อุลซาน อีโคโพลิสแห่งเกาหลีใต้
เมื่อ 50 ปีที่แล้วใครจะคาดคิดว่า เมืองอุลซาน อดีตเมืองท่าประมงเล็กๆ ทางตอนเหนือของเมืองปูซาน
เมื่อ 50 ปีที่แล้วใครจะคาดคิดว่า เมืองอุลซาน อดีตเมืองท่าประมงเล็กๆ ทางตอนเหนือของเมืองปูซาน จะกลายมาเป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรม ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ และยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมตัวอย่าง ที่ทำให้เมืองอุตสาหกรรมอื่นๆ ตื่นตัวในการให้ความสำคัญชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลมาจาการที่เมืองนี้ตั้งเป้าหมายจะเป็นเมืองอีโคโพลิส (Ecopolis) หรือมหานครที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอันดับต้นๆ ของโลก
หลังสิ้นสุดสงครามคาบสมุทรเกาหลี ประเทศเกาหลีใต้เริ่มฟื้นฟูบ้านเมืองและเศรษฐกิจ โดยนำเอาการปฏิวัติอุตสาหกรรมในหลายๆ ประเทศมาเป็นต้นแบบ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศ รอบๆ กรุงโซลและเมืองอินชอน แต่เมืองทางตอนใต้ของประเทศอย่างปูซานและอุลซาน ยังไม่ได้รับความสนใจมากนัก ผู้คนส่วนใหญ่จึงยังคงมีรายได้ต่ำจากการทำอาชีพเกษตรกรรมและประมง นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศ
คุณ Kim, SangYuk ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองอุลซาน อธิบายถึงการพัฒนาทางอุตสาหกรรมของเมืองอุลซานให้เราฟังว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้รัฐบาลเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองทางตอนใต้ โดยที่แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ในปี 1962 ได้เลือกให้เมืองอุลซานเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางนิคมอุตสาหกรรมทางตอนใต้ เริ่มต้นด้วยการก่อตั้งโรงงานถลุงเหล็กและโรงงานต่อเรือ ที่ภายหลังต่อมาถูกพัฒนาต่อยอดไปสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัญหามลพิษจากกระบวนการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมของอุลซาน ได้นำไปสู่การต่อต้านอย่างรุนแรง ทำให้ภาคอุตสาหกรรมเกิดความไม่มั่นคง และอาจเกิดความเสียหายร้ายแรงถ้าต้องปิดตัวลง ดังนั้น ทางออกของการแก้ปัญหา คือ การให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิต ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนด้วยความจริงใจ
แม่น้ำแทวากัง (Taehwagang) คือแม่น้ำสายสำคัญที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาของเมืองอุลซาน ซึ่งในอดีตแม่น้ำสายนี้เคยปนเปื้อนด้วยมลพิษจากโรงงานอย่างหนัก นำไปสู่การจัดตั้งโครงการ “Recent Salmon” เพื่อแก้วิกฤตดังกล่าว ด้วยการดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างจริงจังกับโรงงานที่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียงในโรงงาน ฟื้นฟูคุณภาพน้ำในแม่น้ำ และสร้างพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ด้วยการสร้างสวนสาธารณะแทวากังขึ้นบนเนื้อที่ร้อยกว่าไร่ โดยใช้ต้นไผ่เป็นพันธุ์ไม้หลัก เพราะการเจริญเติบโตของต้นไผ่สามารถใช้เป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี และยังกลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเมืองอุลซาน โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลินั้น สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด รวมถึงดอกเชอร์รีบลอสซั่มอีกด้วย
แม้ว่าอุลซานจะเป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วยนิคมอุตสาหกรรม แต่ก็มีความพยายามในการอนุรักษ์วิถีชีวิตเก่าแก่ ดังเช่นที่หมู่บ้านออโกซานองกิ (Oegosan Onngi Village) หมู่บ้านช่างเครื่องปั้นดินเผาที่ยังคงสืบทอดจากบรรพบุรุษ ที่รวมตัวกันภายหลังสิ้นสุดสงครามคาบสมุทรเกาหลี มาร่วมกันก่อตั้งหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นเพื่อผลิตภาชนะดินเผาต่างๆ โดยเฉพาะไห ภาชนะสำคัญที่ทุกครัวเรือนในเกาหลีจะต้องมีไว้สำหรับถนอมอาหารไว้รับประทานในฤดูหนาว เช่น กิมจิและซอสถั่วเหลืองชนิดต่างๆ ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้มีศิลปินช่างปั้นเหลืออยู่เพียง 11 คน ส่วนใหญ่เป็นรุ่นลูก บางส่วนก็ยังคงเป็นผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรงและมากด้วยประสบการณ์ มีความชำนาญในการผลิตเครื่องปั้นดินเผาคุณภาพสูง
อีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจในการมุ่งสู่การเป็นอีโคโพลิสของอุลซาน นั่นก็คือ การจัดการทางด้านภูมิทัศน์ ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต และสุขภาพจิตของประชาชน อันเนื่องมาจากเมืองนี้รายล้อมไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรม ปล่องควัน และรถบรรทุก ดังนั้น จึงมีความพยายามในการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม ลบภาพความเป็นเมืองอุตสาหกรรม ดังเช่นที่จุดชมวิวกัลเจลกอต (Ganjelgot) ที่ในอดีตเคยเป็นเพียงแนวโขดหินชายฝั่ง แต่ได้มีการพัฒนาให้กลายเป็นสวนไม้ดอกขนาดใหญ่ ที่มีการจัดวางผังให้สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย ไม่ไกลกันมายังเป็นที่ตั้งของดราม่าเฮาส์สตูดิโอแอนด์เรสเทอรองต์ หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมในการเป็นฉากของละครหลายเรื่อง เหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบการตามรอยละครเกาหลี
อุลซานเป็นอีกหนึ่งเมืองตัวอย่างที่สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาในแบบฉบับเกาหลีใต้ ซึ่งชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินการของภาคอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับใช้เป็นกรณีศึกษา สำหรับการพัฒนาในหลายๆ เมืองของประเทศไทย และอย่าลืมติดตามชมเนื้อหาพร้อมภาพประกอบเพิ่มเติมได้ในรายการโลก 360 องศา วันเสาร์ 3 ทุ่ม ทาง ททบ.5


