เมนูพิเศษ...ฉลองเทศกาลวันเด็กผู้ชายญี่ปุ่น

โดย...สาโรจน์ มีวงษ์สม / ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

ในทุกวันที่ 5 เดือน พ.ค.ของทุกปี ทางญี่ปุ่นจะจัดให้เป็นวันเด็กแห่งชาติ หรือ “โคโดโมะโนะฮิ” ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเทศกาลนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยนารา ช่วง ค.ศ. 710-784 ซึ่งจักรพรรดิญี่ปุ่นได้จัดงาน “พิธีฉลองรับขวัญเด็กผู้ชาย” เรียกกันว่า “ทังโกโนะเซคคุ” หรือวันเด็กผู้ชายในบริเวณราชวัง ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้เด็กชายนั้นมีสุขภาพแข็งแรง และเจริญเติบโตทั้งสุขภาพและหน้าที่การงานยิ่งๆ ขึ้นไป ตั้งแต่นั้นจึงถือเป็นงานประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาทุกปี

ในวันนั้นครอบครัวที่มีบุตรชายจะประดับโต๊ะตุ๊กตาใส่ชุดนักรบหรือชุดซามูไร และจะตั้งเสาธงปลาคาร์ปไว้ภายในบริเวณบ้าน โดยปลาที่ติดอยู่บนเสาเหมือนแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้าจะมีอย่างน้อย 3 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีชื่อเรียกและความหมายที่แตกต่างกัน ปลาคาร์ปตัวแรก “มาโกอิ” เป็นปลาคาร์ปสีดำ หมายถึง พ่อ “ฮิโกอิ” ปลาคาร์ปสีแดง หมายถึง แม่ และปลาคาร์ปตัวเล็ก “ฟูคินากาชิ” ซึ่งหมายถึงกระแสน้ำ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือตัวแทนของเด็กผู้ชายนั่นเอง

 

สาเหตุที่ชาวญี่ปุ่นเลือกใช้ธงรูปปลาคาร์ปเป็นสัญลักษณ์ในเทศกาลวันเด็กนั้น เนื่องจากถือเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรง และยึดมั่นจุดหมายเดียวอย่างไม่ย่อท้อ เห็นได้จากที่มีความพยายามในการมีชีวิตอยู่ และสามารถว่ายน้ำทวนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้อย่างเชี่ยวชาญ จึงอยากให้ลูกชายเป็นเสมือนดั่งปลาคาร์ป

นอกจากนี้ หญิงสาวชาวญี่ปุ่นจะนิยมสวมชุดกิโมโนที่ตกแต่งลวดลายไว้อย่างสวยงาม เช่น ลายดอกไม้ ฯลฯ โดยเน้นสีพื้นของตัวชุดเป็นสีดำ ส่วนผู้ชายจะนิยมใส่ชุดสูทสีดำ และร่วมเฉลิมฉลองกับมื้ออาหารที่พิเศษสุดด้วยกันกับเด็กๆ อย่างสนุกสนาน นับเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาเป็นพันๆ ปีแล้ว

ห้องอาหารยามาซาโตะ โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ร่วมฉลองเทศกาลวันเด็กผู้ชาย หรือเทศกาลโคโดโมะโนะฮิ ด้วยการประดับธงรูปปลาคาร์ปที่เสาธงหน้าโรงแรม และประดับโต๊ะตุ๊กตาใส่ชุดนักรบ หรือชุดซามูไรไว้บริเวณหน้าห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ

 

อีกทั้งเชฟชิเงรุ ฮางิวาระ หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารยามาซาโตะ ก็ยังได้รังสรรค์เมนูอาหารชุดพิเศษสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้ร่วมเฉลิมฉลองอย่างพร้อมหน้า และถือเป็นการร่วมสืบสานเทศกาลวันเด็กผู้ชายของประเทศญี่ปุ่น

เมนูที่รังสรรค์นอกจากจะเอาใจเด็กๆ ยังจัดเซตสตาร์เตอร์และเมนคอร์สอย่างจุใจ โดยชุดของเด็กจะประกอบด้วยของกินหลายอย่าง ที่ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศของญี่ปุ่นล้วนๆ เริ่มตั้งแต่ซุปข้าวโพดที่ใส่ข้าวตังให้กลิ่นหอมนุ่ม ตามมาด้วยข้าวหน้าปลาดิบที่หั่นแบบลูกเต๋า ประกอบไปด้วย ปลาทูน่า แซลมอน กุ้ง ไข่หวานปรุงรส ฮามาจิ ไข่ปลาแซลมอน ออกรสชาติเปรี้ยวหวาน ข้าวซูชิที่ใส่น้ำส้มสายชูหวานนุ่ม

ใกล้กันนั้นเป็นชุดผักต้ม แครอต ฟักทอง เผือก เต้าหู้ญี่ปุ่น ถั่วลันเตา ต่อด้วย ปลาแซลมอน ปลาฮามาจิ และปลากะพงย่างซีอิ๊วญี่ปุ่น มาพร้อมกับเอบิฟูรายกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด และทามาโงะยากิหรือไข่หวานญี่ปุ่น

ตามมาด้วย เอบิชูมัย หรือขนมจีบกุ้งกับหมูผสมกัน และโทริซึกุเนะ ลูกชิ้นไก่นำไปต้มกับสาเกหวานเพิ่มรสชาติด้วยโชยุ ตบท้ายเอาใจเด็กด้วยของหวาน คาชิวะโมจิ โมจิไส้ถั่วแดงห่อด้วยใบคาชิวะ

เอาใจเด็กกันไปแล้ว ถึงคราวของผู้ใหญ่เซตใหญ่ที่จัดมาเอาใจร่วมเทศกาลกันบ้าง เป็นเซตเมนูสตาร์เตอร์ เริ่มต้นด้วยซุปใส ที่มีเส้นโซบะทำมาจากปลาบดแล้วใส่เห็ดชิเมจิ แตงกวา แครอต และเปลือกส้ม ปรุงรสพิเศษ

 

ต่อกันด้วย เซซามิโตฟุ เต้าหู้ที่ทำมาจากงาและรากบัว นุ่มลิ้น ปรุงรสด้วยวาซาบิ และกระเจี๊ยบญี่ปุ่น โรยหน้าด้วยเก๋ากี้ ช่วยบำรุงสายตา ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ

จานต่อมา มากูโระ คัตซึโอะ ปลาโอญี่ปุ่นนำไปเซียที่กระทะ กินแกมกับหัวไช้เท้าฝอย ใบโอบะ ต้นหอมญี่ปุ่นซอย ขิงบด เพิ่มรสชาติด้วยวาซาบิ

ต่อกันด้วยเซตเมนคอร์ส เริ่มต้นความอร่อยด้วย มิโซะซุป ที่ใส่สาหร่ายวากาเมะ และเต้าหู้ทอด และหนักท้องขึ้นมาอีกนิดกับนิบูตะ เนื้อหมูสามชั้น สไตล์ยามาซาโตะ นำไปตุ๋นด้วยต้นหอมญี่ปุ่นกินกับข้าวข้าวญี่ปุ่น

จานต่อมา นิโมโนะ ของต้มที่ประกอบด้วย มะเขือยาว มันฝรั่ง แครอต ฟองเต้าหู้ กุ้งซากุระ และผักฟุกิโระที่มีเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ รสชาติจะนุ่มๆ เพิ่มรสชาติด้วยซอสกุ้งซากุระ และเมนูที่คุ้นเคยเทมปุระ ที่มีทั้งกุ้ง ใบโอบะ มะเขือยาว หน่อไม้ฝรั่ง ปลาฮิเมจิ และก็เห็ดชิตาเกะ ทอดนุ่มมากำลังดี

 

จานเด็ดประจำฤดูกาล ต้อง ยากิโมโน กินดาระ ปลากินดาระราดซอสฟุกิมิโซะ ซึ่งปลากินดาระจะมีชุกเฉพาะแค่ฤดูนี้เท่านั้น เพิ่มความอร่อยด้วยรากบัว และใบพริกญี่ปุ่นเป็นการเพิ่มรสชาติ แกมด้วยทาซึนามิ คือ ถั่วและผักดอง

ก่อนตบท้ายด้วยของหวาน ฮาจิวะโมจิ ที่มีทามาโงะพุดดิ้งผสมในน้ำผึ้งเดือนห้า เพิ่มความคล่องคอด้วยชาเขียวร้อน เป็นอันจบเซตที่อิ่มหนำสำราญ

นอกจากนี้ยังมีเมนู “ไคเซกิ” ที่ประกอบด้วยอาหารญี่ปุ่นรสชาติดั้งเดิมอันวิจิตร ที่เชฟล้วนคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และปรุงอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เราได้ร่วมเฉลิมฉลองกับเทศกาลวันเด็กผู้ชายของญี่ปุ่นได้อย่างน่าประทับใจเชียวล่ะครับ

ร่วมฉลองเมนูพิเศษในวันเทศกาลเด็กญี่ปุ่นได้ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.5 พ.ค. 2557 ณ ห้องอาหารยามาซาโตะ ชั้น 24 โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. และมื้อค่ำตั้งแต่เวลา 18.00-22.30 น. โทร. 02-687-9000