สามมรกต : คลอง สระ ถ้ำ

โดย...กาญจน์ อายุ

พบ “มรกต” บนแผ่นดินกระบี่ เม็ดหนึ่งอยู่ใน อ.เมืองกระบี่ ที่ท่าปอมคลองสองน้ำ อีกเม็ดล้ำค่าซ่อนอยู่ในป่าชื่อสระมรกต เป็นอัญมณี “น้ำ” งามให้แหวกว่าย ไม่มีกะรัต ไม่ต้องเจียระไน ความงามนั้นเห็นได้เพียงตามอง

เม็ดที่ 1 อยู่ในคลอง

“ท่าปอมคลองสองน้ำ” เป็นอันซีนไทยแลนด์ (Unseen Thailand) เมื่อปีใดไม่สำคัญ สำคัญตรงที่มันยังคงอันซีนจนถึงบัดนี้ ท่าปอมเป็นลำคลองสายสั้นๆ มีลักษณะนิเวศเป็นป่าพรุน้ำจืดเชื่อมต่อกับป่าชายเลน สองฟากฝั่งอุดมด้วยต้นชมพู่น้ำ รากของมันแผ่ผสานเป็นเกราะกันตลิ่งและกันภัยให้ลูกปลา เป็นรูปทรงของธรรมชาติที่แปลกตาดูสวยและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน

ท่าปอมมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม แต่ละช่วงเวลาสีของน้ำจะต่างไปขึ้นอยู่กับอิทธิพลของน้ำทะเล ซึ่งจะปรากฏเป็นสี “มรกต” เมื่อน้ำทะเลหนุนและจะสวยขึ้นถ้าแดดตกกระทบ

 

หากมองตามลำแสงลงไปรวดเดียวจะเห็นถึงพื้นล่าง เพราะความใสของน้ำเกลี้ยงเกลาเห็นทุกสิ่งทั้งดงหญ้าทะเลที่กำลังพลิ้วไหวตามแรงน้ำ รากไม้น้ำ และปลาตาโต ปลาในคลองสายนี้จะมีลักษณะพิเศษ เช่น ปลาขี้ตั้งและปลากระบอก พวกมันเป็นปลาน้ำจืดที่ต้องปรับตัวให้อยู่ในน้ำเค็ม เมื่อความหนาแน่นของน้ำเปลี่ยนไป ทำให้ตาทั้งสองข้างโปนถลึงออกจากเบ้า ดูเต่งเหมือนปลาปักเป้าเวลาพองตัว

นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้บนทางเดินไม้เลาะเข้าไปในป่าพรุทะลุไปถึงคลอง วนรอบเป็นวงกลมยาวประมาณ 700 เมตร โดยบริเวณคลองที่มีต้นชมพู่น้ำหรือจุดที่เป็นซิกเนเจอร์ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ปล่อยให้คนลงเล่นแล้วรากไม้เสียหายไปมาก แต่บริเวณสุดทางที่เป็นแอ่งน้ำกว้างยังลงเล่นน้ำได้อยู่ ยิ่งหน้าร้อนเช่นนี้มีเด็กจูงผู้ใหญ่มาเล่นน้ำจำนวนมากไม่แพ้ทะเล

 

เม็ดที่ 2 อยู่ในสระ

มรกตอีกเม็ดอยู่ใน อ.คลองท่อม ดูจากชื่อก็รู้แล้วว่ามาไม่ผิดที่ “สระมรกต” เป็นแอ่งน้ำจืดทรงเกือบกลมขนาดใหญ่รองรับน้ำจากต้นน้ำที่อยู่บนเขา กำเนิดจากธารน้ำอุ่นทำให้น้ำมีอุณหภูมิ 30-50 องศาเซลเซียส สีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามสภาพแสง ยิ่งแสงมากก็ยิ่งเขียวใส แต่ถ้าแสงน้อยน้ำจะออกเป็นสีเทอร์ควอยซ์สวยเหมือนกัน

เหนือสระมรกตขึ้นไปยังต้นน้ำเป็นบ่อที่เรียกว่า สระน้ำผุด เป็นสระน้ำแร่ตามธรรมชาติที่มีสีน้ำเป็นสีเขียวเช่นกัน คนที่มาถึงบนนี้จะไม่ยืนดูเปล่า แต่จะปรบมืออยู่ริมสระ ไม่ใช่เพราะมีคนร้องเพลง แต่เพราะน้ำจะผุดขึ้นตามจังหวะปรบมือ

 

สระมรกตซ่อนตัวอยู่ในป่าสมกับเป็นอันซีนอีกแห่งของกระบี่ จากปากทางต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 800 เมตร ผ่านแนวป่าเข้าไปเรื่อยๆ ส่วนต้นน้ำนั้นต้องเดินต่อจากสระมรกตไปอีก 20 นาที เป็นทางปูนตัดเข้าป่าค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นเขาไป เป็นจุดที่ได้รับความสนใจ แต่ไม่ค่อยมีใครขึ้นไปจริง

เม็ดที่ 3 อยู่ในถ้ำ

มรกตเม็ดสุดท้ายไม่ได้อยู่บนแผ่นดิน แต่อยู่ใต้จมูกเกาะมุก จ.ตรัง “ถ้ำมรกต”

นักท่องเที่ยวจำนวนมากลอยลำรอเวลาให้น้ำลดเพื่อจะได้ลอยคอเข้าไปยังถ้ำมรกต จากปากถ้ำเข้าไปมีความยาวประมาณ 80 เมตร แต่ส่วนที่เรียกว่ามรกตอย่างแท้จริง คือ บริเวณปากถ้ำที่แสงยังส่องถึง

น้ำทะเลตรงจุดนั้นเหมือนเปล่งแสงสีเขียวออกมาได้ สะท้อนผนังถ้ำจนเป็นสีเขียวไปด้วย เหมือนกับว่าได้อยู่ใต้ท้องฟ้าสีมรกตประมาณแสงออโรร่าที่ขั้วโลกอย่างนั้น

 

เมื่อผ่านบริเวณที่แสงส่องถึงไปแล้ว ภายในถ้ำก็กลายเป็นมืดมิด เสียงค้างคาวร้องเหมือนกำลังหงุดหงิดแต่ไม่เห็นตัว จากนั้นเมื่อเข้าสู่ระยะ 10 เมตรสุดท้าย เริ่มมีแสงจากปลายทางส่องเข้ามาถึง ก่อนทะลุสู่แอ่งน้ำกลางแจ้ง มีลักษณะเป็นช่องหรือปล่องล้อมด้วยผาสูง ตรงกลางมีน้ำ มีหาดทราย ไม่มีเพดานปิด อย่างกับเป็นทะเลส่วนตัวที่ตัดขาดจากโลกภายนอก

สามมรกตซุกซ่อนอยู่ในคลอง สระน้ำ และถ้ำทะเล เป็นความพอดีของธรรมชาติที่รังสรรค์ให้เกิดเป็นอัญมณีบนเปลือกโลก ที่ไม่ว่าใครก็สามารถสัมผัสได้ ขึ้นอยู่แค่ว่าจะออกไปสัมผัสมันหรือเปล่าเท่านั้นเอง

 

สอบถามเส้นทางท่องเที่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ โทร. 075-622-163, 075-612-811-2 สำนักงานตรัง โทร. 075-215-867, 075-211-058, 075-211-085

เอ็กซ์พีเดีย ไทยแลนด์ จัดแพ็กเกจ “มหัศจรรย์เที่ยวเมืองไทย” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ เที่ยวในกรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต และสมุย ราคาเริ่มต้นที่ 2,999 บาท/คน และโรงแรมเริ่มต้นที่ 1,000 บาท/คืน เปิดจองผ่านเว็บไซต์ www.expedia.co.th ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย. 2557 เดินทางได้วันที่ 1 มิ.ย.-31 ต.ค. 2557