ก้าวอย่างช้าๆ แต่มั่นคง อาภา ภาวิไล

โดย...ภาดนุ ภาพ : จิรวุฒิ บุญเสริมส่ง

สาวสวยผู้มีสายเลือดนักแสดงเต็มตัว ซึ่งถูกถ่ายทอดมาจากคุณพ่อ (อรุณ ภาวิไล) คนนี้ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตเมื่อสองปีก่อน จากนั้นก็มีผลงานละครต่างๆ และภาพยนตร์ต่อเนื่อง ล่าสุดเธอมาพร้อมกับภาพยนตร์รักโรแมนติกฮาผวา “เธอ เขา เรา ผี” ที่กำลังจะเข้าฉายกลางเดือน มี.ค.นี้ “ภาพยนตร์เรื่อง ‘เธอ เขา เรา ผี’ แม็กกี้รับบทเป็น ‘ส้ม’ ค่ะ เป็นช่างแต่งหน้าประจำกองถ่าย ที่แอบคบอยู่กับ ‘หรั่ง’ (นิวชัยพล จูเลียน พูพาร์ต) ซึ่งเป็นเด็กทีมอาร์ตของกองถ่ายเช่นกัน ส้มเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยขี้หึง รักแฟนมาก เป็นคนที่ขาดความอบอุ่นเพราะโตมาโดยไม่มีพ่อแม่ พอมีหรั่งเป็นแฟนจึงขี้หึงขี้หวงเข้าไปใหญ่ แล้วหรั่งก็ดันเป็นคนเฟรนด์ลีมาก ชอบทำให้ทุกคนรอบข้างมีความสุข แต่จะละเลยแฟนของตัวเอง ส้มก็เลยรู้สึกน้อยใจจนทำให้คิดอยากจะเลิกคบกันจริงๆ และยิ่งได้มารู้จักกับ ‘เปิ้ล’ (แม็คสตีเวน ฟูเรอร์) หนุ่มข้างห้องที่เข้ามาคอยเทกแคร์ดูแลและอยู่ด้วยกันตลอด ส้มก็ยิ่งหวั่นไหว โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเปิ้ลเป็นผี สุดท้ายเรื่องราวจะลงเอยยังไง ก็ฝากให้ไปติดตามกันด้วยค่ะ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ให้แง่คิดเกี่ยวกับความรักไว้มากมาย กำกับโดย พี่กอล์ฟธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับมือดีอีกคนของวงการบันเทิงค่ะ”

แม็กกี้นับเป็นดาราสาวที่มีผลงานต่อเนื่องตลอดในช่วงสองปีที่เธอก้าวเข้ามาเป็นนักแสดง เมื่อถามย้อนไปถึงผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา สาวสวยไล่เรียงให้ฟังว่า ผลงานชิ้นแรกของเธอคือภาพยนตร์เรื่อง “คนโลกจิต” ตามด้วย “สูบคู่กู้โลก” “Until Now กาลครั้งหนึ่งจนวันนี้” ล่าสุดก็ “เธอ เขา เรา ผี” และ “ปอบหน้าปลวก” ซึ่งน่าจะเข้าฉายราวๆ ปลายปีนี้

ด้านงานละครที่ผ่านมา สาวสวย บอกว่า “มี ซิตคอม ‘ฉก.น้ำหวาน อันธพาลหลบไป’ ‘เลือดเจ้าพระยา’ และ ‘แม่ค้า’ (ทางช่อง 7 สี ที่เรตติ้งดีมากๆ) เร็วๆ นี้ก็จะมีละคร ‘รักคุณเท่าช้าง’ ให้ได้ชมกัน ซึ่งละครเรื่องนี้จะรับบทในแนวแก่นๆ ทโมนๆ เตะต่อย ยิงธนู อยู่ในป่า ถือได้ว่าเป็นละครอารมณ์ดีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ”

ศาสตร์และศิลป์ของการแสดงภาพยนตร์และละครนั้นดูเหมือนคล้าย แต่โดยเนื้องานแล้วจะมีความยากง่ายแตกต่างกันในรายละเอียดอยู่บ้าง เพราะเธอบอกว่างานภาพยนตร์จะเน้นในเรื่องของความรู้สึก (Feeling) เพราะฟีลลิ่งของภาพยนตร์มันค่อนข้างจริงหมดทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือต้องจำอารมณ์ของตัวละครตัวนั้นไว้ให้ได้ เพราะอารมณ์ของภาพยนตร์จะต้องต่อเนื่อง (Continue) และยังมีมุมกล้องของภาพกว้าง ภาพแคบ เพิ่มเติมเข้ามาด้วย

 

“งานละครแม็กกี้ว่ามันยากกว่าภาพยนตร์นะคะ เพราะมันจะเป็นจอเล็กไง ดังนั้นมันจึงต้องเล่นให้ใหญ่ เพราะมีเรื่องของบล็อกกิ้ง เรื่องของน้ำเสียงและอารมณ์ เราจึงต้องเล่นให้ใหญ่ขึ้นค่ะ แต่ก็ไม่ต้องถึงกับเล่นให้โอเว่อร์มากเกินไป พูดง่ายๆ ว่าต้องสมาธิดีจริงๆ ค่ะ ถ้าถามว่าชอบละครหรือภาพยนตร์มากกว่า ขอตอบว่าชอบทั้งสองอย่าง ซึ่งภาพยนตร์จะให้ภาพที่สวยงาม ส่วนละครก็จะมีบล็อกกิ้งเข้ามา ซึ่งช่วยให้มีสีสัน ทำให้คนดูสนุกสนานเพลิดเพลินและติดตามชมกันมากขึ้นค่ะ”

มีคำกล่าวไว้ว่า “ประสบการณ์สอนเรา” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคำกล่าวที่สามารถหยิบไปใช้ได้ในชีวิตจริงของหลายคน ซึ่งตัวเธอเองก็เช่นกัน เพราะตอนที่ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง แม็กกี้อายุแค่ 18 ปีเท่านั้น

“ภาพยนตร์เรื่องแรกที่แม็กกี้ได้เล่นก็คือเรื่อง ‘คนโลกจิต’ พอได้เข้าวงการบันเทิงมาก็เจองานยากๆ หินๆ เลยค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรับบทเป็นคนรุนแรงที่ซ่อนอารมณ์โรคจิตไว้ในตัว ซึ่งแม็กกี้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ยากมากๆ ค่ะ เพราะอารมณ์ของตัวละครมันมีหลายมิติหลากอารมณ์ คือ อารมณ์มันต้องเปลี่ยนแบบฉับพลับ เมื่อกี้ทำดีกับคนนี้ อีกสักพักก็ไปทำอีกอย่างกับคนนั้น อะไรแบบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นงานที่หินมากกกกก”

จากนั้นแม็กกี้ก็มีโอกาสได้ทำงานละครเวทีเรื่อง “หนึ่งในดวงใจ” ซึ่งเรื่องยากก็คือต้องฝึกร้องเพลงสุนทราภรณ์ด้วย เธอเล่าแบบขำๆ ว่าร้องเพลงก็ไม่เป็น แต่ก็ต้องฝึกร้องเพลงกันตรงนั้นเลย ทุกอย่างต้องย้อนยุคหมด ทั้งเนื้อเพลง ทั้งท่าทาง ทั้งน้ำเสียง พูดง่ายๆ ว่าละครเวทีมันต้องเล่นใหญ่ ต้องเล่นให้สุด หลังจากที่ได้เจองานยากๆ อย่างละครเวทีมาแล้ว พอมาถึงงานภาพยนตร์กับงานละครก็เลยทำได้โดยอัตโนมัติ เธอพูดพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า ต้องขอบคุณเรื่องยากๆ ที่ทำให้เธอผ่านมันมาได้

เป็นธรรมดาที่ว่าใครได้ก้าวเข้ามาเป็นนักแสดงหรือศิลปินก็ต้องอยากโด่งดังเป็นซุป’ตาร์กันแทบทั้งนั้น แล้วสำหรับดาราสาวรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างแม็กกี้กล่าวว่า ยังไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะก้าวไปถึงขั้นไหน คิดแค่ว่าต้องทำขั้นตอนนี้ให้ผ่านไปได้ด้วยดีก่อน ทำไปเรื่อยๆ ก้าวไปอย่างช้าๆ แต่ก้าวอย่างมั่นคง

 

“พอเราประสบความสำเร็จจากงานหินๆ อย่างละครเวที ทำงานออกมาได้ดี มีคนชมเราในเรื่องระเบียบวินัยในการทำงาน แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไประดับหนึ่งแล้วค่ะ เราก็ทำให้ดีในทุกงานที่ได้ทำ พองานแรกสำเร็จแล้ว งานต่อไปก็ทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก มีคำติชมอะไรเข้ามา ก็เก็บเอาไปพัฒนาตัวเองในงานชิ้นต่อไป แม็กกี้ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะดังเปรี้ยงปร้างนะ จะคิดแค่ว่าถ้ามีใครจ้างเรา เราก็ทำให้ดีที่สุดเท่านั้นพอค่ะ ให้เขารู้สึกว่าเขาเลือกคนไม่ผิด”

การเป็นนักแสดงที่มีทั้งงานละครและภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เวลาที่จะดูแลตัวเองน้อยลงไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับสาวรักสุขภาพอย่างเธอ เพราะถ้ามีเวลาว่างจริงๆ เธอจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหม เพราะเชื่อว่าองค์ประกอบของสุขภาพที่ดีนั้นจะต้องกินดี คือต้องกินผัก กินผลไม้เยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆ ซึ่งจะช่วยให้ขับถ่ายได้ดีในแต่ละวัน แล้วยังช่วยในเรื่องของผิวพรรณและช่วยลดความตึงเครียดให้ร่างกายไปพร้อมกันด้วย

“ก่อนถ่ายละครแม็กกี้จะวอร์มอัพร่างกายโดยการสะบัดแขนสะบัดขาให้เซลล์ในร่างกายตื่นตัว ให้เลือดสูบฉีดก่อน รวมทั้งการฉีกยิ้ม อ้าปาก หุบปาก ก่อนจะเข้าฉากถ่ายละครจริงๆ แล้วพอเสร็จงานกลับถึงบ้านก็จะนอนราบเพื่อผ่อนคลายและกำหนดจิตอยู่กับลมหายใจ แค่นี้ก็ช่วยปลดปล่อยความเครียดจากบทบาทการแสดงที่ได้รับในแต่ละวันได้แล้วละค่ะ”

ขอบคุณ เสื้อผ้า ร้านคุณผิง (หลังการบินไทย) โทร.0909719653/สถานที่ ร้าน Love to Eat ชั้น 5 สยามพารากอน