‘พื้นที่ส่วนตัว’ ของ ฐิภา นววัฒนทรัพย์
“ฐิภา นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส วัย 32 ปี
โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง
“ฐิภา นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส วัย 32 ปี ถ้าหากมีวันหยุดประมาณ 3 วัน ที่สามารถไปต่างจังหวัดได้ ส่วนใหญ่จะไปทะเลกับกลุ่มเพื่อน
“ทุกครั้งที่ไปทะเลจะรู้สึกว่ามันได้ปลดปล่อยเรื่องทุกอย่างออกไป เดินเล่นลุยน้ำทะเล สัมผัสลมพัดเย็นๆ นั่งมองทะเล ออกไปดูวิวไกลสุดขอบทะเล เพียงแค่นี้ก็จะรู้สึกสดชื่นแล้ว”
เรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติบำบัด เพราะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ และถ้าได้อยู่กับเพื่อนๆ ยิ่งรู้สึกสนุกสนานเฮฮา คุยกันตามประสาผู้หญิง ก็ผ่อนคลายได้เต็มที่
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อทำงานมากก็จำเป็นต้องหามุมสงบหรือมุมพักผ่อนให้กับตัวเอง และเชื่อว่าทุกคนก็เหมือนกัน เมื่อมีทุกข์ก็ต้องหาทางดับทุกข์ เพื่อให้ชีวิตได้เดินก้าวไปข้างหน้าต่อไป
ทั้งนี้ หากมีเวลาได้อยู่บ้านบางครั้งก็จะใช้เวลาไปกับการจัดดอกไม้ เพราะทำให้จิตใจสงบ ใจและกายได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และทำให้นิ่งได้มากขึ้น รวมถึงการเริ่มสวดมนต์ไหว้พระ ท่องบทสวดอิติปิโส
เมื่อออกจากบ้าน หรือนานๆ ครั้งก็จะมีเวลานั่งสมาธิบ้าง ซึ่งเท่ากับจะเป็นการฝึกจิตใจไม่ให้วอกแวก นิ่ง สงบ กับสิ่งที่อยู่ปัจจุบันได้ดี เริ่มเรียนรู้งานจากบิดามารดาที่ดำเนินธุรกิจส่งออกเครื่องประดับอัญมณีมาประมาณ 30 ปี ตั้งแต่เธอเรียนอยู่ ป.4
จนกระทั่งครอบครัวได้ต่อยอดธุรกิจนำเข้าและขายส่งทองคำแท่งรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย
เมื่อเธอเรียนจบปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ (การเงิน) เกียรตินิยมอันดับสอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยแห่งเคนท์ สหรัฐอเมริกา ก็ได้รับช่วงต่อให้มาขยายงานและเป็นหัวเรือใหญ่ในอีกธุรกิจหนึ่งของครอบครัวคือ การเป็นนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส) ด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX เริ่มให้เปิดดำเนินการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ด้วยงานที่ต้องแวดล้อมเกี่ยวกับราคาทอง ซึ่งเคลื่อนไหวผันผวนมาก อีกทั้งต้องคอยติดตามปัจจัยหรือข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับราคาทอง ตั้งแต่สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก กองทุนต่างๆ หรือธนาคารกลางแต่ละประเทศ ที่เข้ามาเก็บทองคำเป็นทุนสำรองมากขึ้น การเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน และยังต้องรวมถึงการให้ข้อมูล การบริการให้กับลูกค้าบริษัทอีกต่างๆ นานา รวมถึงการขยายงานด้านการบริการทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันก็ยังต้องเรียนหนังสือในสถาบันต่างๆ เพื่อหาความรู้เพิ่มเติม และติดตามความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม พร้อมกับได้มีสายสัมพันธ์ที่ดีเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ใหญ่ในหลายวงการ จึงเห็นได้ว่าหน้าที่และความรับผิดชอบในงานของเธอมาก ดังนั้น เธอต้องมีมุมส่วนตัวให้กับตัวเองได้ผ่อนคลายจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากมาย
เธอบอกว่ามุมส่วนตัวที่ทำให้รู้สึกว่าผ่อนคลายและปลดปล่อยต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ มากกว่าว่าจะเป็นในเหตุการณ์ไหน
หากอยู่ระหว่างการทำงานที่ต้องวนเวียนในสำนักงาน เมื่อรู้สึกเครียดหรือเหนื่อย เธอเลือกที่จะเข้ามานั่งในห้องประชุมเฉยๆ เพราะเชื่อว่าหากได้นั่งเงียบๆ เพื่อปล่อยให้จิตใจได้ปลดปล่อยไปสักพัก ก็เป็นการเรียกสติกลับมา และการนิ่งก็เหมือนกับการได้ถอยหลังมองย้อนกลับไปดูปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งในหลายๆ ครั้งก็ทำให้เห็นแนวทางที่ต้องแก้ไข
หากระหว่างวันนั้นไม่ได้มีคิวที่ต้องประชุมหรือติดงานอะไร เหมือนรู้สึกเครียดหรือเหนื่อยก็จะออกไปขับรถเล่นหรือไปร้านกาแฟ นั่งดื่มกาแฟไปสักพัก หาชาไข่มุกดื่ม หรือหาอะไรทานแก้เครียด
เธอว่า จริงๆ ก็เป็นเหตุผลเดียวกันที่แค่ขอเปลี่ยนสถานที่ สภาพแวดล้อมใหม่ ปล่อยใจให้นิ่งไม่คิดอะไรมาก เพียงเท่านี้ก็เหมือนการชาร์จแบตย่อมๆ ได้ และท้ายสุดก็ทำให้กลับไปทำงานได้ไม่ยาก คล้ายๆ ให้เรียกสติตัวเองกลับมาแล้วก็ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่


