คู่หู (?!)

โดย...โจลิฟวิ่ง

จะเรียกว่า “คู่ขา” ก็คงไม่น่ารัก ขอเรียก “คู่หู” ดีกว่า ดูจะเหมาะที่สุด

ในที่ทำงาน การมีคู่หูมันย่อมดีมากกว่าเสีย แต่นั่นต้องมั่นใจว่าเขาคนนั้นคือคู่หูของคุณจริงๆ ไม่ใช่แค่หวังฉวยโอกาส หรือทำดีเพื่อเอาหน้า กระทั่งอาจจะฆ่าให้คุณตาย จนกลายเป็นตัวตลกหน้าเซ่อ ถ้าค้นพบว่าคู่หูคุณคือใครก็จงรักษามิตรภาพไว้ แล้วจะรู้ว่า การมีคู่หูจะช่วยให้งานของคุณบรรลุผล

คู่หู=คนรู้ใจ

คนรู้ใจไม่ได้หมายถึงแฟน แต่ถ้าใครจะพัฒนาความสัมพันธ์จากคู่หูเป็นแฟนก็ไม่ว่ากัน แต่ความหมายของคนรู้ใจในทางคู่หู อาจเป็นได้ทั้งเพื่อนเลิฟ น้องรัก หรือพี่ซี้ ที่สามารถเข้าใจและเข้าถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ ประมาณมองตากันก็รู้ปุ๊บ อะไร ยังไง ชอบ ไม่ชอบ

การที่รู้ใจกันนั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่ความสำเร็จ หากว่าทั้งคู่ได้รับผิดชอบงานโปรเจกต์เดียวกัน ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าการเป็นคู่หูกัน มีส่วนอย่างมากที่จะนำพางานที่ทั้งยากและหนัก ให้เป็นงานที่สบายๆ ชิลชิล โดยมีเป้าหมายที่ทั้งคู่ปักธงไว้ชัด

สองนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง “เบน แอฟเฟล็ก” กับ “แมตต์ เดมอน” จากเพื่อนในวัยเยาว์สู่คู่หูที่ซี้ย่ำปึ๊ก ทั้งคู่ไม่เพียงเป็นเพื่อนร่วมวงการ ทว่า พวกเขายังร่วมหุ้นเปิดบริษัทโปรดักชัน LivePlanet ปี 2000 ล่าสุด ทั้งคู่ก็ตัดสินใจถอนหุ้นออกมาเปิดอีกบริษัท Pearl Street Films เมื่อปีที่แล้ว เป็นค่ายหนังหนังเล็กๆ ที่ทั้งคู่ช่วยกันผลักดันหนัง ภายใต้แนวคิดคือฟอร์มจิ๋วแต่เน้นคุณภาพ เช่นที่พวกเขาหวังจะทำให้เป็นค่ายหนังทางเลือก (หนังเรื่องแรกของทั้งคู่ Promised Land ได้เข้าชิง Special Mention เทศกาลหนังนานาชาติกรุงเบอร์ลิน 2013)

ถือเป็นตัวอย่างคู่หูที่เป็นเสมือนคนรู้ใจ ยิ่งเฉพาะเรื่องงาน พวกเขาค่อนข้างรู้ใจ (ยิ่งกว่าแฟนซะอีก) เรียกว่าเพื่อนว่าไง เพื่อนว่าตาม ซึ่งนั่นก็เป็นผลดีต่อการทำงานของทั้งเบนและแมตต์ ที่จะนำพาบริษัทที่ทั้งคู่ร่วมปลุกปั้นไปถึงฝั่งฝัน

คู่หู=ที่ปรึกษาใกล้ตัว

ไม่จำเป็นต้องร่วมหุ้นเปิดบริษัทด้วยกันก็ได้ แต่ถ้ามีโอกาสก็อย่ารีรอ เพราะการเป็นคู่หู มองอีกมุมมันก็คือที่ปรึกษาที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด

คู่หูอาจจะแค่เป็นเพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้องกับเจ้านาย ทำงานในออฟฟิศเดียวกัน เจอกันทุกวัน บางวันเบื่อขี้หน้า ก็ต่างคนต่างไป ล้อเล่น!!! แยกทำงานคนละมุมคนละที่ พอเวลามีงานก็มาเจอกัน เป็นเยี่ยงนี้ ไม่ใช่ว่าความสัมพันธ์ในฐานะคู่หูห่างเหิน เพียงแต่ต้องเว้นระยะ (บ้าง) เพื่อให้แต่ละคนได้อยู่กับตัวเอง ได้จับจดกับงานที่รับผิดชอบ ที่สำคัญ เกิดปัญหาเรื่องงานที่แก้ไม่ตก ก็คู่หูนี่แหละ ที่จะให้คำปรึกษาได้ดีกว่าใคร

กรณี 2 พระเอกฮอลลีวูด “เบน แอฟเฟล็ก” กับ “แมตต์ เดมอน” ก็เช่นกัน พวกเขาเป็นมากกว่าหุ้นส่วนบริษัท เป็นมากกว่าเพื่อนซี้ หรือรูมเมตสมัยเรียน กระทั่ง เพื่อนนักแสดงดีกรีรางวัล เพราะทั้งคู่คือที่ปรึกษากันและกัน ยิ่งเฉพาะเรื่องงาน การตัดสินใจถอนตัวออกจากบริษัทโปรดักชัน LivePlanet ปี 2007 ทั้งคู่ได้ปรึกษากันอย่างรอบคอบถึงอนาคตและเส้นทางชีวิตในโลกแผ่นฟิล์มว่าพวกเขาต้องการอะไรและยังไง นั่นจึงนำไปสู่การรวมพลังปลุกปั้นบริษัท Pearl Street Films ในเวลาต่อมา

ทั้งเบนกับแมตต์ก็ยังคงเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกัน ดั่งถ้อยคำที่ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ไว้

แมตต์ : “โต๊ะกินข้าวตัวนั้นเป็นที่ที่สนุกที่สุดเลยล่ะ เพราะเราจะถกกันได้ทุกเรื่อง ซึ่งก็ต้องหาเหตุผลดีๆ มาหักล้างกันให้ได้”

เบน : “แมตต์ถามผมว่า นายช่วยฉันเขียนบทเรื่องนี้มั้ย ฉันไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไงดี เราก็เลยเริ่มช่วยกันเขียนบทหนังเรื่อง Good Will Hunting” (หนังชนะออสการ์ บทดั้งเดิม ปี 1998)

ทั้งหมดคงยืนยันได้ดีสำหรับการเป็นทั้งคู่หูคู่นี้ แล้วคุณละ (เคย) มีคู่หูแบบนี้หรือไม่?

Ask the Expert...

Q. เจ้านายวัย 50 กว่า เพิ่งตกพุ่มม่ายมาหมาดๆ รูปร่างหน้าตาและหน้าที่การงานดี ดิฉันเป็นรุ่นน้องกว่า 10 ปี ทำงานกับหัวหน้าคนนี้มา 13 ปีและยังโสด เมื่อก่อนไม่มีความรู้สึกอะไร ร่วมงานเป็นปกติ แต่มาระยะหลังดูว่าสายตาของหัวหน้าเปลี่ยนไป ดิฉันจะวางตัวอย่างไรดีไม่ให้หวั่นไหวจนเสียการทำงาน ตอนนี้ดิฉันเลยพยายามเลี่ยงๆ แกน่ะค่ะ?

A.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า เรื่องของสัมพันธภาพในที่ทำงานนั้นที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็มักจะทำให้เกิดปัญหาของการวางตัวเพื่อความเหมาะสมในการทำงานร่วมกันกับผู้ร่วมงานทุกคน

ก่อนอื่นถ้าคุณยังไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไร การพยายามเลี่ยงที่จะพบปะเป็นการส่วนตัวสองต่อสอง ก็น่าจะดีในแง่ของการกันข้อครหานินทาจากผู้ร่วมงาน แต่ถ้าคุณคิดที่จะมีใจกับหัวหน้างาน ก็คงจะต้องหาวิธีการที่จะพบปะพูดจากันนอกเวลาทำงาน และในสถานที่ที่ไม่น่าจะเปิดเผยให้ใครรับรู้ในระยะแรก จนกว่าคุณจะแน่ใจในสัมพันธภาพที่ยืนยาว

แน่นอนว่าในกรณีนี้ คุณอาจจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้พูดคุยสังสรรค์กับผู้ร่วมงานให้มากขึ้น ทำตัวให้เป็นที่น่ารักของผู้ร่วมงาน และเป็นส่วนหนึ่งของทีม ที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าต้องสนับสนุนคุณในทุกเรื่อง และเมื่อคุณทำได้คุณก็จะพิชิตหัวใจของทุกคนในที่ทำงาน

He Said / She Said

ต้อมพนักงานบริษัท

“ผมชอบผู้หญิงฉลาด แต่ไม่อวดฉลาด ดูมีภูมิ มีความรู้ ผมว่าผู้หญิงแบบนี้น่าค้นหาดีครับ และชอบผู้หญิงที่เป็นคนช่างอ่าน ดูเท่ดีครับ”

ออม พนักงานบริษัท

“ไม่รู้แปลกหรือเปล่า ที่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ไม่รู้สิรู้สึกว่าเขาต้องมีอะไรดี ถึงกล้าเจ้าชู้ ถ้าเราชนะใจเขาได้ก็น่าจะเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีนะคะ”

Quote

“ถ้าฉันไม่ได้โด่งดัง มีชื่อเสียง หรือประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ ฉันก็ยังจะตื่นมาแต่งหน้าแต่งตา แล้วก็แต่งตัวเก๋ๆ ในสไตล์เดียวกันนี้แหละ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ฉันทำมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ฉันรักแฟชั่น ฉันชอบแต่งตัว และไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด”

เกว็น สเตฟานี่ นักร้องสาวสุดเปรี้ยว