เรียกเธอว่า ... ราชินีแห่งชาติเกย์เก้งกวาง
คุณคิดว่าใครคือราชินีเพลงตัวจริงเสียงจริงของเกย์เก้งกวาง เป็นราชินีที่ร้องเพลงออกมาจากใจแบบสุดติ่งจิงเกอเบล จนได้เข้าไปในอยู่ในหัวใจ ฮอต & คูล วันนี้มีคำตอบ
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร
คุณคิดว่าใครคือราชินีเพลงตัวจริงเสียงจริงของเกย์เก้งกวาง เป็นราชินีที่ร้องเพลงออกมาจากใจแบบสุดติ่งจิงเกอเบล จนได้เข้าไปในอยู่ในหัวใจ ฮอต & คูล วันนี้มีคำตอบ
“โก ออน นาว โก วอล์ก เอาต์ เดอะ ดอร์ (บลา บลา บลา) ไอ วิว เซอร์ไวฟ์ เฮย์ เฮย์” ใครจะไปคาดคิดว่า เพลง I Will Survive ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 1978 จะกลายเป็นเพลงดิสโก้ที่ฮิตติดหูที่สุด ขายดีที่สุด คนชอบมากที่สุด ถูกจริตเกย์เก้งกวางที่ถูกผู้ชายทิ้งได้ถึงติ่งที่สุด จนทำให้ราชินีผิวดำอย่าง “กลอเรีย เกย์เนอร์” ผู้ร้องเพลงนี้ กลายเป็นคนที่เกย์เก้งกวางเรียกคุณแม่ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
ถ้าถามว่าหญิงสาวบ้านนอกที่เข้ากรุงจนตะกายดาวเป็นราชินีตัวแม่ ที่ทำให้เกย์เก้งกวางปะทุต่อมร้อนแรงออกมาอย่างสุดติ่ง แน่นอนว่า “มาดอนนา” คือหญิงสาวบ้านนอกคนนั้น! ซึ่งจุดที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตก มาจากโชว์ Like a Virgin สุดหวือหวาในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส ปี 1984 ซึ่งเธอใส่ชุดเจ้าสาวเดินควงตุ๊กตาเจ้าบ่าวตัวเท่าคนจริงเดินลงมาจากเค้กก้อนยักษ์ แล้วกลิ้งไปมาด้วยลีลาเย้ายวน มาดอนนาสร้างสถิติด้วยการทำให้เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ยาวนานถึง 6 สัปดาห์ จนทำให้เธอได้กลายเป็นราชินีที่ทั่วโลกรู้จักด้วยลุคอันจัดจ้านร้อนแรงมาจนถึงทุกวันนี้
ถ้า Baby One More Time และ Oops I Did It Again ทำให้เกย์เก้งกวางเต้นเร่า หรือครวญครางไปกับ I’m Not A Girl, Not Yet A Woman ก็ไม่เห็นแปลก เพราะราชินีเพลงแดนซ์อย่าง “บริตนีย์ สเปียส์” เธอเกิดมาเพื่อสั่นสะเทือนวงการ จนทำให้รอยต่อของยุค 90 กับยุค 2000 กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุด แม้ช่วงชีวิตของเธอจะเป๋ลงคลองไปบ้าง แต่ชีวิตของเธอก็สะท้อนให้เห็นว่า ตัวแม่ขบถตัวจริงเสียงจริง โย่ว!
ใครจะคิดว่าปีศาจร้ายที่สามารถทำให้ทุกอย่างขัดแย้งแต่ลงตัวอย่าง “เลดี้ กากา” จะทำให้โลกยุค 2000 สั่นสะเทือนไปทั่วโลกได้ด้วยเพลง ตัวตน เครื่องแต่งกาย และความขบถของเธอ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของคนยุคใหม่ที่ไม่ใส่ใจต่อวิถีแบบเดิมๆ เธอทำให้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเกย์เก้งกวาง ลุกขึ้นมาเป็นตัวของตัวเองอย่างสุดติ่ง เหมือนที่เธอบอกโลกใบนี้ผ่านบทเพลงว่า เมื่อเรา Born This Way กับเส้นทางของเรา เราก็จะเป็นตัวเรา หาใช่เป็นคนอื่นคนใด
มาที่ฝั่งไทยกันบ้าง ใครจะคิดว่านักร้องตามคลับตามบาร์ปลายยุค 60 สู่ยุค 70 ที่ถูกสังคมมองว่าเต้นกินรำกินอย่าง “แดงฉันทนา กิติยพันธ์” กับ “เม้าสุดา ชื่นบาน” สองเพื่อนซี้ จะแหกขนบนักร้องหญิงที่ลุกขึ้นมาเปรี้ยวซ่าท้าทายสังคม ร้องเพลงแรงๆ แต่งตัวแรงๆ อินเนอร์จัดๆ จนถูกจริตเกย์เก้งกวางในยุคสมัยนั้นแบบสุดๆ ผลผลิตของ แดง ฉันทนา ไม่ว่าจะเป็น “เกลียดคนสวย” “กลกามแห่งความรัก” “สวรรค์ชั้นเจ็ด” “มารยา” “ชีวิตบัดซบ” หรือผลผลิตอมตะตลอดกาลของ เม้า สุดา อย่าง “เพลงสุดท้าย” จะกลายเป็นเพลงที่เกย์เก้งกวางไปร้องคาราโอเกะที่ไหน ต้องไม่พลาดร้องเพลงเหล่านี้
หากถามราชินีเพลงแดนซ์ที่ร้อนแรงที่สุด ได้รับความนิยมสูงสุด อัลบั้มเพลงของเธอขายดีเกินล้านตลับ (ในยุคสมัยยังเป็นตลับเทป) ถึง 3 อัลบั้ม ชื่อของ “ติ๊นาคริสติน่า อากีลาร์” คงเป็นชื่อที่การันตีในสิ่งที่พูดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเพลงเร็วหรือเพลงช้า “นินจา” “พลิกล็อค” “เปล่าหรอกนะ” “เลิกเหอะ” “ไม่มีใครขอร้อง” “ไม่ยากหรอก” “เวลาไม่ช่วยอะไร” “รออีกนิดนึง” และอีกมากมายก่ายกองที่เพลงของคริสติน่าได้เข้ามาสะกิดความสาวของเกย์เก้งกวางได้อย่างสุดติ่ง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครโค่นบัลลังก์ราชินีเพลงแดนซ์ของเธอไปได้ ยกเว้นแต่เธอจะเดินลงจากบัลลังก์ด้วยตัวของเธอเอง
พูดถึงคริสติน่าแล้ว ถ้าจะไม่ให้พูดถึง “มาช่า วัฒนพานิช” เห็นจะทำให้เกย์เก้งกวางเคืองจนค้อนเอาได้เป็นแน่ มาช่า เริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงด้วยการแสดงภาพยนตร์ และเมื่อเธอได้ก้าวเข้ามาเป็นนักร้องด้วยลุคสาวโฟล์กร็อก ผมสั้น จับกีตาร์ เธอก็ค่อยๆ อาศัยเวลาเปลี่ยนรูปโฉม พร้อมกับข่าวคราวความรักแบบรักๆ เลิกๆ มั่งล่ะ เป็นมือที่สามบ้างล่ะ กินเด็กบ้างล่ะ ขาปาร์ตี้บ้างล่ะ จนลุคของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสาวซ่าปาร์ตี้ ผมเริ่มยาว และมีเพลงบาดลึกเข้าไปถึงทรวงใน จนทำให้ต่อมความสาวของเกย์เก้งกวางลุกโชนขึ้นมา โดยเฉพาะเพลง “มิวสิค เลิฟเวอร์” ที่เหมาะเจาะลงตัว จนส่งให้มาช่ากลายเป็นนักร้องขวัญใจชาวสีม่วงตราบจนทุกวันนี้
กับผู้หญิงคนนี้ “ใหม่ เจริญปุระ” สาวร็อกเสียงแหบเสน่ห์ ที่ตัวตนของใหม่ เพลงของใหม่ สไตล์การแต่งตัวของใหม่ และลีลาที่จัดจ้านในการแสดงคอนเสิร์ต กลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงใจเกย์เก้งกวางได้สุดติ่ง โดยเฉพาะอัลบั้มที่ทำให้ปะทุองศาเดือด คือ อัลบั้มชุดที่ 3 “ความลับสุดขอบฟ้า” ที่แค่เปิดตัวมาด้วยเพลง “เสียใจได้ยินไหม” ก็สร้างกระแสความแรงได้แบบสุดๆ ต่อมา เพลงในอัลบั้มนี้ “เธอรู้หรือเปล่า” “ไม่มีปัญหา” “หนักเกินไปแล้ว” “สุดฤทธิ์สุดเดช” ฯลฯ ทำให้อัลบั้มนี้ขายดิบขายดีจนพุ่งทะยานไปสู่ 2 ล้านตลับ ทุกวันนี้ใหม่ยังเป็นนักร้องที่มีคอนเสิร์ตมากที่สุด จัดเต็มเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมมากที่สุด สร้างแรงบันดาลใจให้เกย์เก้งกวางลุกขึ้นมาจัดเต็มกับชีวิตได้มากที่สุด อย่างที่ไม่มีใครโค่นเธอได้ลง
สำหรับนักร้องระดับ “ตัวแม่” ที่เกย์เก้งกวางยุคนี้เรียก “คุณแม่” กันทั่วบ้านทั่วเมือง ยุคนี้ถ้าไม่พูดถึงนักร้องดูโออย่าง “นิวจิ๋ว” หรือ “นิวนภัสสร ภูธรใจ” และ “จิ๋วปิยนุช เสือจงพรู” คงเชยระเบิด ยิ่งเพลง “ไม่รักไม่ต้อง” (ในอัลบั้มชุดที่ 3) ดังกระหึ่มทั่วบ้านทั่วเมือง ยิ่งต้องบอกว่า จริตหญิงที่ไม่ต้องมาก ไม่ต้องเยอะ น้อยแต่โดน ที่สื่อผ่านมาในวิธีการร้องและท่าเต้นประกอบเพลง ก็ทำให้เกย์เก้งกวางหัวโปกกะโหลกกะลาลุกขึ้นมาคัฟเวอร์เพลงนี้ลงยูทูบกันเป็นว่าเล่น
“เราสองคนดีใจมาก ที่ผลตอบรับดีมากขนาดนี้ เราไม่เคยคิดว่าเพลงช้าของเราจะมีท่าทาง มีมูฟเมนต์ที่ทำให้เหล่าน้องๆ เกย์เก้งกวางลุกขึ้นมาเต้นตาม และใส่อารมณ์ไปกับเพลงของเราได้มากขนาดนี้ เราคิดว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เราทั้งสองคน รวมทั้งทีมงานทั้งหมด ทำการบ้านกันอย่างหนัก ทุกอย่างที่เราคิด มันออกมาจากตัวตนของเรา มาจากสิ่งที่เราเป็น ซึ่งเราสองคนเป็นคนที่ชัดเจนอยู่แล้ว และเป็นคนตรงไปตรงมาด้วย เนื้อเพลง ท่าเต้น เสื้อผ้าหน้าผม มันเลยชัดเจนและตรงไปตรงมา”
ความแรงของเพลงของนิวจิ๋ว ยิ่งพุ่งทะยาน เมื่อนักร้องที่ชัดเจนกับความเป็นเกย์ไปแล้วอย่าง “ออฟ ปองศักดิ์” นำเพลงไม่รักไม่ต้อง ไปร้องไปเต้นโชว์ตามเวทีต่างๆ จนเจ้าของเพลงยังต้องยอมในความแรงส์ของออฟ
“เรียกได้ว่ารักจริงถึงจัดให้ ก็ดีใจและเป็นเกียรติที่ออฟเอางานเพลงของเราไปร้องไปเต้น ถึงเขาจะแรงกว่าก็ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับคนนี้ เราสองคนยอม (หัวเราะ)”
แกรมมี่ไปแล้ว ต้องมาฟากลาดพร้าว ซอย 15 ที่ตอนนี้ศิลปินสาวสุดฮอตอย่าง “หวายปัญญริสา เธียรประสิทธิ์” “ป๊อบปี้ 321ชัชชญา ส่งเจริญ” หรือค่ายอาร์สยามอย่าง “ใบเตย อาร์สยามสุธีวัน ทวีสิน” ได้กลายเป็น “คุณแม่” ของเกย์เก้งกวางเด็กไปแล้ว
“เราทั้งสามคนบอกได้คำเดียวว่า ดีใจมากที่น้องๆ เกย์เก้งกวางเรียกเราว่าคุณแม่ เราไม่ได้รู้สึกว่าแก่หรืออะไรเลย กลับภูมิใจด้วยซ้ำที่น้องๆ เขามองเห็นคุณค่าในเพลงของเรา ท่าเต้นของเรา ความสามารถของเรา อินเนอร์ของเรา และตัวตนที่ชัดเจนของเรา ซึ่งมันส่งผ่านไปยังน้องๆ ได้”
ทั้งสามคนบอกว่า เมื่อเธอสามารถค้นหากลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ได้จนเจอ ทำให้รู้ว่าเธอจะทำอย่างไรเพื่อให้น้องๆ กลุ่มนี้มีความสุขให้มากที่สุด ชัดเจนในตัวตนและแนวทางของตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งหลังจากนี้เธอทั้งสามจะทำเพลงเพื่อน้องๆ กลุ่มนี้ให้มากขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับหวาย “ห่างกันสักพัก” “รักฉันทำไม” เสียใจแต่ไม่แคร์” คือจุดที่ทำให้หวายก้าวเดินมาสู่เส้นทางการเป็นนักร้องขวัญใจเกย์เก้งกวางเด็กแบบดังสุดขีด จนทำให้มีเด็กเกย์เก้งกวางคัฟเวอร์เพลงของหวายอย่างสุดพลัง แต่ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นน้องก้อง ที่ทำให้กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ จนมีนักร้องอย่าง “เบน ชลาทิศ” ลอกเลียนคาแรกเตอร์ของน้องก้อง จนช่วยย้ำความดังของเพลงของหวายเพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก
และที่ดังถล่มทลายเห็นจะเป็น “รักต้องเปิด (แน่นอก)” ที่ป๊อบปี้และใบเตย ดังพร้อมท่าเต้น ลีลา และอินเนอร์ที่ส่งให้ทั้งเพลง ทั้งคนร้อง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ทั้งเอ็มวีเพลง ทั้งคนไทย ทั้งต่างชาติ คัฟเวอร์ลงยูทูบกันเพียบ ชายจริงหญิงแท้ก็ไม่พลาดการคัฟเวอร์ เกย์เก้งกวางยิ่งคัฟเวอร์แบบสุดพลัง บางคนชอบป๊อบปี้ ก็แต่งเนื้อแต่งตัวและเลียนแบบท่าทางป๊อบปี้ บางคนชอบใบเตย ก็ทำทุกอย่างให้เหมือนใบเตย (บางคนก็ยิ่งกว่าใบเตย) เอาเป็นว่าเมื่อเพลงมันมาถูกที่ถูเวลา ถูกจริตของน้องๆ เกย์เก้งกวาง สองคนนี้เลยเกิดแบบเจิดสุดๆ จนฉุดไม่อยู่
ไม่ว่ายุคสมัยไหน หากนักร้องหญิงร้องเพลงออกมาจากข้างใน จากอินเนอร์ จากตัวตน จากจิตวิญญาณ และภาพรวมทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รวมทั้งคุณภาพของเพลงที่ตั้งใจทำอย่างดีที่สุด ย่อมส่งให้นักร้องคนนั้นก้าวสู่ความเป็นราชินีขวัญใจเกย์เก้งกวางได้โดยง่าย ขอเพียงสัมผัสให้ถึง “หัวใจ” ของกันและกันแค่นั้น แค่นั้นจริงๆ


