posttoday

คุณหมอขอเล่า นพ.อุกฤษฎ์ อุเทนสุต

12 พฤษภาคม 2557

พอว่างเว้นจากการตรวจคนไข้ ก็ได้เวลาแล้วที่ “หมอโป้ง” หรือ “นพ.อุกฤษฎ์ อุเทนสุต” จะหันมาจับปากกาเขียนหนังสือ เป็นความชอบส่วนตัว

โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน &<2288;

พอว่างเว้นจากการตรวจคนไข้ ก็ได้เวลาแล้วที่ “หมอโป้ง” หรือ “นพ.อุกฤษฎ์ อุเทนสุต” จะหันมาจับปากกาเขียนหนังสือ เป็นความชอบส่วนตัว แต่ยังไม่เคยลงมือเขียนจริงจัง เคยแต่เขียนบันทึกประจำวัน ความไม่กล้าก็เป็นหนึ่งเหตุปัจจัย ทำให้ความฝันและความชอบถูกแขวนไว้ แต่ครานี้สบโอกาสอันดี หมอโป้งจึงไม่รอช้าที่จะถ่ายทอดชีวิตตัวเอง เล่าเรื่อง “หมอ” ให้คนที่ “ไม่ใช่หมอ” ได้อ่านกัน จะอ่านเอาความก็ได้ จะอ่านเอาเพลินก็สนุก

“ยามว่างก็สอนหนังสือครับ เป็นอาจารย์พิเศษ ส่วนการเขียนหนังสือนี่ ไม่เคยคิดว่ามันจะมาเป็นรูปเป็นร่างและเป็นเล่มได้ พอออกมาเป็นเล่ม พอใจมากครับ” หมอโป้งเล่าด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม

เล่มแรกในชีวิต “โตขึ้นอยากเป็นหมอแบบไหน (วะ)” เพิ่งวางแผงสดๆ ร้อนๆ ผ่านกระบวนการคิดตรึกตรองของหมอโป้งว่าอะไรควรเล่า อะไรควรนำเสนอ เรื่องไหนควรเก็บเป็นความลับ ทำให้เรื่องราวและเรื่องเล่าในหนังสือคละเคล้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

“อารมณ์ตอนที่ผมเขียนมันคือการบ่น ระบาย และแสดงความคิดเห็น กับเรื่องที่ผมเจอมา บางเรื่องเป็นเรื่องที่เพื่อนๆ มาแชร์ความคิดเห็นกัน การเขียนหนังสือเล่มนี้ ส่วนตัวผมไม่ได้อยากให้คนมองว่าเป็นการแฉ แต่มันคือการแลกเปลี่ยนกันมากกว่าครับ แลกเปลี่ยนในสิ่งที่คนทั่วไปอาจยังไม่รู้ หรือบางครั้งอาจจะรู้แล้ว ก็เป็นการแชร์ประสบการณ์”

ด้วยความที่เป็นคนชอบ “เสียดสีสังคม” สิ่งที่อยู่ในหนังสือจึงค่อนไปทางน้ำเสียงเสียดสี แม้ไม่มากมาย แต่ก็สัมผัสได้จากภาษา ไล่ตั้งแต่ชีวิตการเป็นนักเรียน เรียน เรียน แล้วก็จบออกมาทำงาน ไปเรียนต่อเฉพาะทาง ประสบการณ์แปลกแต่จริงระหว่างคนไข้กับหมอ และอีกสารพัดเรื่องที่ฮา บ้า ป่วน

“ส่วนตัวผมเองคาดหวังลึกๆ ว่าน้องๆ ที่อยากเรียนหมอน่าจะรู้ก่อนว่าอะไร ยังไง ก่อนจะตัดสินใจมาเรียนหมอ ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมก่อนมาเรียนหมอและเป็นหมอ ผมเชื่อนะว่าถ้าน้องๆ ได้เข้าใจความเป็นหมอมากขึ้น และยังคงแน่วแน่ที่จะเรียนหมอ พอน้องๆ เรียนจบ ก็จะจบออกมาเป็นหมอที่ดีแน่นอน”

หมอเป็นอะไรที่ตรงไปตรงมา มีเหตุและผล หมอโป้งบอกอย่างนั้น ในหนังสือเล่มนี้ก็สะท้อนภาพหมอออกมาแบบที่หมอโป้งบอก สิ่งที่หมอโป้งหยิบมาเล่าก็อ่านง่าย ตรงไปตรงมา แต่ดูจริงจังและจริงใจ บางครั้งก็แทรกด้วยมุขขำ ที่อาจจะขำไม่ออกเลย ชวนให้ขบคิด ชวนให้ตระหนักรู้ ถึงชีวิตหมอและคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการหมอว่าไม่ง่าย ไม่สบาย มีเกียรติ หมิ่นเหม่ โหดร้าย และน่าสะพรึงกลัว ก็ไม่ต่างกับชื่อหนังสือที่หมอโป้งสื่อแบบไม่อ้อมค้อม โตขึ้นอยากเป็นหมอแบบไหน แบบที่คุณเลือกเอง หรือแบบที่สังคมเลือกให้ แบบที่ตัวเองรัก หรือแบบที่เงินเป็นตัวกำหนด แบบพอเพียง หรือแบบเพียงแต่ไม่เคยพอ

“คนเรียนเก่งๆ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร คือมักใช้ภาษาที่คนทั่วไปไม่เข้าใจและไม่รู้เรื่อง ชอบใช้ศัพท์เฉพาะยากๆ ใช้ไทยคำอังกฤษคำ พอพูดกับคนไข้ คนไข้ก็จะงง ไม่เข้าใจและไม่รู้เรื่อง อันนี้ก็เป็นปัญหาของหมอครับ ปกติที่อยู่โรงพยาบาล ผมก็ไม่เคยแขวนป้าย ไม่ใส่เสื้อกาวน์ ลงตรวจคนไข้ผมก็จะใส่แค่เสื้อยืด รองเท้าแตะ ถ้าคนไม่รู้จักผม ก็จะไม่รู้แน่ๆ ว่าผมเป็นหมอ ผมว่าหน้าที่ผมคือตรวจคนไข้ ซึ่งคนไข้เองก็คงจะไม่มามัวดูเสื้อผ้าของผม สำหรับผมตรงนั้นมันไม่สำคัญเท่าการทำหน้าที่หมอให้เต็มที่หรอกครับ”

หมอโป้งย้ำด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ชักสนุกกับการเขียนหนังสือ แต่จะมีเล่มสองออกมาหรือไม่ ได้โปรดติดตามตอนต่อไป แต่ที่จะได้อ่านกันชัวร์ๆ คือหนังสือเกี่ยวกับแสตมป์ ที่หมอโป้งทุ่มทั้งแรงกายแรงใจเขียน ด้วยความรู้ที่สั่งสมมาในฐานะนักสะสมแสตมป์หายาก คาดว่าจะเสร็จอีกไม่นานเกินรอ

หมอโป้งจบการศึกษามัธยมปลาย โรงเรียนจิตรลดา รุ่นที่ 24 ก่อนจะตัดสินใจเลือกเรียนคณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

เรียนจบหมอมาก็เริ่มทำงานที่โรงพยาบาลจังหวัดเลย ก่อนจะย้ายเข้ามากรุงเทพฯ และไปเรียนต่อเฉพาะทาง ด้านอายุรกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ด้วยเป็นคนรักเรียน หมอโป้งก็พาตัวเองไปคว้าปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ อีกหนึ่งใบคือหลักสูตรบริหารการแพทย์และสาธารณสุข สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

ปัจจุบันรั้งตำแหน่งหมอชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

คุณหมอขอเล่า นพ.อุกฤษฎ์ อุเทนสุต

 

&<2288;

 

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1