นนท์ อัลภาชน์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬารุ่นใหม่ไฟแรง

โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ นิตยสารวอลุ่ม

ต้องยอมรับว่าภาพ หน่องปลื้มจิตร์ ถินขาว นักกีฬาวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย เจ้าของส่วนสูง 180 ซม. กับลีลาโพสท่าซุกไหล่ถ่ายรูปกับนายแบบหนุ่มหุ่นดี มิกกี้นนท์ อัลภาชน์ แล้วถูกอัพขึ้นอินสตาแกรมของเธอ หลังจากทีมวอลเลย์บอลสาวไทยคว้าแชมป์เอเชียมาครอง ซึ่งต่อมามีผู้แชร์รูปนั้นในโลกออนไลน์ ทำให้ผู้คนต่างจับจ้องไปที่มิกกี้ ว่าเขาคือใครกันแน่ ด้วยภาพที่ออกมาเหมือนทั้งคู่สนิทกันมาก จนบางคนคิดว่าเป็นแฟนกัน ซึ่งไม่เว้นกระทั่งแฟนคลับของนักวอลเลย์บอลหญิงร่างโย่ง ที่หลายคนเชียร์ให้ขายขนมจีบกันด้วย

แม้ความจริงจะปรากฏ ในเวลาต่อมาจากการให้สัมภาษณ์ของแต่ละคนและมิกกี้เองก็ยืนยันตรงนี้อีกครั้งว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ภาพใกล้ชิดสวีตหวานนั้นก็แค่ “พี่น้อง” ที่รู้จักและสนิทกันตามประสาคนนิสัยคล้ายๆ กันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภาพที่ออกมานั้นก็ได้ทำให้มิกกี้ฮอตฮิตเป็นที่รู้จักของประชาชนคนไทย และเป็นที่สนใจของสื่อสำนักแล้วสำนักเล่าที่เวียนไปสัมภาษณ์ไม่ขาดสาย แถมนิตยสารวอลุ่มผู้ปลุกปั้นมิกกี้ ก็ไม่ยอมตกเทรนด์ฮอต เลยจับทั้งคู่ไปถ่ายแบบคู่กันอีก

“รู้จักพี่หน่องได้เพราะผมไปฝึกงานกับทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยมาก่อน คือหลังจากเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ด้านฟิตเนสและโภชนาการ จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ก็กลับมาฝึกงานที่เมืองไทยเมื่อ มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นเวลา 3 เดือน

ช่วงนั้นทีมวอลเลย์บอลหญิงกำลังเตรียมทีมฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่นครราชสีมา อาจารย์หมอจึงส่งผมไปช่วยดูพี่ๆ นักกีฬาที่สนามซ้อม ในเรื่องโภชนาการ น้ำหนัก ความฟิต เลยทำให้รู้จักกับพี่ๆ ทุกคนดี แต่ที่สนิทกับพี่หน่องมากคงเพราะนิสัยเราคล้ายกัน คือ ขี้เล่น คุยตลก สนุกๆ มากกว่า”

 

แน่นอนประเด็นที่มิกกี้สนิทกับนักวอลเลย์บอลสาวร่างโย่งทำให้ผู้คนย่อมรู้จักเขามากขึ้น ซึ่งเขาก็ยอมรับ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าก่อนนี้เขาเองแม้จะเรียนอยู่ที่เมืองนอกตลอด 10 ปี แต่ก็เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาในวงการสื่อบันเทิงไทย โดยภาพของเขาไปปรากฏอยู่ในนิตยสารต่างๆ เช่น วอลุ่ม เซเว่นทีน เมนส์เฮลท์ แคมปัส โดยเฉพาะวอลุ่มที่เขายอมรับว่าทำให้มีวันนี้

“ช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ มีโอกาสได้กลับมาเมืองไทย แล้วปกติผมจะเข้าฟิตเนสทุกวันอยู่แล้ว ก็จะมาเล่นที่พารากอน แล้วพี่คนหนึ่งแกถ่ายรูปกับผม น้าตุ๊ (เจ้าของวอลุ่ม) เห็น ก็ให้ผมไปถ่ายแบบ จากนั้นมาทางวอลุ่มก็จะติดต่อรับงานต่างๆ เช่น ถ่ายแบบ เดินแบบ ให้ผมตลอด แต่ไม่เต็มที่เท่าไหร่เพราะผมต้องกลับไปเรียนที่อเมริกา ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว และไม่ได้กลับไปอยู่อเมริกา เวลาสำหรับงานก็คงมีให้มากขึ้น”

นนท์ ยอมรับว่า ไม่เคยคิดว่าชีวิตของเขาจะต้องมาสายบันเทิง แต่พอได้เข้ามาทำก็รู้สึกสนุก และอยากทำให้ออกมาดีที่สุด แม้ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก็ตาม เพราะเชื่อว่าทุกคนย่อมมีครั้งแรก ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จในครั้งเดียว

“อย่างเดินแบบ ผมก็ไม่เคยเดินมาก่อน ไม่มีใครสอน เช่น เขาให้ผมไปงานเปิดตัวเสื้อผ้าที่ห้างแห่งหนึ่ง เขาก็ไม่ได้บอกว่ามีเดินแบบด้วย ตอนแรกแม้จะเกร็งๆ บ้าง แต่พอเดินต่อไปก็เดินได้ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ผมมั่นใจขึ้น ครั้นพอไปงานที่สองอาการเกร็งก็หายไป ซึ่งผมเชื่อว่าอยู่ที่ตัวเรานะ ต้องมั่นใจว่าเราทำได้ และถ้าจะผิดพลาดมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ อย่างที่ผมบอกว่าทุกคนย่อมมีครั้งแรกครับ”

ไม่เพียงความพร้อมของสภาพจิตใจของเขาเท่านั้นที่มีเกินร้อย แต่ความพร้อมของร่างกายพันเปอร์เซ็นต์ไม่ต้องห่วง เพราะหุ่นเป๊ะตลอด ไม่ว่าผิวพรรณ ใบหน้า เนื่องจากเขาเป็นหนุ่มที่ค่อนข้างเอาใจใส่ในการดูแลสุขภาพมากเป็นพิเศษ และวิถีในการดำรงชีวิตของเขาก็ชอบออกกำลังกาย เข้าฟิตเนสทุกวัน และกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

“สุขภาพผมถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของชีวิต และที่ผมเลือกเรียนด้านฟิตเนสและโภชนาการเพราะผมมองว่าสุขภาพต้องมาก่อน คนเราถึงจะมีเงิน แต่ถ้าสุขภาพไม่ดี ขี้โรค เข้าออกโรงพยาบาลบ่อย เงินคงจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แล้วชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร ดังนั้น เพื่อดูแลหุ่น ดูแลสุขภาพ ผมจึงเข้าฟิตเนสทุกวัน ไม่นอนดึก อาหารแม้จะกินง่ายแต่ก็เลือกกิน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางคนเข้าฟิตเนสตลอด แต่อาหารไม่เคยดูแลมันก็ไม่ใช่อยู่ดี สำหรับสุขภาพต้องมาก่อน”

ว่าแต่พร้อมทั้งร่างกาย (หุ่นดีตลอด) พร้อมทั้งจิตใจเยี่ยงนี้ ระวังงานตรึมนะครับ...มิกกี้

เกี่ยวกับ...มิกกี้

อายุ 23 ปี สูง 178 ซม. น้ำหนัก 70 กก.

ลูกชายคนเดียวของ ศุภรัตน์ อัลภาชน์ โค้ชรักบี้หญิงทีมชาติไทย และ ดร.สิริพร อัลภาชน์ (ณ ป้อมเพชร)

จบมัธยมปลายจาก Grants Pass High School Class of 2009 ปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มหาวิทยาลัยโอเรกอน และกำลังจะศึกษาต่อปริญญาโท ทาง Strength & Conditioning ที่ประเทศออสเตรเลีย

ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และเป็นนักกีฬาของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เคยใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพแต่ไม่ได้เป็น เพราะเลือกที่จะเรียนตามที่พ่อแนะนำ ทีมในดวงใจคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แม้จะชอบฟุตบอล แต่กีฬาชนิดอื่น เช่น เทนนิส ปิงปอง แบดมินตัน ว่ายน้ำ ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

ความสามารถทางดนตรี เล่นเปียโน และไวโอลิน

ด้านสุขภาพ เข้าฟิตเนสทุกวัน หรือต้องไม่ต่ำกว่าอาทิตย์ละ 6 วัน วิ่ง เล่นหน้าท้อง เล่นเวต

เมนูประจำในการคุมน้ำหนัก ข้าวกล้อง อกไก่ ผักลวก ไม่เบื่อ เพราะถือคติกินเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่กินเพื่อมัวเมา

งานที่อยากลองทำและเชื่อว่าทำได้นอกเหนือจากถ่ายแบบ เดินแบบ คือ แสดงละคร พิธีกร และพากย์บอล โดยเฉพาะงานแสดงถือเป็นงานหนึ่งที่ชอบและอยากทำ

หญิงในสเปก ขาสวย รักสุขภาพ ดูแลตัวเอง ชอบเล่นกีฬา เข้าฟิตเนส ไม่จำเป็นต้องขาว ผมยาวๆ ดูเปรี้ยวๆ หน้าตาไม่ต้องสวยเว่อร์ อายุขอไล่เลี่ย น้อยเกินไปไม่เข้าที ถ้าจะดีต้องรุ่นเดียวกัน

หลักในการดำเนินชีวิต กินง่าย แต่เลือกกิน แต่งตัวเรียบง่าย แต่ขอให้ดูดี

สิ่งที่อยู่ในใจเสมอคือคำสอนของพ่อแม่ ขอให้เป็นสุภาพบุรุษ เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ให้ทำสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ชีวิตไม่ต้องหรูหรา แต่ให้อยู่บนความพอดี

สิ่งที่อยากทำเพื่อชาติในอนาคต คือ นำวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ร่ำเรียนมาช่วยในการพัฒนาวงการกีฬาของไทย หลังจากเรียนจบปริญญาโทน่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้

สิ่งที่อยากเห็นเกี่ยวกับกีฬาไทย คือ นักกีฬาไทยมีระเบียบวินัยและมีความเป็นมืออาชีพ