posttoday

ความนิยมในทองสีแดงและทองสีชมพู

07 พฤษภาคม 2557

ทองสีแดง (Red Gold) และทองสีชมพู (Pink Gold) คือ ทองกะรัต (K) ที่มีส่วนผสมของทองคำและทองแดงเป็นหลัก

โดย...สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ทองสีแดง (Red Gold) และทองสีชมพู (Pink Gold) คือ ทองกะรัต (K) ที่มีส่วนผสมของทองคำและทองแดงเป็นหลัก จะมีปริมาณเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับค่ากะรัต (ค่าความบริสุทธิ์) ของทองคำ อย่างเช่น ถ้าทอง 910K ก็จะมีปริมาณทองแดงสูงมากถึง 3545% ขึ้นอยู่กับตัวโลหะผสมที่ใช้ และสูตรส่วนผสมของแต่ละผู้ผลิต

ในปัจจุบันทองสีแดง (Red Gold) และทองสีชมพู (Pink Gold) เป็นที่นิยมมากเพราะมีความสวยงามมีสีสันที่สด สวมใส่แล้วดูแตกต่างไปจากทองคำรูปแบบเดิม ทั้งยังมีความแข็งมากกว่า จึงนิยมนำมาทำตัวเรือนเครื่องประดับ

ค่าความบริสุทธิ์ที่นิยมใช้ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 14K18K ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศไทยได้มีการผลิตทองที่มีลักษณะเป็น Red Gold และ Pink Gold มานานแล้ว โดยเรียกกันว่า “นาค” นั่นเอง ซึ่งเครื่องประดับนาคบ้านเราจะมีเปอร์เซ็นต์ของทองคำอยู่ที่ 4060% และลักษณะของสีจะไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับการเติมโลหะผสม (อัลลอย) ของแต่ละผู้ผลิต

อย่างไรก็ตาม ราคาขายของนาคจะไม่ได้ราคาเหมือนทองรูปพรรณ จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนัก อีกทั้งรูปแบบลวดลายไม่ทันสมัย แตกต่างกับปัจจุบันแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย เช่น คาร์เทียร์ บูลการี ได้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สวยงามทันสมัย มีการใช้ทองคำผสมกับอัลลอยเพื่อให้ได้ Red Gold และ Pink Gold ที่มีสีสันสะดุดตา เช่น มีการทำแหวนที่มี 3 สี (สามกษัตริย์) หรือแหวนแต่งงานที่เป็น Pink Gold ทำให้ Red Gold และ Pink Gold เป็นที่นิยมมากขึ้น

สำหรับราคาของ Red Gold และ Pink Gold นั้นจะขึ้นกับค่าความบริสุทธิ์ของทองคำและราคาทองคำในขณะนั้น เช่น Pink Gold 18K ซึ่งหมายความว่า มีส่วนผสมของทองคำ 75% ราคาก็จะสูงกว่า Pink Gold 14K ซึ่งมีส่วนผสมของทองคำเพียง 58% นอกจากนั้น ยังขึ้นอยู่กับการออกแบบ แบรนด์ และความนิยมของตลาดด้วย

Red Gold จะต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากมีค่าเปอร์เซ็นทองคำต่ำ ทำให้เกิดสนิมของทองแดงได้ง่าย เมื่อสวมใส่แล้วควรทำความสะอาดคราบเหงื่อทุกครั้ง ถ้าทิ้งไว้จะทำให้ Red Gold หมองได้ ส่วน Pink Gold ก็ต้องดูแลรักษาเช่นเดียวกัน แต่อาจหมองได้ช้ากว่าเพราะมีส่วนผสมของทองแดงอยู่น้อยกว่านั่นเอง

การทำความสะอาดให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดจิวเวลรีทั่วไป โดยให้ใส่ถุงมือแล้วใช้ผ้าซับน้ำหรือวัสดุอ่อนนุ่มชุบน้ำยาและเช็ดทำความสะอาด และเก็บใส่ถุงซิป หากใช้ไปนานๆ ผิวของ Red Gold และ Pink Gold อาจจะไม่เงางามเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ ก็สามารถนำไปขัดชุบเงาก็จะสวยงามเหมือนเดิม

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายตรวจสอบโลหะมีค่า สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทร. 02-634-4999 ต่อ 421-425

ข่าวล่าสุด

แข้งไทยช็อก! นำ 2 ตุง กลับพลิกแพ้ เวียดนาม 2-3 แค่รองแชมป์ซีเกมส์