส้นทางธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รับรองว่าไปฮอด (ไปถึง) แน่นอน

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้กล่าวอนุโมทนาว่าเมื่อพระสงฆ์ในสุวรรณภูมิ มีความสามัคคีกัน รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ย่อมเป็นความสุข เมื่อคฤหัสถ์ร่วมมือด้วยย่อมเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งขึ้นมาอีก จึงเสนอแนะให้นำองค์ความรู้ที่ได้จากการประชุมเสวนาไปต่อยอด ให้มากขึ้น

ส่วนที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์เสนอแนะให้อบรมกรรมฐานเป็นเบื้องต้น ก่อนเข้าอบรมพระธรรมทูตที่อินเดียนั้น ม่านให้เหตุผลว่า ทำได้จะสอดคล้องกับสาวกประเพณี นับแต่ครั้งพุทธกาล ที่พุทธสาวกเมื่อได้รับการอุปสมบท บอกกรรมฐานจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จะเข้าสู่ที่สงบเพื่อปฏิบัติ เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งต้องเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อกราบทูลถึงความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม

หากได้ผลดี ทรงอนุโมทนา หากไม่ได้ จะทรงแสดงพระธรรมเทศนาเพิ่มเติม เพื่อให้พระภิกษุรูปนั้นๆ ไปฝึกต่อ

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ยกเรื่องพระภิกษุ 30 รูปที่รับกรรมฐานจากพระพุทธองค์แล้วไปฝึกปฏิบัติ ต่อมาสำคัญผิดคิดว่าบรรลุแล้ว จึงมาขอเข้าเฝ้า พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยญาณ จึงบอกพระอานนท์ว่าไม่อนุญาตให้พบ แนะนำให้ไปป่าช้าก่อน เมื่อพระทั้ง 30 รูปเข้าไปในป่าช้าเห็นทรากศพ ก็มีความกลัว และสะอิดสะเอียน จึงรู้ตัวว่ายังไม่บรรลุธรรมใดๆ เลย

เมื่อได้เข้าเฝ้าอีกครั้ง พระพุทธองค์จึงทรงเทศนาและให้ไปปฏิบัติ เพื่อการบรรลุธรรมต่อไป ทั้งนี้เพราะพระพุทธองค์ทรงเห็นว่า การปฏิบัตินั้นเป็นธรรมที่ต้องทำ (ปฏิบัติ) ดังพุทธภาษิตว่าผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา (ตถาคต)

อย่างไรก็ตามในการเสวนานั้น ได้ยกเรื่องการปกครอง การเผยแผ่ การศึกษา และการสาธารณสงเคราะห์ ของคณะสงฆ์แต่ละประเทศ ที่ปฏิบัติตามหลักการ และนโยบายของแต่ละประเทศมาอภิปราย เพื่อให้เป็นเอกภาพ สร้างความสามัคคีในการพลิกสุวรรณภูมิให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อไป เพราะแต่ละประเทศ มีปฏิบัติไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะมีหลักการคล้ายกันในหลายเรื่อง จึงมีข้อเสนอจากที่ประชุมให้สร้างคัมภีร์เป็นคู่มือในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยนำหลักธรรม และหลักปฏิบัติมาอธิบาย และอ้างอิงตามภาษาของแต่ละประเทศ แต่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง เพื่อให้การเผยแผ่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งสถาบันโพธิคยา จะสนับสนุนแนวคิดนี้ต่อไป

สถาบันโพธิคยาวิชชชาลัย 980 ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนส่งเสริมพระสงฆ์จากประเทศไทย สปป ลาว เวียตนาม และราชอาณาจักกัมพูชา ให้เข้าอบรมหลักสูตรพระธรรมทูตเชิงลึกในดินแดนพุทธภูมิ เพื่อนำความรู้ และประสบการณ์ กลับมาเผยแผ่ และอบรมสั่งสอนประชาชนชาวพุทธในประเทศนั้นๆ ให้มีศรัทธาปสาทะ ที่มั่นคงยิ่งขึ้น โดยได้ทำโครงการนี้ติดต่อกันมา 5 ปี อบรมไปแล้ว 5 รุ่น รุ่นละ 30 33 รูป และในปี พ.ศ. 2557 นี้อบรมรุ่นที่ 6 ใช้เวลาซึ่งเวลา 4 เดือน จากที่เคยใช้เวลา 3 เดือน เนื่องจากเพิ่มการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน อีก 1 เดือน ตามคำแนะนำของสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง

ส่วนวัตถุประสงค์ของการระชุมเสวนา โพธิคยา 980 พุทธพลิกสุวรรณภูมิ ธรรมวิชัยพลิกปัญหาสู่มรรคา นั้น ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ (Supachai Veraphuchong) เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า จากการที่ตนมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจในภูมิภาคนี้มา 24 ปี พบเห็นเรื่องต่างๆมาก เช่นขาดความเป็นเอกภาพ เมื่อประเทศในภูมิภาคนี้จะรวมตัวกันเป็น AEC แต่ความเชื่อมโยงในมิติของ AEC ยังไม่เป็นรูปธรรม เพราะปัญหาหลักเลยคือแนวคิดของคน

ประเด็นแรกคือ ชาวพุทธด้วยกันมีแนวคิดในเชิงการแข่งขัน และหวังเอาชนะกันเสมอ การเชื่อมโยงในดินแดนสุวรรณภูมิ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจึงไม่สามารถที่จะเป็นไปได้ สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จึงจุดประกายแนวคิดเพื่อใช้หลักธรรมแห่งพุทธ มาทำให้สุวรรณภูมิเป็นเอกภาพ ซึ่งได้รับความร่วมมือ และความเมตตาจากพระเถระผู้ใหญ่ในแต่ละประเทศดีมาก

ส่วนประเด็นที่พูดในการเสวนา ที่จะพูดถึงปัญหาในหลายแง่หลายมุมนั้น เพื่อให้เห็นปัญหาที่จะแก้ด้วยกัน เหมือนลงเรือลำเดียวกัน ถ้าเห็นเรือรั่วต้องช่วยกันอุดมิเช่นนั้นเรืออาจล่มได้

ในนามสถาบันโพธิคยา มีความพอใจกับเสียงสะท้อน และเห็นพระสงฆ์ทำงานเพื่อพระศาสนา ซึ่งจะทำให้สิ่งที่เป็นปัญหาได้รับการแก้ไข เพื่อความเป็นเอกภาพ ดังพุทธภาษิตว่า สุขา สังฆัสสะ สามัคคี ความพร้อมเพรียงในหมู่สงฆ์เป็นความสุข

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้