posttoday

‘86 ปี ออสการ์’ เกียรติยศบนพรมแดงภาพยนตร์โลก

02 มีนาคม 2557

หลายคนกําลังใจจดใจจ่อกับการรอลุ้นผลรางวัลในงานประกาศรางวัล The Academy Awards

โดย...ป้าเบ็ตตี้ บูพ

หลายคนกําลังใจจดใจจ่อกับการรอลุ้นผลรางวัลในงานประกาศรางวัล The Academy Awards ครั้งที่ 86 หรือรางวัลออสการ์ประจำปี 2014 งานรางวัลทางภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ โดยรูปปั้นรางวัลออสการ์มีชื่ออย่างเป็นทางการ ว่า “Academy Award of Merit” มีลักษณะตัวรางวัลเป็นรูปอัศวิน Crusade ถือดาบเอาปลายแหลมลงดิน ยืนอยู่บนล้อฟิล์ม 5 แฉก ซึ่งแต่ละแฉกแทนตัวแทนสมาชิก 5 สาขาหลัก คือ นักแสดง เขียนบท กำกับการแสดง อำนวยการสร้าง และด้านเทคนิคออสการ์ ขนาดตัวมาตรฐานสูง 13 นิ้วครึ่ง หนัก 8 ปอนด์ครึ่ง

แต่ก่อนที่งานรวมดาวดาราฮอลลีวู้ดสุดหรูจะเริ่มขึ้นในวันที่ 2 มี.ค. 2014 (ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐ) ณ ดอลบี เธียเตอร์ ฮอลลีวู้ด เราลองมาย้อนรอยดูประวัติรวมถึงไฮไลต์ประจํางานออสการ์ในช่วง 85 ปีที่ผ่านมา กันเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง

ปี 1929–1930 พิธีมอบรางวัล The Academy Awards หรือรางวัลออสการ์ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 1929 ที่โรงแรมฮอลลีวู้ด รูสเวลท์ (Hollywood Roosevelt) ในแบบงานเลี้ยงอาหารค่ำเล็กๆ ที่โรงแรมรูสเวลท์ ในฮอลลีวู้ด บัตรเข้าชมราคา 5 เหรียญสหรัฐ มีผู้ร่วมงานไม่ถึง 250 คน และการจัดงานครั้งที่ 2 ในปี 1930 เปลี่ยนมาจัดที่โรงแรมแอมบาสเดอร์และโรงแรมบัลติมอร์ (Biltmore) พร้อมทั้งได้เริ่มมีการกระจายเสียงสดพิธีมอบรางวัลผ่านทางวิทยุ

ปี 1939–1940 วอลท์ ดิสนีย์ ได้รับรางวัลออสการ์เกียรติยศสำหรับภาพยนตร์เรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ในปี 1939 โดยเขาได้รับตุ๊กตาออสการ์ขนาดปกติ 1 ตัวพร้อมกับออสการ์จิ๋วอีก 7 ตัวด้วยกัน และในปี 1940 ธรรมเนียมปฏิบัติในการประกาศผลรางวัลสู่สาธารณชน จะทำโดยนำผลการตัดสินให้กับหนังสือพิมพ์ในเวลา 23.00 น. ของคืนวันงาน แต่หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทมส์ แอบทราบผลการตัดสิน และได้นำไปตีพิมพ์สู่สาธารณชนก่อนพิธีประกาศรางวัลจะเริ่มขึ้นนับแต่นั้นมา ผลการตัดสินจึงอยู่ในซองจดหมายที่ปิดผนึก เพื่อนำไปประกาศบนเวทีอันทรงเกียรติจนถึงปัจจุบัน

‘86 ปี ออสการ์’ เกียรติยศบนพรมแดงภาพยนตร์โลก

 

ปี 1953–1961 งานประกาศรางวัลออสการ์ได้เปลี่ยนจากการกระจายเสียงสดทางวิทยุมาเป็นการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ขาวดำ ซึ่งมีผู้ชมหลายล้านคนในสหรัฐและแคนาดาให้ความสนใจอย่างมาก และในปี 1961 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแจกรางวัลออสการ์ ที่สาขาผู้กำกับมีผู้ชนะ 2 คน ซึ่งเขาช่วยกันกำกับเรื่องเดียวกัน คือ เจอโรม ร็อบบินส์ และ โรเบิร์ต ไวซ์ จากการกำกับหนังเพลงเรื่องดัง West Side Story เป็นหนังเพลงที่ได้ออสการ์มากที่สุดถึง 10 ตัว

ปี 1966–1970 ได้เปลี่ยนแพร่ภาพงานประกาศรางวัลออสการ์ทางโทรทัศน์ขาวดำมาเป็นโทรทัศน์สีเป็นครั้งแรก ในปี 1966 และได้มีการออกอากาศไปทั่วโลก ทำให้งานประกาศผลรางวัลออสการ์เป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน

ปี 19711972 มีคนปฏิเสธรางวัลออสการ์ด้วยกันถึง 3 คน คนแรก คือ จอร์จ ซี สกอตต์ ได้รับรางวัลในปี 1971 จากบทบาทของนายพลแพตตัน เขาปฏิเสธไม่รับรางวัลดังกล่าว โดยบอกว่าการเมืองที่เกี่ยวพันกับออสการ์นั้นโหดร้าย คนที่สอง คือ มาร์ลอน แบรนโด ได้รับออสการ์ในปี 1972 จาก The Godfather เขาปฏิเสธรางวัลเพราะเขาคิดว่าฮอลลีวู้ดนั้นสร้างภาพที่ไม่ดีนักให้กับเหล่าอเมริกันพื้นเมือง (อินเดียนแดง) และคนที่สาม คือ ดัดลีย์ นิโคลส์ นักเขียนบท เนื่องจากช่วงนั้นสมาคมนักเขียนบทกำลังประท้วงกับสตูดิโอภาพยนตร์กันอยู่

ปี 1978 จัสติน เฮนรี่ย์ หนูน้อยผู้น่ารักน่าชัง ได้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลสมทบชาย ตอนอายุ 8 ขวบ จากภาพยนตร์ Kramer VS Kramer โดยเป็นผู้เข้าชิงเด็กที่สุด แต่ผู้ชนะในปีนั้นตกเป็นของ ทาทัม โอนีล สาวน้อยได้รับรางวัลสมทบหญิงตอนอายุ 10 ขวบ จาก Paper Moon

ปี 1989 แฟนๆ ชาวไทยเริ่มได้การถ่ายทอดสดงานประกาศผลรางวัลออสการ์ โดยทางทรูวิชั่นส์ ได้พากย์ไทย ตั้งแต่ช่วงพรมแดงไปจนจบการประกาศผลรางวัล รวมทั้งยังมีการรีรันให้สมาชิกทรูวิชั่นส์ได้รับชมกันอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางคืนอีกด้วย

ปี 2000 ตุ๊กตาออสการ์จำนวน 55 ตัว ถูกขโมยไประหว่างทาง ต่อมาออสการ์จำนวน 52 ตัว ถูกพบอยู่ข้างถังขยะ อีกหนึ่งตัวถูกพบหลายปีต่อมาที่แหล่งค้ายาเสพติด แต่อีก 2 ตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดย วิลลี ฟูลเกียร์ ผู้พบตุ๊กตาออสการ์และนำกลับมาคืนได้รับเงินรางวัล 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ พร้อมกับตั๋ว 2 ใบ ไปงานออสการ์ แต่น่าเสียดายที่เขาถูกโจรขโมยเงินรางวัลส่วนใหญ่ไปเกือบหมด

ปี 2001 เป็นปีแรกที่ดารานำชายและหญิงเป็นคนผิวสีทั้งคู่ ฝ่ายชาย คือ เดนเซล วอชิงตัน จาก Training Day (ได้เป็นตัวที่ 2 หลังจากเคยได้สมทบชายจาก Glory ในปี 1989) ฝ่ายหญิงคือ ฮัลลี่ เบอร์รี่ จาก Monster’s Ball ค่ำคืนนั้นจึงได้ถูกจารึกว่าเป็นค่ำคืนของคนผิวสี

ปี 2012 สถานที่จัดงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 84 เปลี่ยนชื่อจาก “โกดัก เธียเตอร์” มาเป็น “เธียเตอร์ฮอลลีวู้ด แอนด์ ไฮแลนด์ เซ็นเตอร์” แทน เพราะบริษัท โกดักซึ่งเป็นสปอนเซอร์ต้องเข้าสู่การล้มละลาย แต่ยังได้รับการตอบรับจากแฟนหนังและกองทัพสื่อมวลชนเข้ามาร่วมเกาะติดรายงานผลประกาศกันอย่างเนืองแน่นเหมือนเช่นเคย

ปี 2013 เป็นปีแรกที่พิธีประกาศรางวัลออสการ์ มีการครีเอทีฟ “ธีม” การจัดงานขึ้น ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองภาพยนตร์เพลง โดยมีนักแสดงชั้นนำมากมายร่วมแสดงสดบนเวที รวมถึงนักแสดงนำจาก Les Miserables ด้วย

ปี 2014 งานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 86 จะจัดขึ้นในวันที่ 2 มี.ค. 2014 (ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐ) ณ ฮอลลีวู้ด แอนด์ ไฮแลนด์ เซ็นเตอร์ โดยภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากที่สุดก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดไว้ นั่นคือ Gravity และ American Hustle โดยได้เข้าชิงรางวัลมากที่สุดถึง 10 สาขาเลยทีเดียวเชียว ตามด้วย 12 Years A Slave ที่เข้าชิง 9 สาขา ซึ่งภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลใหญ่สุดในภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ 12 Years A Slave, American Hustle, Captain Phillips, Dallas Buyers Club, Gravity, Her, Nebraska, Philomena และ The Wolf of Wall Street

ส่วนพระเอกที่มีลุ้นรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ Chiwetel Ejiofor จาก 12 years a Slave, คริสเตียน เบล จาก American Hustle, บรูซ เดิร์น จาก Nebraska, แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ จาก Dallas Buyers Club ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ จาก The Wolf of Wall Street ซึ่งทั้งแมทธิวและลีโอนาโดเพิ่งคว้ารางวัลบนเวทีลูกโลกทองคำมาหมาดๆ

ขณะที่รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ก็มีผู้เข้าชิงอย่าง เอมี่ อดัมส์ จาก American Hustle ซานดร้า บูลล็อก จาก Gravity จูดี้ เดนช์ จาก Philomena เมอรีล สตรีป จาก August Osage County และ เคต บลังเชตต์ จาก Blue Jasmine

มาถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้แก่ เดวิด โอ. รัสเซลล์ จาก American Hustle, อัลฟองโซ กัวรอง จาก Gravity, อเลกซ์ซานเดอร์ เพนน์ จาก Nebraska, สตีฟ แม็คควีน จาก 12 Years A Slave และ มาร์ติน สกอร์เซซี จาก The Wolf of Wall street

พิธีกร เอเลน ดีเจเนอเรส รับหน้าที่เป็นพิธีกร นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติ หลังจากที่เธอได้ขึ้นเวทีเป็นพิธีกรออสการ์ครั้งแรกเมื่อปี 2007 พรมแดงปีนี้ สมาชิกทรูวิชั่นส์ร่วมติดตามชมการประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 86 กันแบบสดๆ ได้ในเช้าวันจันทร์ที่ 3 มี.ค.นี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 05.00-07.00 น. ช่วงเดินพรมแดง เวลา 08.30-12.00 น. จะได้เห็นเหล่าดาราฮอลลีวู้ดมาใน “ธีม” ของเหล่าฮีโร่ ทั้งฮีโร่ที่มีตัวตนจริงๆ ซูเปอร์ฮีโร่ และฮีโร่ยอดนิยม นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรียกว่าออสการ์ปีนี้น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"