สวารอฟสกี้ ผู้นำแห่งโลกคริสตัล

โดย...ฮิเดโกะ

ด้วยปณิธานที่ต้องการส่งมอบความสุขให้ผู้คนผ่านคริสตัล ทำให้นักประดิษฐ์นามว่า แดเนียล สวารอฟสกี้ จึงปฏิวัติอุตสาหกรรมคริสตัล ประดิษฐ์เครื่องมือเพื่อเจียระไนคริสตัลให้มีความสวยงาม ที่สำคัญกว่า 121 ปีที่สวารอฟสกี้ถือกำเนิดขึ้น ไม่มีสักวันที่จะหยุดยั้งการพัฒนาเพื่อรังสรรค์คริสตัลที่สวยงามยิ่งๆ ขึ้นไป

จากนี้คือจุดเริ่มต้นการเดินทางกว่าร้อยปีของสวารอฟสกี้

ปี ค.ศ. 1892 แดเนียล สวารอฟสกี้ นักประดิษฐ์ชาวโบฮีเมียน ผู้เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ ได้ย้ายมาตั้งถิ่นฐาน ณ วัตเทนส์ แคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย ปฏิวัติอุตสาหกรรมคริสตัล ด้วยการประดิษฐ์เครื่องจักรสำหรับเจียระไนและขัดคริสตัลให้มีประกายแวววาวและเหลี่ยมมุมได้สมบูรณ์แบบที่สุด

ปี ค.ศ. 1895 สวารอฟสกี้ก่อตั้งขึ้นที่เมืองวัตเทนส์ แคว้นทิโรล

ปี ค.ศ. 1931 สวารอฟสกี้คิดค้นเทคนิคพิเศษ “ริบบิ้นคริสตัล” เป็นครั้งแรก ซึ่งกลายเป็นก้าวสำคัญในการประยุกต์ใช้คริสตัลที่ทันสมัย รังสรรค์เป็นผลงานอันน่าทึ่งให้แก่เหล่าผู้ผลิตในวงการแฟชั่นและเครื่องประดับ

ปี ค.ศ. 1937 กระจกสะท้อนแสงได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นและความปลอดภัยบนท้องถนน ภายใต้แบรนด์ Swareflex ซึ่งเป็นที่ยอมรับในปัจจุบันด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและความปลอดภัย

ปี ค.ศ. 1956 สวารอฟสกี้ร่วมมือกับ คริสเตียน ดิออร์ พัฒนาเม็ดคริสตัลสี Aurora Borealis ที่มีความสวยงามเปล่งประกาย

ปี ค.ศ. 1965 สวารอฟสกี้ผลิตโคมไฟระย้าเป็นครั้งแรก ซึ่งจดทะเบียนภายใต้แบรนด์ Strass

ปี ค.ศ. 1975 สวารอฟสกี้ได้คิดค้นเทคนิคพิเศษ Hotfix ซึ่งทำให้สามารถนำคริสตัลไปประยุกต์ใช้กับวัสดุที่หลากหลายได้ง่ายและรวดเร็ว

ปี ค.ศ. 1976 คริสตัลรูปหนูตัวน้อย เป็นคอลเลกชันคริสตัลรูปสัตว์ชิ้นแรก ประดิษฐ์ขึ้นขณะที่ช่างฝีมือกำลังต่อชิ้นส่วนโคมไฟระย้า และได้กลายเป็นสินค้าขายดีช่วงกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่อินส์บรูค

ปี ค.ศ. 1977 สวารอฟสกี้เปิดตัวไลน์เครื่องประดับครั้งแรก ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมไปถึงแอกเซสซอรีและสินค้าตั้งโชว์ รวมทั้งแหวนคริสตัลเจียระไน เนอร์วาน่า ซึ่งถือเป็นชิ้นงานซิกเนเจอร์ของสวารอฟสกี้ ที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมแห่งความคลาสสิกร่วมสมัยและแฟชั่นที่ล้ำหน้า

ปี ค.ศ. 1987 เหล่านักสะสมและผู้ที่หลงใหลในคริสตัล ได้ก่อตั้งชมรมคริสตัลสวารอฟสกี้ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกราว 3 แสนคน ใน 120 ประเทศ

ปี ค.ศ. 1993 สวารอฟสกี้ได้พัฒนาเทคนิคการถักทอตาข่ายคริสตัลขึ้น ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากของดีไซเนอร์แบรนด์ดัง อาทิ ดีแอนด์จี ชาเนล และหลุยส์ วิตตอง

ปี ค.ศ. 1995 สวารอฟสกี้เปิดตัว คริสตัล เวิลด์ เพื่อเฉลิมฉลองอาณาจักรแห่งนวัตกรรม และแรงบันดาลใจของสวารอฟสกี้ที่เมืองวัตเทนส์ ประเทศออสเตรีย ปัจจุบันมีเข้าชมมากกว่า 10 ล้านคน

ปี ค.ศ. 2001 สวารอฟสกี้ ครีเอทีฟ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ เปิดขึ้นเพื่อให้คำแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ แรงบันดาลใจ และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า

ปี ค.ศ. 2002 ดีไซเนอร์ชื่อดัง รอน เอราด และทอร์ด บุนต์ ได้ออกแบบโคมระย้าคลาสสิกรูปน้ำตก ชิ้นงานสำคัญในไลน์สวารอฟสกี้ คริสตัล พาเลซ

ปี ค.ศ. 2003 อองเดร เฮลเลอร์ ได้ออกแบบห้องแห่งความมหัศจรรย์ขึ้นที่คริสตัล เวิลด์ ของสวารอฟสกี้ และในปีนี้สวารอฟสกี้ยังได้คิดค้นเทคนิคที่เรียกว่า คริสตัล ฟาบริค ซึ่งสามารถนำคริสตัลขนาดเล็กจำนวนมากมาติดลงบนวัสดุต่างๆ ได้

ปี ค.ศ. 2004 สวารอฟสกี้ได้พัฒนาเทคนิคการเจียระไนคริสตัลที่เรียกว่า Xilion ซึ่งเป็นการเพิ่มเหลี่ยมหน้าตัดเจียระไน ทำให้คริสตัลเปล่งประกายแวววาวเจิดจรัสมากยิ่งขึ้น

ปี ค.ศ. 2008 สวารอฟสกี้ได้เริ่มแปลงโฉมบูติกทั่วโลก ให้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์สุดบรรเจิดในธีม “ป่าคริสตัล” โดยเปิดตัวครั้งแรกที่ร้านแฟล็กชิปสโตร์ในย่านกินซ่า ประเทศญี่ปุ่น และเพื่อให้บูติกได้สะท้อนตัวตนและค่านิยมของบริษัท สวารอฟสกี้ได้ร่วมมือกับ โทคุจิน โยชิโอกะ นักออกแบบผู้สร้างสรรค์แนวคิดของป่าคริสตัลออกมา ด้วยการจัดแสงได้อย่างเหนือจินตนาการ

ปี ค.ศ. 2010 เฟซบุ๊กของสวารอฟสกี้มีแฟนเพจมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก

ปี ค.ศ. 2011 คอลเลกชันแว่นตารวมทั้งเครื่องประดับสำหรับสุภาพบุรุษได้ถือกำเนิดขึ้น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้แบรนด์ Aura by Swarovski

ปี ค.ศ. 2012 คอลเลกชันนาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่บาเซิล เวิลด์ ซึ่งเป็นงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับระดับโลก

ปัจจุบันบริษัท สวารอฟสกี้ ประกอบด้วย 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจผลิตและขายเม็ดคริสตัลให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม และธุรกิจผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปภายใต้แบรนด์สวารอฟกี้ ทั้งเครื่องประดับตกแต่งกาย จิวเวลรี และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน