posttoday

บันทึกผู้ชายหุ่นดี จอห์น & วู้ดดี้

01 กุมภาพันธ์ 2557

หากคุณคิดว่าดาราคนดังที่เห็นรูปกายภายนอกนั้นหล่อ ดูดี น่าหลงใหล ในชีวิตนี้เขาคงไม่เคยอ้วนเลยเป็นแน่

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

หากคุณคิดว่าดาราคนดังที่เห็นรูปกายภายนอกนั้นหล่อ ดูดี น่าหลงใหล ในชีวิตนี้เขาคงไม่เคยอ้วนเลยเป็นแน่ ขอให้เปลี่ยนความคิดนี้เสียใหม่ ไม่ว่าคนที่เราเห็นแค่รูปกายจะหล่อ จะดัง จะเป็นซูเปอร์สตาร์มากแค่ไหน เขาก็เคยเป็นคนธรรมดา ที่อาจผอมแห้ง หรืออ้วนเผละมาก่อนทั้งนั้น ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่เขาหล่อ หุ่นดี ดูดี และดูเฟิร์ม ล้วนต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมิใช่น้อย

พูดพล่ามทำเพลงอยู่ได้ เอาเป็นว่า ฮอตแอนด์คูลประจำวันนี้ เรามาเติมความร้อนและความเย็นให้กับชีวิตด้วยสองหนุ่มที่จากเคยอ้วนสู่การเป็นหนุ่มหล่อฟิตแอนด์เฟิร์ม แถมยังใจดี บอกเคล็ดลับผ่านสื่อหนังสือและปฏิทิน ว่าแต่ใครบอกต่อผ่านหนังสือ ใครบอกต่อผ่านปฏิทินปีใหม่ ลุย!

ร้อนแรงกำลังดี กับวู้ดดี้ ผู้ชายเกิดมาคุย

“ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ผมเป็นคนน้ำหนักเยอะ ตัวหนา เลยไม่มีความมั่นใจ เวลาไปไหน ญาติพี่น้องก็ทักว่าอ้วน พอเข้าวงการเป็นดีเจ น้ำหนักค่อยๆ ขึ้น ก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอได้ออกจอ น้ำหนักขึ้นมาถึง 80 กว่ากิโล ยิ่งดูบวมเข้าไปใหญ่ เลยมีคนทักว่าควรลดเถอะ”

บันทึกผู้ชายหุ่นดี จอห์น & วู้ดดี้

 

นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ “วู้ดดี้วุฒิธร มิลินทจินดา” ได้ตระหนักรู้ว่า เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา มันยิ่งกลายเป็นปัญหาในการทำงาน

“ช่วงที่ทำรายการตื่นมาคุย มีคนคอมเมนต์ว่าเราน้ำหนักเยอะ นั่นยิ่งเป็นแรงฮึดให้ผมลดน้ำหนักลงให้ได้ จะได้ออกทีวีแล้วดูดี อีกทั้งเราเห็นผู้ชายหุ่นดี เราก็แอบคิดว่าชีวิตเขาคงดูดี มีสุขภาพที่ดี มีคนรักคนชอบ ผมเลยคิดว่าเป็นไงเป็นกัน ลุยให้รู้กันไปสักตั้ง”

ปี 2012 วู้ดดี้เลยเริ่มต้นด้วยการงดแป้ง ปรากฏว่าน้ำหนักของเขาลดลงฮวบฮาบ แต่ร่างกายยังไม่เฟิร์ม ปี 2013 เขาเลยตั้งใจเข้าฟิตเนสเพื่อทำให้รูปร่างดี

“ผมเริ่มเล่นตั้งแต่ต้นปี ตื่นตี 5 มาเล่นทุกส่วนกับเทรนเนอร์ เล่น 5 วันต่อสัปดาห์ และควบคุมอาหารการกินทั้งเช้าทั้งเย็น ซึ่งกว่าจะได้หุ่นตามที่ต้องการก็ประมาณเดือน ก.ย.”

หลังจากที่เราหุ่นดี ฟิต และเฟิร์มแล้ว วู้ดดี้ก็คิดเล่นๆ ว่า เขาน่าจะออกหนังสือเพื่อบอกต่อให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ว่า คนมีน้ำหนัก 80 กว่ากิโลอย่างเขาทำได้ คุณก็ต้องทำได้ แต่ในที่สุด เขาก็เลิกล้มความคิดนี้ไป

“ขั้นตอนการทำหนังสือ ผมว่ามันวุ่นวายนะ ผมไม่ชอบอะไรที่เหนื่อย ต้องพีอาร์โปรโมท ต้องอะไรเยอะแยะมากมาย ผมเลยทำปฏิทินแทน ซึ่งที่ทำก็ไม่ได้ทำจำนวนมาก ตั้งใจมอบให้พี่ๆ ในวงการบันเทิง สื่อมวลชน และแฟนคลับบางส่วน แค่คิดว่าให้ไปแล้วก็จบ ปรากฏว่าฟีดแบ็กดีมาก คนอยากได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่มันมีจำนวนจำกัด ซึ่งก็ต้องขอโทษคนที่อยากได้จริงๆ ครับ”

บันทึกผู้ชายหุ่นดี จอห์น & วู้ดดี้

 

สำหรับปฏิทินที่วู้ดดี้ทำนั้น เขาลงทุนถ่ายรูปเอง คิดถ้อยคำประกอบเอง ซึ่งทั้งรูปและถ้อยคำนี้นี่แหละ ที่เป็นสิ่งที่เขาอยากบอก อยากสะกิดเตือน และอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยไม่ผัดวันประกันพรุ่ง

“อาจมีคนเมาท์บ้างว่าผมชอบขายตัวเอง อยากโชว์หุ่น แต่ผมไม่แคร์ ผมต้องการให้คนที่ผมรักและคนที่รักเรา ลุกขึ้นมาทำอะไรดีๆ ให้กับตัวเอง ผมอยากให้คนได้อ่านข้อความเพื่อเตือนใจ จะได้ลงมือทำ และเห็นผมเป็นตัวอยาง ผมถอดเสื้อให้คนดู เพื่อที่ว่าผมทำได้ คุณก็ต้องทำได้”

วู้ดดี้ เผยว่า สำหรับปฏิทินชุดนี้ เมื่อไล่เรียงมาตั้งแต่เดือน ม.ค. ทั้งรูปและถ้อยคำจะเล่นกับจิตใจของคน โดยการค่อยๆ ปลุกพลังใจ ค่อยๆ สอดแทรกข้อคิด และค่อยๆ บอกวิธีการแบบง่ายๆ เพื่อให้คนเข้าใจและลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างไม่ยุ่งยาก

“ผมว่าการดูแลหุ่น ตอนแรก ผมทำเพื่อตัวเอง แต่เมื่อทำสำเร็จ ผมคิดว่า นี่ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ผมกำลังทำเพื่อบอกต่อให้ใครหลายคนได้รู้ว่า ศัตรูที่สำคัญที่สุดคือใจเราเอง เราทำได้หรือไม่ได้ ก็อยู่ที่ใจเราเอง”

เมื่ออายุมากขึ้น สัจธรรมข้อหนึ่งที่วู้ดดี้ได้เรียนรู้ นั่นคือ คนเราตายได้ทุกเมื่อ เดินไปหน้าปากซอยอาจถูกรถชนตาย กินอะไรผิดสำแดงก็อาจตายได้ แต่ก่อนที่เราจะตายจากโลกนี้ไป หากเรารู้สึกแย่กับหุ่นตัวเอง เราก็แค่เปลี่ยนแปลงตัวเอง แค่นั้น เราตายเมื่อไหร่ก็ได้ วันนี้จงลงมือทำ

“ตอนนี้ผมเล่นฟิตเนสอาทิตย์ละ 3 วันบ้าง 2 วันบ้าง และพยายามไม่กินแป้ง แต่ไปกินปลา กินข้าวโอ๊ตปั่นกับกล้วยปั่นกับนม หรือกินไข่ต้มแทน เรื่องโภชนาการผมก็ศึกษาเอง ดูจากหนังสือ นิตยสาร เว็บไซต์ และคุยกับโภชนาการ ที่สำคัญคือ แนะนำว่าขอให้ไปคุยกับคนที่หุ่นดีที่เราอยากเป็นแบบนั้น ถามเขาไปเลยว่าเขาทำยังไง กินยังไง อยู่ยังไง แล้วทำตามนั้น คนเหล่านี้พร้อมจะแบ่งปันเคล็ดลับให้กับเราเสมอ ถ้ามีเวลา เขาจะเขียนโพยบอกคุณเลย”

บันทึกผู้ชายหุ่นดี จอห์น & วู้ดดี้

 

สำหรับคนหุ่นไม่ดี วู้ดดี้ได้ทิ้งท้ายฝากบอกไว้ว่า สิ่งแรกที่เราต้องเปลี่ยน คือ เปลี่ยนแปลงความคิดตัวเอง “อย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ ทุกคนต้องมีวันแรก สามวันแรกอาจจะเหนื่อย แต่เมื่อผ่านพ้นไปร่างกายจะต้องการการออกกำลังกาย อาหารการกินก็สำคัญ อะไรที่กินแล้วอ้วน นั่นแหละอ้วน อะไรที่กินแล้วอร่อย นั่นยิ่งเป็นตัวการทำให้อ้วนครับ”

สุดคูล กับจอห์น วิญญู ผู้ชายเคยอ้วน

หากใครเข้าร้านหนังสือ และพบเจอว่าหนังสือที่มีชื่อว่า “Good Shave Save Cost โคตรประหยัด ขจัดอ้วน” เขียนโดย “จอห์นวิญญู วงศ์สุรวัฒน์” ได้กลายเป็นหนังสือขายดี ก็มิต้องสงสัยว่านั่นเป็นเพราะอะไร คำตอบมันมีอยู่ในตัวเองแล้ว

และวันนี้ ผู้ชายที่ชื่อ จอห์น วิญญู จะมาบอกเล่าให้เราได้รับรู้กัน

“จุดเริ่มต้น ผมคิดว่ามันน่าจะมาจากคนรอบข้าง ในแวดวงการทำงาน ผมทำงานวงการบันเทิง อยู่ใกล้ชิดคนดูดี ก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัว แล้วก็หาข้ออ้างให้ตัวเอง เช่น เราเป็นลูกครึ่งบ้างล่ะ พันธุกรรมทำให้เราตัวใหญ่บ้างล่ะ จนอ้วนขึ้นๆ ถึง 100 กิโล ส่งผลให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา ทั้งทางตรง ที่เป็นเรื่องของสุขภาพ ป่วยบ่อย นอนไม่ค่อยอิ่ม น้ำหนักตัวเยอะ มีปัญหาเกี่ยวกับทำกิจกรรมหนักๆ ไม่ได้ เล่นกีฬาไม่ได้ ส่วนทางอ้อม คือ เรื่องของการทำงาน เสื้อผ้าที่ทีมงานเตรียนไว้ให้ ผมใส่ไม่ได้เลย ออกจอแล้วดูไม่ดี มันส่งผลมาทีละนิด จนผมรู้สึกทนไม่ไหว เลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง”

จอห์น เล่าให้ฟังว่า เขาลองมาหลายวิธี ลองเล่นกีฬาหนักๆ อย่างชกมวย น้ำหนักก็ลงแต่ไม่เยอะ พอลงไม่เยอะ ก็เริ่มท้อ เริ่มใช้เงินซื้อความผอมตามสถาบันต่างๆ สำหรับผู้ชาย ซึ่งก็ไม่ได้ผลเลย

“น้ำหนักไม่ได้กระดิกลงเลยครับ เสียเงินไปหลายแสน เริ่มท้อแท้ รู้สึกว่าเราไม่ผอมสักที ก็เลยปรึกษาคุณหมอและนักโภชนาการ นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมได้ค้นพบว่า ที่เราอ้วน เป็นเพราะปริมาณการกินและพฤติกรรมการกินของเรานั่นเอง เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ผมเลยควบคุมปริมาณแคลอรี ซึ่งก็ได้ผล พอได้ผล คนก็ถามกันเยอะ เพราะเขาคงมีปัญหาเหมือนกัน แต่อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผมเลยลุกขึ้นมาทำเป็นรายการอินเทอร์เน็ตทีวีที่มีชื่อว่า กู๊ด เชฟ เซฟ คอร์ส ออกมาทางสโป๊กดาร์ก มีความยาว 15 ตอน”

บันทึกผู้ชายหุ่นดี จอห์น & วู้ดดี้

 

ด้วยความมุ่งมั่นส่วนตัวว่า อยากทำรายการที่ไม่หวังผลด้านตัวเงิน แต่อยากทำเพื่อทำให้คนในสังวคมมีชีวิตที่ดีขึ้น นั่นจึงทำให้รายการนี้ไม่มีสปอนเซอร์ เพราะไม่ได้หาสปอนเซอร์มาตั้วแต่เริ่มต้น

“หลังจากรายการออกอากาศ ฟีดแบ็กดีนะครับ พอทำครบ 15 ตอน ผมเลยนำเนื้อหาในรายการมารวมเล่มเป็นหนังสือ ทำให้ผมสามารถใส่รายละเอียดบางอย่างที่ไม่มีในรายการมาใส่ในหนังสือได้ ผมคิดว่าข้อดีของการเป็นหนังสือ คือ หนึ่ง สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้แบบสะดวกๆ เมื่อคนอ่านเริ่มปล่อยตัว เริ่มไม่มีวินัยในการใช้ชีวิต เขาก็สามารถย้อนกลับมาอ่านมาทบทวนจากหนังสือของเราได้ หนังสือเป็นส่วนช่วยเตือนใจให้เราได้เป็นอย่างดี”

จอห์น เผยว่า มีทั้งคนที่ดูรายการและคนอ่านที่ยกให้เขาเป็นดั่งแรงบันดาลใจสำคัญ “มีคนเดินเข้ามาบอกผมว่า เขาลดน้ำหนักได้เพราะเรา แถมมีคนที่ทำได้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ ผมก็รู้สึกดีใจ แต่เหรียญย่อมมีสองด้าน มีด้านบวก ก็ย่อมมีด้านลบ มีคนพูดให้ผมฟังว่า รายการหรือหนังสือที่ผมทำนี้บังคับให้คนอดอาหาร ผมก็เลยอธิบายวิธีหรือแนวทางของผมให้เขาได้รับรู้ว่า ผมไม่ได้บังคับให้คุณทำตามผมแบบเป๊ะๆ ทุกอย่างที่ผมแนะนำ คุณต้องไปปรับใช้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ มันถึงจะส่งผลดีกับตัวคุณเอง”

สิ่งที่สำคัญเหนือไปกว่านั้นที่จอห์นเผยว่ามันคือหัวใจสำคัญ นั่นคือ เราต้องมีความเข้าใจที่แท้จริงและมีวินัย

“เราต้องเข้าใจหลักการที่ถูกต้องแบบง่ายๆ ก่อนว่ากินแบบนี้ จะส่งผลระยะยาวยังไง เมื่อก่อนกินเพราะอยาก แต่ตอนนี้เราต้องกินเพราะหิว ถ้าระหว่างมื้อเราเกิดหิว เราต้องนึกถึงมื้อก่อนหน้านั้นว่าเราทานอะไรไปหนักหรือเปล่า มันจะช่วยลดความหิว และมื้อต่อไปจะได้ทานน้อยลง ที่สำคัญ คือ หมั่นทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน ออกกำลังบ้าง แต่เน้นขยับเขยื้อนร่างกายทุกโมเมนต์ที่เราใช้ชีวิต”

ปัจจุบันนี้ จอห์น เผยว่า ตอนนี้เขาแฮปปี้กับรูปร่าง ใส่เสื้อผ้าสบาย มันกลายเป็นรางวัลอย่างหนึ่งของชีวิต

“สิ่งที่อยากฝากไว้ คือ จงเชื่อว่าอายุมากแค่ไหน ก็ลดน้ำหนักลงได้ และจงคิดก่อนหยิบอาหารเข้าปาก ฝากไว้แค่นี้ครับ”

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา