อัครา อมาตยกุล ลาแล้ววงการมายา

โดย...โจ เกียรติอาจิณ/ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

ยืดอกแมนๆ ออกมาประกาศเสียงดังหนักแน่น “จะขอหันหลังให้วงการบันเทิง” เท่านั้น สื่อทุกสำนัก รวมทั้งแฟนๆ ต่างก็จับจ้องว่า “กอฟ-อัครา อมาตยกุล” พูดจริง หรือแค่อำ

เราไม่รอช้า มุ่งหน้าไปหากอฟ เจอตัวเป็นๆ พระเอกหน้าคมผิวเข้ม จึงขอไต่ถามถึงเรื่องราวที่ตกเป็นข่าว

“จริงๆ ครับ เพราะผมแปลนไว้แล้วว่าน่าจะปีนี้แหละครับที่จะลาวงการ” กอฟเปรยด้วยสีหน้านิ่ง ก่อนจะบอกเหตุผล “คือผมอยากลองทำอะไรใหม่ๆ ดูครับ ส่วนหนึ่งก็คงมาจากการที่ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรม ก็เลยเห็นธรรมะ เห็นธรรมชาติที่ผมได้ลองปฏิบัติ”

เบื่อวงการ อยากจะหนีชีวิตมายา หรือว่าดวงตาเห็นสัจธรรม กอฟยืนยัน ไม่ขนาดนั้น แต่ทุกอย่างเมื่อดำเนินมาถึงจุดอิ่มตัว เขาก็ควรจะถอยห่าง ไปลองทำในสิ่งที่ท้าทายกว่า

แปลนในชีวิตหลังจากนี้ กอฟจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา นิวยอร์กคือหมุดหมายที่เขาจะไปปักหลักกับธุรกิจเล็กๆ ที่เขากับเพื่อนอเมริกันจะร่วมหุ้นทำ อาจเป็นร้านอาหาร หรือไม่ก็บาร์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

“เท่าที่ดูไว้คร่าวๆ น่าจะเป็นร้านอาหารอเมริกันครับ แต่อาจจะเพิ่มกิมมิกเรื่องอาหารสุขภาพเข้าไปด้วย เพราะผมก็ชอบอยู่แล้ว บาร์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จำพวกสมูทตี้ก็คุยกับเพื่อนๆ ไว้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างมันต้องเริ่มต้นจากการทดลองและลองปฏิบัติครับ ต้องไปดูหน้างาน ต้องให้เวลากับมัน ต้องไปศึกษากับมันจริงๆ ผมยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดร้านเมื่อไหร่ บอกไม่ได้จริงๆ อาจจะเปิดทันที หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น หรืออาจจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะนั่นเป็นเรื่องของอนาคต สิ่งที่ผมอยากโฟกัสคือปัจจุบันมากกว่าครับ”

สำหรับธุรกิจใหม่ที่กอฟกำลังจะร่วมลงขันทำกับเพื่อน เขาพร้อมยอมรับในผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น จะโอเค หรือจะล้มเหลว ก็เป็นสิ่งที่เขาเลือกแล้ว เขาว่าผิดถูกคือครู บทเรียนนี้ไม่มีใครบังคับ เขาเท่านั้นคือผู้ตัดสินใจ

 

“ให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติครับ ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีจังหวะของมัน ใช่มันก็คือใช่ ขอแค่ให้อยู่กับสิ่งนั้นๆ อย่างมีสติ ไม่ต้องไขว่คว้า หรือค้นหาเรื่องเกินจริง ให้อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับธรรมะและธรรมชาติ ตอนนี้ผมว่าคนเราตั้งอยู่ในความประมาท ไม่ว่าจะความตาย หรือความโกรธ ง่ายๆ เลยครับ โกรธเป็น กับเป็นโกรธ ต่างกันนะครับ ถ้าโกรธเป็นจะหยุดความโกรธนั้นได้ ถ้าเป็นโกรธ ตายอย่างเดียวครับ เชื้อเพลิงที่โหมกระหน่ำดับยาก สุดท้ายตัวเองก็มอดไหม้ ไม่ใช่คนอื่น ฉะนั้น ทำอะไรต้องมีสติ โกรธเป็น รักเป็น หลงเป็น แต่อย่าเอาตัวเข้าไปเป็นอารมณ์เหล่านั้น”

กอฟถือเป็นพระเอกเบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิงไทย ด้วยลุคและหน้าตาไทย เขาจึงมักได้รับบทบาทที่ขายความเป็นไทย เห็นได้จากหลายผลงานที่เขานำแสดง “ชนะชล” จาก “แม่เบี้ย” “ผู้กองสมพงษ์” จาก “พรางชมพู กะเทยประจัญบาน” “ร.ต.สันติ” จาก “จอมขมังเวทย์” “เปี๊ยก” จากภาพยนตร์ดราม่านักมวย “ไชยา” ที่ส่งชื่อให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สุพรรณหงส์และชมรมวิจารณ์บันเทิงประจำปี 2550 ตลอดจนละครฮิต “สายโลหิต” “มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต” “ดิน น้ำ ลม ไฟ” “ตำรวจเหล็ก” ก็ยังสะท้อนลุคและหน้าตาไทย

“ในฐานะนักแสดง ผมว่าต้องแสดงได้ทุกบทบาท จำได้ว่าตอนเล่นแม่เบี้ย ตัวเองเล่นแข็งมาก เล่นได้แย่มากกกกก (หัวเราะ) ถ้าให้กลับไปเล่นใหม่ ผมว่าผมเล่นดีกว่านั้นแน่นอน แต่ตอนนั้นมันแก้ไขไม่ได้ล่ะ ก็โอเคนะครับ สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ แล้วคนไทยก็ต้อนรับผมดีมากๆ หลังจากนั้นผมก็พยายามพัฒนาฝีมือ พัฒนาเรื่องทักษะการแสดง

ส่วนตัวผม ผมมองว่านักแสดงก็คือโปรดักต์หนึ่งชิ้น อยู่ที่ว่าคุณจะเป็นโปรดักต์แบบไหน ประเภทใด อยู่ที่คุณเลือกเอง เชื่อมั้ยครับ พอแม่เบี้ยออกฉาย ก็มีคนติดต่อให้ผมเล่นบทอีโรติกเยอะมากกกกก แต่ผมปฏิเสธหมดเลย ถามว่าอยากได้สตังค์มั้ย อยากได้ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่แนวผม ผมก็เลยยอมปฏิเสธดีกว่าจะฝืนทำ เพราะผมเชื่อว่าถ้าได้ทำงานที่ใช่ งานมันก็จะออกมาดี”

 

13 ปีที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง กอฟผ่านงานมาแล้วทั้งภาพยนตร์และละคร มีบ้างที่เขากระโดดไปจับไมค์ร้องเพลง จำนวนผลงานที่ฝากไว้อาจไม่ได้มากมายเท่าคนอื่นๆ แต่ทุกผลงานก็ล้วนแต่น่าจดจำทั้งสิ้น นับเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่เขาได้จากวงการอันหอมหวานนี้

“วงการบันเทิงตอนนี้มาไวไปไวครับ เปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปเยอะ ทุกอย่างเป็นอะไรที่ฉาบฉวย ทุกแง่มุมเลยละครับ ไม่ว่าจะการผลิต หรือการแสดง มันค่อนข้างฉาบฉวย ขอให้ดัง ขอให้เป็นข่าว ขอให้หน้าตาดีไว้ก่อน แค่นั้นจริงๆ ถ้าคนในวงการหันกลับมามองที่คุณภาพ ผมว่ามันก็น่าจะเป็นเรื่องดีต่อวงการนะครับ แล้วก็เอาความเป็นไทยนี่แหละมาทำให้มันดูเท่ ไม่ต้องไปทำตามชาติอื่นหรอก นำเอกลักษณ์และเสน่ห์แบบไทยๆ มาทำให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไป มันคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายนะครับ ถ้าเราคนไทยจะทิ้งสิ่งดีๆ ที่ตัวเองมี แล้วไปทำตามคนอื่นและวัฒนธรรมอื่น”

แม้วันนี้จะขออำลาวงการ ทว่า พระเอกวัย 40 ก็ย้ำแบบทีเล่นทีจริง ไม่ลาแล้วลาลับแน่นอน ตราบใดมีงานดีๆ ใช่แนวที่เขาสนใจ ที่สำคัญ ว่างเพียงพอต่อการเทคิวให้ เขาก็พร้อมจะหวนคืนโลกมายาอีกครั้ง แต่ถ้าใครอดรนทนคิดถึงกอฟไม่ไหว ขอแนะนำให้ไปชม 2 ผลงานทิ้งท้ายของเขาได้ เป็นภาพยนตร์ 2 รสชาติ เข้าฉายไปก่อนหน้า “บ้านขังวิญญาณ” สยองขวัญ เขย่าประสาท กำลังจะเข้าฉาย “ไพรดิบ” แอ็กชั่นแฟนตาซีล้ำๆ