ก๋วยเตี๋ยวธรรมะ ชามละ 5 บาท

โดย...ชินวัฒน์ สิงหะ

ทุกๆ วันพระชาวบ้านจะแห่ไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน “กุ๋ยเตี๋ยว กูก็กินกัน ทุกวันพระ” ย่านถนนสายพิษณุโลกบึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก เนืองแน่นจนต้องรอคิวยาวเหยียดเลยทีเดียว เพราะขายถูกชามละ 5 บาท จากปกติ 20 บาท เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ชื่อว่า ฐิติพงศ์ชาญ ทรัพย์เพิ่มพูนทวี หรือบิ๊ก อยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ 2 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

ฐิติพงศ์ชาญ เล่าว่า เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวและไข่เจียวมานานกว่า 2 เดือน และด้วยที่เขาเองชอบปฏิบัติธรรมเป็นกิจวัตร จากเดิมขายก๋วยเตี๋ยวราคาชามละ 20 บาท แต่ลดเหลือเพียง 5 บาทเท่านั้น ส่วนข้าวไข่เจียว จากเดิมจานละ 10 บาท ก็ลดเหลือเพียง 5 บาท สาเหตุที่ยอมลดราคาต่ำกว่าต้นทุน ก็เพื่อต้องการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่ผู้บริโภค ที่สำคัญทำให้ผู้อื่นได้สามารถรับประทานก๋วยเตี๋ยวอร่อยราคาถูกกว่าร้านทั่วไป ได้กินอาหารอร่อยราคาไม่แพง และให้ธรรมะกับลูกค้าในทุกวันพระด้วยเช่นกัน

ฐิติพงศ์ชาญ เล่าต่อว่า ก๋วยเตี๋ยวที่ขายทุกวันพระ ชามละ 5 บาทนั้น ก็ไม่ได้ลดวัตถุดิบหรือขนาดชามแต่อย่างใด เป็นการขายปกติ เพียงลดราคาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นมีเมนูก๋วยเตี๋ยวให้เลือกหลากหลายเมนู ทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูหมัก ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นยาจีน ลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา ใส่ตำลึง ถั่วงอก มีลูกค้าบางรายที่เข้ามากิน และจ่ายเป็นเงินแบงก์พันบาท

“ผมก็บอกกับลูกค้าว่าก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาทเท่านั้น ลูกค้าก็แทบไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง นึกว่าติดป้ายไว้หน้าร้านเฉยๆ จากนั้นเป็นต้นมาทุกวันพระก็จะมีลูกค้ามานั่งกินกันจำนวนมาก ซึ่งผมก็ไม่ได้ขาดทุนการผลิตเท่าใดนัก ซึ่งคิดว่าเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค ขณะเดียวกันหากลูกค้าท่านใดสนใจธรรมะ ก็ยังสามารถพูดคุยเรื่องธรรมะกับผมได้แบบไม่เบื่อหน่ายแถมอิ่มท้อง แถมยังเป็นการสะสมบุญด้วยกัน” พ่อค้าใจบุญเล่าด้วยความภาคภูมิใจ

ฐิติพงศ์ชาญ เล่าอีกว่า ที่เขาสนใจเรื่องธรรมะ เพราะซึมซับมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ที่อยู่ อ.บางระกำ ปู่ของเขาเป็นคนชอบทำบุญ โดยเฉพาะทุกวันพระ ทำให้สนใจปฏิบัติธรรมเรื่อยมาในวัยเด็ก หลังจากเรียนจบและออกหางานทำก็รับจ้างทั่วไป รับจ้างเป็นพิธีกรให้นักการเมืองเวลาเทศกาลหาเสียงบ้าง และค้าขายทั่วไป กระทั่งปี 2552 ได้มาเช่าที่บริเวณนี้ แต่เดิมเคยเป็นที่ทิ้งขยะ จะทำเป็นสวนอาหาร และสุดท้ายก็เปิดเป็นร้านอาหาร ต่อมาลูกค้ามานั่งร้านมากขึ้นก็ร้องขออยากให้เปิดคาราโอเกะ

ตอนแรกก็จัดเป็นร้านคาราโอเกะตอบสนองลูกค้า นำตู้ร้องเพลงมาเปิดให้ลูกค้า ชื่อร้านกุงก้าบาคาราโอเกะ ต่อมามีลูกค้ามานั่งมากขึ้นก็คุยกัน เห็นเป็นคนชอบปฏิบัติธรรม ลูกค้าก็ถามว่าทำไมไม่ปิดร้านทุกวันพระ ก็ปิดร้านคาราโอเกะในทุกวันพระ คนเห็นปฏิบัติธรรมก็สงสัยว่ามาเปิดร้านคาราโอเกะที่เป็นสถานที่อบายมุขทำไม ก็บอกว่าทำหน้าที่ ทำงาน ในร้านไม่มีเด็กผู้หญิงมานั่ง และลูกค้าที่มาก็ชอบคุยเรื่องธรรมะ ยิ่งเมื่อปิดทุกวันพระก็ยิ่งดี ลูกค้ายิ่งชอบ

“ถ้าพร้อมใจกันหยุดทุกวันพระ เดือนละ 4 วัน ก็จะช่วยสังคม ลดรายจ่ายของครอบครัวได้ และวันพระก็จะเป็นวันครอบครัว ต่อมาก็อยากทำร้านขายอาหาร ขายก๋วยเตี๋ยว จึงเปิดซุ้มข้างๆ ขายก๋วยเตี๋ยว “กุ๋ยเตี๋ยว กูก็กินกัน ทุกวันพระ” เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ตั้งใจให้คนทั่วไปได้ที่กินอาหารอร่อยราคาไม่แพง และให้ธรรมะกับลูกค้าทุกวันพระ เมื่อขึ้นป้ายก็ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป” ฐิติพงศ์ชาญ เล่าถึงความตั้งใจเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวราคาถูก

หากผู้ใดสนใจต้องการไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน “กุ๋ยเตี๋ยว กูก็กินกัน ทุกวันพระ” ที่อยู่บริเวณถนนพิษณุโลกบึงพระ ใกล้สี่แยกทางข้ามทางรถไฟตลาดทรัพย์อนันต์ หรือฝั่งเดียวกับห้างโลตัส ก็สามารถไปกินกันได้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะทุกๆ วันพระ ก็จะมีราคาเพียง 5 บาทเท่านั้น หรือโทรไปสอบถามเส้นทางได้ที่ 086-933-0998