ภัตตาคารริมถนน อิ่ม อร่อย และถูก

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

วันที่ข้าวของแพงขึ้นอย่างน่าใจหาย บรรดาร้านอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกงก๋วยเตี๋ยวทั้งหลาย พากันปรับราคาขึ้นถ้วนหน้า

ทว่า ยังมีร้านอาหารเล็กๆ อยู่ไม่กี่ร้านในเมืองกรุงที่สวนกระแสขายในราคาถูกแสนถูก แหกกฎการทำธุรกิจด้วยการขายโดยไม่หวังผลกำไรสูงสุด เพียงแค่เลี้ยงตัวเองได้ไม่ลำบากลำบน จุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ให้ลูกค้าอีกหลายชีวิตได้อิ่มปากอิ่มท้องในราคาย่อมเยา

บุฟเฟต์เจ๊อุไร ขวัญใจคนยาก

ดังเช่น “ร้านข้าวแกงบุฟเฟต์เจ๊อุไร” ร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร ริมถนนเลียบทางรถไฟมักกะสัน เห็นอย่างนี้ นี่คือร้านดังที่เหล่าคนหาเช้ากินค่ำยกย่องให้เป็นร้านข้าวแกงขวัญใจคนยากอันดับหนึ่งของเมืองกรุงเลยก็ว่าได้

จุดเด่นของร้านคือ ขายแบบบุฟเฟต์ ตักเอง เติมเองได้ไม่อั้นในราคาเพียง 30 บาท แม้ปัจจุบันจะเปิดมานาน 5 ปีแล้ว แต่ยังขายดิบขายดีเหมือนเดิม

“ลูกค้าขาประจำส่วนใหญ่เป็นคนขับแท็กซี่ พนักงานส่งเอกสาร วินมอเตอร์ไซค์ เคยถามเขาว่าทำไมชอบมาที่นี่ เขาบอกร้านอื่นขายแพงจนกินไม่ลง ฝากท้องไว้ร้านป้าดีกว่า มื้อเดียวอิ่มไปถึงพรุ่งนี้” คำบอกเล่าเคล้าเสียงหัวเราะของป้าอุไร หรือ ไพบูลย์ แดงอุไร วัย 56 ปี เจ้าของร้านข้าวแกงบุฟเฟต์เจ๊อุไร ขณะมองดูผู้คนเข้าแถวถือทัพพีตักข้าวสวย ตักแกงร้อนๆ ในหม้อลงจานจนพูน

ลูกค้าแฟนพันธุ์แท้อย่าง ไพบูลย์ เชิดพานิชย์ โชเฟอร์แท็กซี่ วัย 53 ปี ยืนยันอีกเสียงว่ากินร้านนี้มื้อเดียวอิ่มไปทั้งวัน

“ในแวดวงคนขับแท็กซี่จะรู้หมดว่าในกรุงเทพฯ ร้านไหนดี ร้านไหนถูก ร้านนี้ถือว่าช่วยคนหาเช้ากินค่ำได้เยอะ เงิน 30 บาท กินเยอะเท่าไหร่ก็ได้ มนุษย์เราจะกินได้แค่ไหนกันเชียว ผมกินแค่พออิ่ม ตักแบบพอประมาณ 2 จาน แถมขนมหวานอีกสักถ้วย แค่นี้ก็อยู่ไปได้ 7-8 ชั่วโมงแล้ว”

ด้าน วสันต์ ผิวจันทร์ โชเฟอร์แท็กซี่อีกคน บอกว่า เดี๋ยวนี้ราคาอาหารตามร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ ก๋วยเตี๋ยวทะลุถึง 30-35-40 บาทเข้าไปแล้ว รายได้จากการขับแท็กซี่อันน้อยนิด ทำให้ต้องพิถีพิถันในการเลือกเฟ้นอาหารมาบำรุงกระเพาะมากขึ้น

“รายได้ตกวันละ 1,400-1,500 บาท เสียค่าแก๊สราว 400 ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ค่าอาหารประมาณ 130 บาทต่อวัน เฉลี่ยมื้อละ 40 บาท จะกินสักมื้อต้องเลือก อาชีพขับแท็กซี่ทำงานอยู่แต่บนถนน ก็ต้องหาร้านที่มันจอดสะดวก ไม่โดนใบสั่ง บางร้านให้น้อย กินไม่อิ่ม ถ้าท้องไม่อิ่มแล้วสมาธิทำงานการใช้ชีวิตมันจะชอร์ตไปหมด”

ร้านข้าวแกงบุฟเฟต์เจ๊อุไรเปิด 8 โมงเช้า ยัน 5 โมงเย็น ทุกๆ เช้ามืดป้าอุไรจะตื่นตั้งแต่ตี 2 ไปจ่ายตลาด จากนั้นก็กลับมาง่วนปรุงอาหารอยู่ในครัว จนกลายมาเป็นเมนูเด็ดกว่า 15 ชนิด อาทิ แกงเขียวหวานไก่ ลาบหมู ต้มผักกาดดอง แกงส้มผักบุ้ง คะน้าหมูสับ ผัดผักบุ้งไฟแดง ไข่เจียว ผัดกะเพรา ผัดวุ้นเส้น ผัดเปรี้ยวหวาน ต้มยำไก่ และอื่นๆ อีกสารพัด รวมทั้งของหวานอย่างสาคูเปียก กล้วยบวชชี ฟักทองแกงบวดด้วย

“ต้นทุนตกวันละ 1.6 หมื่นบาท ใช้ข้าวสารวันละ 50 โล หมู 50 โล ไก่ 40 โล ไข่ไก่ 40 ถุง (ถุงละ 15 ฟอง) ไหนจะน้ำมัน น้ำปลา น้ำตาลทราย กะปิมาตำน้ำพริกกะปิ แล้วก็พวกผักสดต่างๆ หักค่าใช้จ่ายทั้งหมด จ่ายค่าแรงเด็กอีก 3 คน เหลือกำไร 3,000 กว่าๆ ก็พออยู่ได้”

หลายปีที่ผ่านมา เคยออกรายการทีวีหลายช่อง ลงหนังสือพิมพ์ก็หลายฉบับ ยิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเท่าไหร่ก็ดูเหมือนลูกค้าจะยิ่งแน่นขนัดจนทะลักออกมานอกร้าน เธอยอมรับว่าถึงจะเหนื่อย แต่ก็มีความสุข

“บางคนตักจนพูนจาน บางคนลุกขึ้นมาเติมแล้วเติมอีกสองสามรอบ น่าชื่นใจว่าทุกคนซัดกันเกลี้ยง ไม่มีใครกินเหลือ มันน่าภูมิใจที่เห็นคนเขาไม่โลภ ไม่กินทิ้งกินขว้าง 5 ปีที่เปิดร้านมาถือว่าประสบความสำเร็จมาก ป้าไม่ใช่คนใจแคบ ใครอยากเลียนแบบ อยากเปิดร้านแบบนี้ก็เอาเลย อยากให้มีร้านแบบนี้ใน กทม.เยอะๆ ด้วยซ้ำ แค่มองเห็นคนกินข้าวอิ่ม ควักจ่ายแล้วยังมีกะตังค์เหลือเท่านี้ก็อิ่มใจแล้ว” ป้าอุไร กล่าวเสียงหนักแน่น โดยมีลุงประเสริฐ สามีคู่ทุกข์คู่ยาก ยืนเคียงข้างหน้าหม้อข้าวหม้อแกง

ข้าวแกง 10 บาท เพื่อคนเบี้ยน้อย

มากันที่ “ร้านข้าวแกง 10 บาท” ร้านข้าวราดแกงขนาดย่อมริมถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อคนเบี้ยน้อยหอยน้อย

“ข้าวราดแกงอย่างเดียว 10 บาท กับข้าวสองอย่าง 15 บาท ใส่กล่องกลับบ้านคิด 12 บาท กับข้าวที่นี่เหมือนร้านข้าวแกงทั่วไป มีแกงเขียวหวานไก่ กะเพราหมูสับ ผัดผักรวมมิตร แกงเผ็ดหมูสับใส่หน่อไม้ดอง ผัดเผ็ดหอยลาย แกงจืดมะระ ก็ยังมีพวกปลากรายทอด ปลาทูทอด กุนเชียงทอด เครื่องดื่มเย็นๆ อย่างพวกน้ำกระเจี๊ยบ โอเลี้ยง ชาดำเย็นก็ขายแก้วละ 10 บาท” ป้าแอ๋ว อธิบายอย่างคล่องแคล่ว

ความพิเศษของร้านข้าวแกง 10 บาท ที่ลูกค้าติดอกติดใจ อยู่ตรงรสชาติอร่อย เผ็ดหวานเค็มมันครบเครื่อง ที่สำคัญปริมาณยังเทียบเท่ากับข้าวราดแกงตามท้องตลาดราคา 30 บาท แน่นอนว่าร้านนี้ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างล้นหลาม ตั้งแต่คนหาเช้ากินค่ำ นักศึกษา จนถึงพนักงานออฟฟิศ

“รสชาติใช้ได้ แต่เรื่องปริมาณ เรื่องความอิ่มท้องนี่รับรองว่าคุ้มค่าสุดๆ” ศุภโชค อิ่มสูงเนิน พนักงานรับส่งเอกสาร ลูกค้าขาประจำคอนเฟิร์ม

กำไรคนกรุง ก๋วยเตี๋ยว 5 บาท

ภายในซอยติวานนท์ 41 ย่านสนามบินน้ำ ก็มีร้านอาหารที่ได้รับการบอกปากต่อปากกันอย่างแพร่หลายในเรื่องของใจคอกว้างขวาง ร้านนี้ชื่อว่า “กำไรคนกรุง” หรือที่ใครๆ รู้จักกันดีในชื่อ “ก๋วยเตี๋ยว 5 บาท” คำเรียกขานดังกล่าวมาจากการที่ร้านนี้เรียกเสียงฮือฮาด้วยการขายก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกในราคาชามละ 5 บาทเท่านั้น

“ผมใช้เงินกว่า 5 แสนบาท ลงทุนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวกำไรคนกรุง ออกแบบให้โปร่งโล่งสบาย หลังคาสูงมุงจาก โต๊ะเก้าอี้ไม้เรียงเป็นระเบียบ รองรับลูกค้าได้ 40 คน ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกเป็นไฮไลต์ของที่นี่ มีตั้งแต่ใหญ่ 30 บาท กลาง 25 บาท และชามเล็กสุด 5 บาท เราจะใส่ทั้งเส้น เนื้อหมู ที่ทำมาจากสะโพกหมูนำมาหมักแล้วลวกให้สุก ใส่ผักสด ใส่ลูกชิ้นหมูด้วยครับ” ไตรพล นาคสมบูรณ์ เจ้าของร้านหนุ่ม รับประกันความคุ้มค่า

ความเห็นจากลูกค้า ณัฐพร แสงน้ำไทย บอกสั้นๆ ว่า “ชามละ 5 บาท แต่คุณภาพดี ปริมาณพอเพียง กินชามเดียวก็รองท้องได้ค่ะ”

นอกจากก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกที่ขึ้นชื่อ ทางร้านยังนำเสนอเมนูน่าลิ้มลองอื่นๆ เช่น หมูย่างเสือใหญ่ หมูตกครก เปาะเปี๊ยะทอดปากเซไก่ทอดสมุนไพร เป็นต้น

สู้แค่หมด อิ่มในราคาเป็นธรรม

อีกสักร้านดีไหม ร้านชื่อเท่ๆ “สู้แค่หมด” ละแวกคลอง 9 เขตหนองจอก ร้านอาหารตามสั่งที่ขายทุกอย่างในราคา 10 บาทเท่านั้น โดยแม่ค้าชาวมุสลิมนาม สุทธิวา วงค์นุ้ย ที่มาของร้านสู้แค่หมด มาจากเธอและครอบครัวยึดมั่นหนึ่งในคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัดมาตลอด คือ การเป็นผู้ให้

“ร้านสู้แค่หมด ขายจานละ 10 บาทมาตลอด ลูกค้าเกิดจากการบอกกันแบบปากต่อปากของกลุ่มนักปั่นจักรยานที่ปั่นแวะเวียนมาชิม ความตั้งใจของเราที่ต้องการจะเป็นผู้ให้โดยไม่ได้คาดหวังผลกำไร เพียงแค่ให้พอมีรายได้ คือคนกินและคนขายได้เหมือนกัน คนขายได้กำไรบ้างจากการขายจำนวนหลายชาม และคนกินก็ได้อิ่มในราคาที่เป็นธรรม”

เมนูเด็ดของร้านมีตั้งแต่โรตีมะตะบะ ก๋วยเตี๋ยวไก่ เป็ด เนื้อไก่กระเทียม ผัดกะเพราไก่ ทุกอย่างขาย 10 บาท ยกเว้นมีไข่ดาว หรือต้องการเพิ่มแบบพิเศษ ขายในราคาจานละ 20 บาท

“มีความสุขมาก แม้ว่ารายได้จะไม่มากเหมือนในอดีต แต่สุขที่เราได้เดินตามแนวทางของศาสนาอิสลาม ในราคาเท่านี้ รสชาติแบบนี้ ถ้าพอใจเขาก็จะกลับมากินอีก” สุทธิวา เคยให้สัมภาษณ์ไว้

ในภาวะข้าวยากหมากแพงทุกหย่อมหญ้า ร้านทั้งหมดที่กล่าวมาเปรียบเสมือนแสงสว่างในยามมืดมนของคนหิวโหย

นี่คือภัตตาคารริมถนน ขวัญใจคนชอบของอร่อยและอิ่มในราคาแสนถูก