ระวังโรคมือเท้าปากในเด็ก
ช่วงนี้กำลังเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว บางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง อากาศเย็นและชื้นเหมาะแก่การระบาดของเชื้อโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งพบมากที่ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคนี้มีหลายชนิด เชื้อโรคจะอยู่ที่ลำไส้และขับออกมาพร้อมกับอุจจาระ อาเจียน หรือน้ำลายของผู้ป่วย เด็กที่ติดเชื้อโรคมือเท้าปากจะมีไข้ 12 วัน จากนั้นจะมีตุ่มหรือแผลในปากคล้ายแผลร้อนใน ส่วนใหญ่พบที่บริเวณคอหอยหรือใกล้ต่อมทอนซิล ทำให้เด็กเจ็บในปากและคอ ไม่ยอมดูดนม กินอาหารไม่ได้ ส่วนใหญ่เด็กที่ป่วยอาการจะค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ และหายได้เองใน 7 วัน มีจำนวนน้อยมากที่มีอาการรุนแรง โดยมีไข้สูง อาจมีอาการชัก แขนขาอ่อนแรง
ช่วงนี้กำลังเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว บางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง อากาศเย็นและชื้นเหมาะแก่การระบาดของเชื้อโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งพบมากที่ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคนี้มีหลายชนิด เชื้อโรคจะอยู่ที่ลำไส้และขับออกมาพร้อมกับอุจจาระ อาเจียน หรือน้ำลายของผู้ป่วย เด็กที่ติดเชื้อโรคมือเท้าปากจะมีไข้ 12 วัน จากนั้นจะมีตุ่มหรือแผลในปากคล้ายแผลร้อนใน ส่วนใหญ่พบที่บริเวณคอหอยหรือใกล้ต่อมทอนซิล ทำให้เด็กเจ็บในปากและคอ ไม่ยอมดูดนม กินอาหารไม่ได้ ส่วนใหญ่เด็กที่ป่วยอาการจะค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ และหายได้เองใน 7 วัน มีจำนวนน้อยมากที่มีอาการรุนแรง โดยมีไข้สูง อาจมีอาการชัก แขนขาอ่อนแรง
“โรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียารักษาโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นแพทย์จะให้การดูแลรักษาตามอาการ เช่น ลดไข้ด้วยยา ทานยาแก้ปวด รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊กหรือข้าวต้ม ไอศกรีม แต่หากมีอาการรุนแรง ซึมลง หายใจหอบ ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที”
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ถ้ารู้ว่าเด็กเป็นโรคนี้แล้วให้แยกของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม หลอดดูดน้ำ พร้อมทำความสะอาดพื้นห้องหรือพื้นที่ที่เด็กสัมผัสบ่อยๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ด้วยน้ำผสมผงซักฟอกที่มีส่วนผสมของคลอรีน เช่น ไฮเตอร์ แล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาด หากเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่มีการนำเข้าปากให้ล้างด้วยน้ำและสบู่แล้วนำไปตากแดด


