กินกุ้งแม่น้ำ
จะชวนไปกินกุ้งแม่น้ำกันครับ กุ้งแม่น้ำแม่กลอง ที่ชวนไปกินกุ้งที่นั่นก็เพราะจังหวัดเขาจะจัดงานกินกุ้งแม่น้ำขึ้นในวันที่ 1-2 พ.ค นี้ที่อำเภอบางคณฑี สมุทรสงคราม
จะชวนไปกินกุ้งแม่น้ำกันครับ กุ้งแม่น้ำแม่กลอง ที่ชวนไปกินกุ้งที่นั่นก็เพราะจังหวัดเขาจะจัดงานกินกุ้งแม่น้ำขึ้นในวันที่ 1-2 พ.ค นี้ที่อำเภอบางคณฑี สมุทรสงคราม
โดย...จำลอง บุญสอง
จะชวนไปกินกุ้งแม่น้ำกันครับ กุ้งแม่น้ำแม่กลอง ที่ชวนไปกินกุ้งที่นั่นก็เพราะจังหวัดเขาจะจัดงานกินกุ้งแม่น้ำขึ้นในวันที่ 1-2 พ.ค นี้ที่อำเภอบางคณฑี สมุทรสงคราม
จริงๆแล้วกุ้งแม่น้ำนอกจากจะหากินได้ที่แม่กลองแล้ว ปากแม่น้ำทุกสายในที่ไหลลงทะเลบ้านเราก็มีล้วนมีกุ้งแม่น้ำทุกสายแหละครับ เพราะกุ้งแม่น้ำจะชุกชุมตามปากอ่าวนั่นเอง ที่มันชุกชุมตามปากอ่าวก็เพราะกุ้งแม่น้ำอาศัยอยู่ อาศัยกิน อาศัยเป็นแหล่งกำเนิดไปพร้อมกันนั่นเอง มันออกจะประหลาดที่กุ้งก้ามกรามจำต้องเดินทางมาออกลูกที่น้ำกร่อยหรือน้ำเค็มแล้วทวนน้ำขึ้นมาเจริญเติบโตในน้ำจืด(แบบเดียวกับปลาบางชนิด) ดังนั้นปากแม่น้ำจึงมีความสำคัญ ดังนั้น จังหวัดที่มีสามน้ำอย่างสมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำตาปีฯลฯ จึงมีความสำคัญต่อความเป็น “กุ้งแม่น้ำ”
เรื่องอาหารการกินนี่เป็นส่วนหนึ่งของวงจรการท่องเที่ยวครับ คือนอกจากที่เที่ยว ที่นอน ของฝาก สปาแล้ว ที่กินนี่ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้เรื่องใดๆที่กล่าวมา
กุ้งแม่น้ำ น่ากินยังไง ผมคงตอบให้ไม่ได้ ถึงตอบได้ ก็ไม่ควรตอบไปให้มากความ ที่กล่าวอย่างนั้นก็เพราะต้องการให้คุณไปกินเอง การไปกินเองคือการไปรับประสบการณ์ตรง ประสบการณ์ตรงคือกระบวนการเรียนรู้ที่ดีที่สุดของทุกๆคนนั่นเอง
กว้างๆง่ายๆก็คือเนื้อหนั่นแน่นเหนียวหนึบ รสชาติดีกว่ากุ้งที่ไม่ใช่กุ้งแม่น้ำนั่นเอง กุ้งแม่น้ำเลี้ยงถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกันผมรับรองว่ายังไงๆก็อร่อยไม่เท่า ปลาเลี้ยงกับปลาธรรมชาติรสชาติต่างกันยังไง หมูเลี้ยงกับหมูธรรมชาติรสชาติต่างกันยังไงผมว่านักกินปากฉมังคงรู้ดี
ผมไปคุยกับสองสามีภรรยาที่เกี่ยวข้องกับวงการกุ้งคือ คุณนันทพร กลิ่นมาลีกับคุณสุกร ผู้เป็นสามีเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณสุกรีเคยเป็นนักตกกุ้งมือเยี่ยมของแม่กลองมาก่อน ส่วนภรรยาเป็นนักซื้อกุ้งตัวยง ซื้อเอาไปขาย ขายให้ร้านค้า ภัตราคาร ทั่วไปและที่เล็กๆแต่มีความสำคัญต่อวงการกุ้งก็คือเป็นผู้ขายแม่พันธุ์ให้กับคนเพาะเลี้ยงที่มาจากสุพรรณ บางปะกงและที่อื่นๆเอาไปต่อยอด คือเอาไปเพาะเลี้ยงและอนุบาลลูกกุ้งขายอีกต่อหนึ่ง
บางครั้งคนซื้อแม่พันธุ์ไม่มา ทั้งสองก็ต้องเก็บกุ้งเอาไว้ในบ่อซีเมนต์ที่มีอ็อกซิเยนต์พ่นอยู่ตลอดเวลา ไม่นานทั้งสองจึงพบว่า หลังจากกุ้งแม่น้ำเขี่ยไข่ออกจากท้อง มันก็กลายเป็นตัว ยุบยั่บไปหมด แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เลี้ยงเองปล่อยลงแม่น้ำไปเลย
ท้ายที่สุดก็ได้รับคำแนะนำว่าเมื่อซื้อแม่กุ้งไข่มาแล้ว ก็ให้เอามาขังไว้ในกระชังในแม่น้ำแม่กลองเลย ทั้งนี้ก็เพื่อให้กุ้งเขี่ยไข่ของมันลงไปในแม่น้ำเอง การปล่อยให้อยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆน่าจะเป็นการช่วยแพร่พันธุ์กุ้งได้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย ซึ่งทั้งคู่ก็เห็นดีด้วยและทำกันมาตั้งแต่ปี 2549 ตอนนี้ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ว่าราชการจังหวัดคือเอาเงินงบประมาณไปซื้อกุ้งมาปล่อยลงในแม่น้ำแม่กลองให้คนตกกุ้งมีงานทำ คนกินก็ได้กินกุ้งอร่อยๆทุกๆปี
ตอนนี้ทั้งคู่นอกจากจะเป็นเจ้าของกระชังแพร่พันธุ์กุ้งแม่น้ำแล้ว ยังเป็นร้านอาหารและโฮมสเตย์ไปด้วย(เมนูที่แนะนำก็คือกุ้งแม่น้ำย่างกับกุ้งแม่น้ำหลน)
ผมถามน้องกอล์ฟ เกรียงไกร อ่วมด้วง นักตกกุ้งมือฉมังของลุ่มน้ำแม่กลองที่คุยด้วยว่า กุ้งนี่ตกยากไหม(ผมไม่เคยตกกุ้งเคยตกแต่ปลา) เขาบอกว่าการตกกุ้งต้องใช้สมาธิเพราะกุ้งกินอาหารนิ่มมากไม่เหมือนกับปลาที่ฉวยแล้วดึงเหยื่อกระตุกสายเบ็ดทำให้รู้ง่าย แต่ถึงรู้ว่ากุ้งกำลังมากินเบ็ดถ้าคนไม่ชำนาญก็ไม่รู้ว่ามันกินเข้าไปแล้วหรือยัง เพราะถ้ายังไม่กินเรายกเบ็ดขึ้นมาก็ได้แต่สายเปล่าแน่นอน
เขาบอกว่าบางช่วงกุ้งจะไม่กินเหยื่อโดยเฉพาะช่วงน้ำใส และช่วงฤดูน้ำที่มีน้ำหลากลงมาจากเมืองืองกาญจน์ น้ำเหล่านี้จะพัดพาเอาสารเคมี ยาฆ่าหญ้าและน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมลงมาด้วย
“ไม่ใช่แต่กุ้งตาย ปู ปลาก็ตายหมด”
กอล์ฟบอกว่าการมีอาชีพตกกุ้งดีกว่าไปทำงานในโรงงาน เพราะไม่ต้องเข้างานเป็นเวลา ราคากุ้งก็ดี วันหนึ่งๆ ได้กุ้งสักกิโลสองกิโลก็สามารถเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียได้แล้ว ราคากุ้งใหญ่ขนาด 3 ตัวกิโล ราคาไม่ต่ำกว่ากิโลละ 500 บาท
คุณสุกรีกล่าวถึงกุ้งแม่น้ำว่าเป็นพันธุ์เดียวกันหมด แต่ด้วยวัยที่แตกต่างกันจึงทำให้กุ้งมีลักษณะที่ต่างกัน กล่าวคือกุ้งวัยกลางๆเรียกว่ากุ้งก้ามเทียนเพราะปลายก้ามสีเหลืองสั้น ต่อมาก็เป็นกุ้งก้ามเกลี้ยงคือก้ามเหลืองออกน้ำเงิน หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นกุ้งก้ามกรามที่ก้ามออกสีน้ำเงิน ยาว ซึ่งเป็นกุ้งที่ขายได้ราคาดีมาก
เขาเปรียบเทียบกุ้งเลี้ยงกับกุ้งแม่น้ำว่า กุ้งเลี้ยงเนื้อจะนิ่มยุ่ย ส่วนกุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นเพราะอยู่ในสายน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา(ตามน้ำขึ้นและน้ำลงของทะเล) กุ้งเลี้ยงจับขึ้นมาเดี๋ยวเดียวก็ตายถึงแม้มี อ็อกซิเยนต์ให้ก็ตาม ส่วนกุ้งแม่น้ำภายใต้สภาพน้ำเดียวกันสามารถขังไว้ได้ถึง 1 เดือนทีเดียว(แต่ต้องถ่ายน้ำให้มันบ่อยๆ)
กอล์ฟบอกว่าหน้าหนาวกุ้งแม่น้ำอร่อยที่สุดเพราะเป็นกุ้งเลนที่มีธาตุอาหารให้แพลงตอนชุกชุม แพลงตอนก็เป็นอาหารของ ปู ปลาและกุ้ง (แบบเดียวกับปลาทูก้นอ่าวเป๊ะ ปลาทูไทยถ้าหลุดไปจากอ่าวประจวบไม่มีดินเลนเนื้อปลาจะอร่อยไม่เท่าปลาแถบดินเลน) สุกรีบอกว่ามีคนคิดเมนูในการเอากุ้งมาทำอาหารเยอะแต่ที่ต้องสั่งแน่ๆก็คือ กุ้งย่าง กุ้งต้มยำ ส่วนกุ้งหลนคนยังไม่ค่อยรู้จัก(ผมยืนยันว่าอร่อยแน่นอน)
สมาชิกชมรมตกกุ้งแม่น้ำของสุกรีและภรรยามีถึง 100 คนจากคนตกกุ้งจริง 300 คน รายได้จากกุ้งแม่น้ำในแต่ละวันมากมายไม่แพ้รายได้จากทางอื่น อาชีพนี้ทำให้ “คนตกงาน” กลายมาเป็น “คนตกกุ้ง” มากขึ้น การตกกุ้งทำได้ไม่จำกัดวัย คือตั้งแต่เด็กนักเรียนตัวเล็กไปจนคนแก่ เขายกตัวอย่าง “ตาเขียว” ซึ่งอายุ 70 กว่าว่า มีรายได้ถึงวันละ 700-800 บาททีเดียว
เขาบอกว่าปัญหาของคนตกกุ้งก็คือพวกใช้อวนล้อม พวกใช้ยาเบื่อกุ้ง เพราะพวกนี้ทำลายสิ่งแวดล้อมและตัวอ่อนไปหมดจนพวกเขาต้องหามาตรการในการจัดการกับพวกนี้
นายกเทศมนตรีบางคณฑี สมภพ รัตนไพทูรย์ เจ้าของงานงานกินกุ้งแม่น้ำ เข้ามาที่ “บ้านกุ้งแม่น้ำ” ที่เราสนทนากันอยู่พอดี
ท่านบอกว่าถึงแม้จะเป็นคนที่นี่แต่ใม่รู้เรื่องกุ้งมากนักเพราะที่บ้านค้าขายอย่างอื่น ที่จัดงานขึ้นมาก็เพราะอยากจะโปรโมทตลาดน้ำบางน้อยด้วย ท่านว่าตลาดน้ำบางน้อยของอำเภอบางคณฑี อยู่กึ่งกลางของ ราชบุรี ดำเนินสะดวกและอัมพวา มีทั้งวัดทั้งวาไม่แพ้อัมพวาและดำเนินสะดวก มีทั้งอู่ต่อเรือ(ตอนนี้เปลี่ยนไปต่อบ้านแทน) มีอาหารการกินทุกอย่าง(รวมถึงแกงกะรอก ศัตรูของชาวสวนด้วย)
นายกฯบอกว่า งานนี้กุ้งเลี้ยงห้ามเอามาขายเด็ดขาด เพราะคณะกรรมการเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกุ้งทั้งนั้น แค่มองภายนอกก็ดูออกแล้ว
ว่างๆหรือเบื่อสงครามสีแดง-เหลือง(เสื้อหลากสีคือเหลืองแปลง) ก็มากินกุ้งแม่น้ำกันได้ที่ตลาดน้ำบางน้อย อำเภอบางคณฑีสมุทรสงครามในวัน “เมยเดย์” นี้ ขากลับก็ซื้อปลาทู อาหารทะเลกลับไปตุนกินที่บ้านด้วย เที่ยวให้สนุกในขณะที่ยังมีโอกาสเที่ยว เพราะหลังจากนี้ไป “สงครามสี” “ยาว” แน่นอน
ขอบคุณนายกอัมพวา นายกบางคณฑีและบ้านกุ้งแม่น้ำ ใครสนใจไปกินกุ้งแม่น้ำก็ลองขอข้อมูลได้ที่บ้านกุ้งแม่น้ำหมายเลขโทรศัพท์ 081-745-3318 ที่นั่นเขามีที่พักและอาหารด้วยเพราะเป็นโฮมสเตย์


