ความรัก เฟซบุ๊ก และการจัดการ

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

คุณเชื่อหรือไม่ว่า การสื่อสารความรัก ความคิดถึง หรือความห่วงใย ออกมาเป็นถ้อยคำถึงคนพิเศษของหัวใจ มันต้องใช้การจัดการที่ถูกวิธี ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ทรงพลัง โดยเฉพาะการสื่อสารถ้อยคำผ่านทางเฟซบุ๊ก ยิ่งต้องรู้จังหวะจะโคน และไม่ทำอะไรที่ส่งผลเสียต่อความรัก

สถานการณ์

“เนียร์” เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเอาการเอางาน ยิ่งเขาทำงานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เขายิ่งต้องทุ่มเทให้กับงานมากถึงมากที่สุด จนเขาแทบจะไม่มีเวลาให้ความสำคัญกับแฟนของเขาเลย ปกติเขาจะโทรหาแฟนบ้าง ไม่โทรบ้าง เจอบ้าง ไม่เจอบ้าง ทำให้ความสม่ำเสมอขาดหาย ยิ่งแฟนสาวของเขาเป็นผู้หญิงติดเฟซบุ๊ก ใช้เฟซบุ๊กอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้เนียร์ถูกเรียกร้องความรัก ความคิดถึง และความห่วงใยผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่เสมอๆ ในเมื่อคนหนึ่งต้องการมาก อีกคนให้ได้น้อย เลยกลายเป็นว่าความรักระหว่างเนียร์กับแฟนสาว เดินสวนทางกันตลอดเวลา และมันเริ่มกลายเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันจะบรรจบกันได้

แล้ววันระเบิดลงก็ได้เดินทางมาถึง มันเป็นวันที่แฟนสาวของเนียร์แจกแจงความรักอันชืดชาลงในเฟซบุ๊กแบบยาวเหยียด มีคนมากดไลค์ให้เยอะมาก บางคนก็คอมเมนต์ลงไป บ้างก็ให้ข้อคิด ให้กำลังใจ บ้างก็แนะนำให้เลิกกันไปเลย เมื่อเนียร์ได้เข้ามาอ่าน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จะพิมพ์อะไรลงไปก็กลัวจะกลายเป็นสงครามออนไลน์ ที่สุดท้ายจะกลายเป็นผลเสียต่อตัวเอง แฟนสาว และความรัก จะนัดให้มาเจอตัวต่อตัวเพื่อเคลียร์กัน ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะวันนั้นเป็นวันปิดบัญชี จะโทรศัพท์ไปเคลียร์ก็กลัวเรื่องจะยาว จนเบียดบังสมาธิในการทำงาน

ทางออก

ทางออกของปัญหานี้ คือ เราต้องรู้ให้ได้ว่าแฟนของเราต้องการอะไร ถ้าเขาต้องการความรัก ความเอาใจใส่ อีกทั้งความเสมอต้นเสมอปลาย เราต้องให้สิ่งนั้นกับเขา การจะมาบอกว่า ไม่มีเวลา มันคือข้ออ้าง เราทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด อยู่ที่เราจะจัดการเวลาของเราอย่างไร การใช้เรื่องงานเป็นข้ออ้าง มันไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาอ้างได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราหมดรักแฟนของเราหรือเปล่า นี่คือคำถามที่ต้องมีคำตอบ ถ้าเรายังรักแฟนของเราอยู่ เราต้องไม่ปล่อยให้แฟนรู้สึกเคว้งคว้างว่างเปล่า ยิ่งแฟนของเรามีชีวิตขลุกติดอยู่กับเฟซบุ๊ก เราต้องใช้เฟซบุ๊กเป็นสะพานเชื่อมความรักและความสัมพันธ์ให้มากที่สุด ต้องวางแผนไว้ว่า 1 วัน เราจะเชื่อมความสัมพันธ์กับแฟนของเราในช่วงเวลาใด เวลาตื่นนอน ก่อนเวลาทำงาน พักเที่ยง ก่อนเวลาเลิกงาน ตอนกลับถึงบ้าน และก่อนนอน นี่คือช่วงเวลาที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนาการสื่อสารจากแฟนของตัวเองมากที่สุด นอกจากนั้น จะไปทำงานหรือทำอะไร ก็เชิญทำได้เลย ผู้หญิงไม่งี่เง่าไปถ่วงเอาเวลาเหล่านั้นมาปู้ยี่ปู้ยำหรอก

เมื่อรู้เวลาแล้ว ก็ต้องรู้จักครีเอตถ้อยคำที่ทำให้แฟนรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยในความรัก ไม่หวานเว่อร์ แต่ก็ไม่แห้งแล้ง เล็กๆ น้อยๆ ที่คอยทำให้รู้สึกดี เราสามารถสื่อสารได้ ยิ่งถ้อยคำที่ทำให้แปลกประหลาดใจ ยิ่งควรจะมี มีน้อยๆ แต่มีนานๆ ดีที่สุด เมื่อทำได้อย่างนี้ รับรองว่าปัญหาที่เคยมี ที่เคยเกิดขึ้น มันจะไม่มี และไม่เกิดขึ้นอีกเลย

ว่าแต่...เบื้องต้นกับปัญหานี้ ควรจะรีบโทรศัพท์ไปเคลียร์ อย่ากลัวว่าคุยกันแล้วจะยาว เราควรทำให้อารมณ์แฟนสาวดีขึ้นมากกว่าแย่ลง และแย่ลง แล้วหาวันนัดไปทานข้าว ดูหนัง และหลังจากนั้นก็ส่งถ้อยคำความรู้สึกดีๆ ผ่านทางเฟซบุ๊กเป็นการตบท้าย ที่เหลือคือ อย่ายึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างที่เคยเป็น

Ask the expert

Q : เราจะสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูกได้อย่างไร

A : ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันพัฒนาเด็ก อินไซต์คิดส์ (www.insightkids.co.th) ให้คำแนะนำว่า เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกให้เด็กๆ ควรเริ่มจากการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตรในห้องเรียน เพื่อให้เด็กๆ พัฒนาความสามารถทางอารมณ์และสังคมในด้านความมั่นใจในตัวเอง และช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็ก โดยการเสริมสร้างพฤติกรรมที่เหมาะสมให้แก่เด็กๆ รวมถึงการรู้วิธีการสนับสนุนพฤติกรรมที่เหมาะสมของเด็กๆ ซึ่งมีผลช่วยในการพัฒนาความสามารถทางอารมณ์และสังคมของเด็กในด้านการมีวินัยในตัวเอง ความรับผิดชอบ การเคารพในสิทธิของผู้อื่น การควบคุมอารมณ์ การแบ่งปัน การแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าและการตัดสินใจ ซึ่งความสามารถทางอารมณ์และสังคมเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำเด็กๆ ไปสู่ความสำเร็จในโรงเรียน ในหน้าที่การงาน และในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างปกติสุข

He Said / She Said

ป้องพนักงานบริษัท

“ผมเป็นผู้ชายแปลกหรือเปล่าไม่รู้ ที่ชอบผู้หญิงหัวโบราณ (หัวเราะ) ชอบผู้หญิงเรียบร้อย ทำกับข้าวเก่ง ไม่ชอบช็อปปิ้ง แต่ชอบซื้อตำราทำอาหาร ผมว่าผมคงจะเจริญอาหารดี (หัวเราะ)”

เมย์พนักงานบริษัท

“ชอบผู้ชายเฉิ่มๆ (หัวเราะ) เพื่อนๆ บอกว่าเรานั้นซ่า ต้องได้คู่แบบตรงกันข้ามถึงจะเหมาะ สเปกเราก็เลยต้องเป็นผู้ชายนิ่งๆ เฉิ่มๆ ดิฉันว่ายุคสมัยนี้คงจะเหลือผู้ชายบุคลิกแบบนี้น้อยเต็มทีแล้วมั้งคะ”

Quote

“หัดตั้งใจฟังคนอื่น และปฏิบัติต่อแต่ละคนอย่างสมควร ในแบบที่เราคิดว่าเขาน่าจะต้องการ ทุกๆ คนในโลกนี้ล้วนมีส่วนที่ดีงาม อย่าเพิ่งไปตัดสินว่าเขาเลวก่อนที่จะได้พูดคุยทำความเข้าใจกับเขา – เรื่องนี้ผมไม่ได้คิดเองหรอก แม่ผมสอนมาน่ะ”

ฌอน บีน นักแสดงอังกฤษ