ห้องน้ำออฟฟิศ สมรภูมิรบ...เลี่ยงได้

โดย...ไดนาห์ ชอว์

ห้องน้ำ เป็นสถานที่ที่ทุกคนในออฟฟิศมีส่วนร่วม นั่นหมายถึง ความจำเป็นในการใช้ และความจำเป็นในการช่วยกันรักษาความสะอาด หลายแห่งมีแต่ความจำเป็นในการใช้ แต่ไม่ช่วยกันทำนุบำรุง ห้องน้ำห้องเล็กๆ จึงแปรสภาพเป็นสมรภูมิเดือด ที่เร้าอารมณ์ได้ตั้งแต่ภาพและกลิ่น ความสกปรกที่จุดชนวนความไม่พอใจ ความหงุดหงิดใจ ความโกรธเกรี้ยว กระทั่งความอาฆาตแค้นระหว่างเพื่อนร่วมงาน ฮึ่ม!

สถานการณ์ทำงานก็เหนื่อยกายมากอยู่แล้ว ยังต้องเหนื่อยใจทุกครั้งที่ใช้ห้องน้ำออฟฟิศ เพราะมีแต่ความสกปรก จากความมักง่ายของผู้ใช้ เช่น เถ้าบุหรี่ หรือก้นบุหรี่ในโถปัสสาวะ ไม่นับรวมร่องรอยความเรี่ยราดที่เกิดจากความไม่รับผิดชอบอย่างรุนแรงของผู้เป็นเจ้าของ

ทางออกห้องน้ำออฟฟิศ ไม่รู้ใครเป็นใคร (หรือทั้งๆ ที่รู้ว่าใครเป็นใครนี่แหละ) เรื่องของบุหรี่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ คนไม่สูบต้องรับควันเหม็นๆ แบบไม่สมยอม ภาพก้นบุหรี่ในโถส้วมก็เป็นภาพอุจาดที่ทำร้ายทุกคน ส่วนปัญหาความสกปรกเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนความไม่ได้มาตรฐานขององค์กร (และคนในองค์กร) การเห็นปัญหาในระดับผู้บริหารเป็นเรื่องสำคัญ ทางออกทำได้ด้วยการปลูกจิตสำนึกพนักงาน ที่ต้องทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ค่อยๆ ทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และทำอย่างมีอุตสาหะจึงจะดีขึ้น

สถานการณ์ห้องน้ำคือแนวรบที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชีวิตประจำวันต้องประสบเจอ คือ ปัญหาที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก จะทำอย่างไรดีกับพวกสร้างมลพิษในห้องน้ำ พูดตรงๆ ดีไหม

ทางออกเผื่อใจไว้ตั้งแต่ก่อนจะเข้าห้องน้ำว่า อาจเห็นภาพไม่น่าดู ได้กลิ่นไม่น่าดม ความเรี่ยราดเลอะเทอะ ซึ่งการวางใจล่วงหน้าช่วยเตรียมใจรับสภาพได้มากขึ้น การเขียนป้ายเตือนก็เป็นวิธีหนึ่ง สำหรับการใช้ป้าย อารมณ์ขันช่วยได้ เช่น “กระเถิบเข้าไปอีกหน่อยสิจ๊ะ พ่อทุเรียนก้านสั้น!!!”

ส่วนการพูดตรงๆ เป็นเรื่องต้องใช้วิจารณญาณ เพื่อนร่วมงานบางคนพูดได้ บางคนพูดไม่ได้ และสำหรับบางคน พูดได้พูดไป แต่ไม่ได้ผล การพูดตรงๆ เป็นเทคนิคที่ควรรอบคอบ ใช่! การจริงใจเป็นเรื่องที่ดี แต่การเป็นคนจริงใจกับการเป็นคนหยาบคายที่พูดทุกอย่างที่รู้สึกนั้น เป็นคนละเรื่องกัน ก่อนใช้เทคนิคนี้ ควรถ่องแท้แก่ใจตัวก่อนว่า เราอยากแก้ปัญหาจากใจจริง หรือเพราะแค่กำลังโกรธ

สถานการณ์เรื่องห้องน้ำในออฟฟิศ ไม่รู้จะวางใจอย่างไรดี คนที่ใช้ห้องน้ำก็คนเห็นๆ หน้ากันทั้งนั้น จะไม่ใช้ก็ไม่ได้

ทางออกการใช้ห้องน้ำเป็นเรื่องที่ทุกคนควรเรียนรู้ ตั้งแต่หลักสาธารณสุขพื้นฐาน และหลักกติกามารยาทในการใช้สถานที่สาธารณะ ห้องน้ำออฟฟิศเป็นห้องน้ำรวม (นี่ยังไม่พูดถึงห้องน้ำรวมแบบยูนิเซ็กซ์แบบในต่างประเทศนะ) ก็ควรมีกฎกติกาที่กำหนดหลักการใช้ร่วมกัน มีบทลงโทษและความศักดิ์สิทธิ์ที่เพียงพอในการบังคับใช้ การแซงชั่นหรือบทลงโทษทางสังคมระหว่างเพื่อนร่วมงานกันเอง วิธีนี้ได้ผลเฉพาะออฟฟิศที่มี “น้ำดี”มากกว่า “น้ำเสีย”

ในระหว่างที่ป้ายเตือน การให้รางวัล การชมเชย บทลงโทษ หรือการแซงชั่นต่าง ๆ ยังไม่ได้ผล ต้องช่วยตัวเองด้วยการวางใจและทำใจ ที่ทำงานย่อมประกอบด้วยคนทำงานจากหลายแหล่งแห่งที่ แต่ละคนมีสิ่งที่เรียกว่า “สันดานดิบ” ต่างกัน สุดท้ายแล้วคืออารมณ์เสีย ที่ก็เหมือนกับของเสีย พึงกดลงชักโครกไปพร้อมๆ กัน

Ask the Expert...

Q. เจ้านายย้ายมาจากแผนกอื่น แต่ท่าทางจะเจ้าชู้ อายุเกือบ 50 แล้ว ติดต่องานด้วยแล้วไม่ค่อยสะดวกใจ เราจะวางตัวอย่างไรให้เขาเกรงใจไม่รุ่มร่ามกับเราดีคะ?

A. จักรพันธ์ จันทรัศมี Consulting Partner บริษัท ออคิด สลิงชอท เรื่องที่ต้องระมัดระวังในการวางตัวให้เหมาะสมมี 3 ประการ คือ 1) เรื่องการแต่งตัว เสื้อผ้าที่ใส่ไปทำงานต้องไม่เซ็กซี่หรือวับๆ แวมๆ ออกแนวโป๊จนสุ่มเสี่ยงต่อความเข้าใจผิดของเจ้านาย การที่คุณแต่งตัวให้สุภาพและรัดกุม จะเป็นการส่งสัญญาณในเบื้องต้นให้เจ้านายรับรู้ว่าคุณเป็นคนที่ถือเนื้อถือตัว ไม่ใช่นึกอยากจะแต๊ะอั๋งก็ทำกันได้ง่าย ๆ 2) เรื่องการใช้คำพูด ไม่ควรพูดทำนองทีเล่นทีจริง เช่น เจ้านายถามว่ามีแฟนหรือยัง คุณไม่ควรตอบว่า “หน้าตาขี้เหร่แบบหนูไม่มีใครมาจีบหรอกค่ะ” ควรตอบว่า “มีแฟนแล้วค่ะ” จะปลอดภัยที่สุด การพูดไม่เคลียร์ก็เช่นกัน อาจทำให้เจ้านายคิดเข้าข้างตัวเอง เช่น ถ้าเจ้านายบอกว่าจะไปส่งคุณที่บ้าน และคุณต้องการจะปฏิเสธก็ตอบไปเลยว่า “ไม่สะดวกค่ะ เดี๋ยวแฟนจะมารับ” ไม่ใช่พูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจ” พูดแบบหลังนี้อาจทำให้เจ้านายคิดว่าคุณอยากให้เขาไปส่ง 3) เรื่องกิริยา ท่าทาง และการใช้สายตา ต้องระมัดระวังไม่แสดงออกให้เจ้านายเข้าใจว่าคุณกำลังทำให้เขาสนใจ ควรระมัดระวังการนั่ง การยืน การเดิน รวมถึงหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง โดยเฉพาะหลังเลิกงาน แต่หากจำเป็นมีงานด่วนต้องใช้ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นควรมีเพื่อนอยู่ด้วย หรือไม่ก็ขอเอางานกลับไปทำต่อที่บ้านจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

He Said / She Said

วินพนักงานบริษัท

“ผมว่าผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ สำหรับผมผู้หญิงเซ็กซี่อยู่ที่รอยยิ้ม ผมชอบผู้หญิงยิ้มเก่ง รอยยิ้มของผู้หญิงดูเซ็กซี่ดีครับ”

แอ๊งพนักงานบริษัท

“ชอบหนุ่มๆ หุ่นดีๆ สมาร์ทๆ ดูแล้วเท่ สุขุม และอบอุ่น ไม่ชอบผู้ชายร่างเล็ก ดูเป็นคนอ่อนแอ ไม่อบอุ่นเลย”

Quote

“ถ้าคุณต้องการจะรู้รสชาติของลูกแพร์ คุณก็ต้องลงมือสรรหา ปอกเปลือกแพร์ แล้วก็ลองชิมดูด้วยตัวเอง ส่วนถ้าคุณต้องการเรียนรู้ทฤษฎีและกระบวนการของการปฏิวัติ คุณก็ต้องเข้าไปมีส่วนในการกระทำนั้นด้วย ความรู้ที่แท้จริงนั้นมาจากประสบการณ์ตรงทั้งนั้นแหละ”

เหมาเจ๋อตุง อดีตผู้นำจีน