ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ความงามที่จักรวาลไม่เคยลืม

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

ถ้าให้คุณนึกถึงนางงามจักรวาล คุณจะนึกถึงใคร?

สำหรับคนในยุค 80 คงต้องนึกถึงผู้หญิงคนนี้ “ปุ๋ยภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” นางสาวไทยประจำปี 2531 ที่เดินทางไปคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลประจำปี 1988 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ในวันที่ 24 พ.ค. 2531

ภรณ์ทิพย์อาจไม่ใช่ตัวเก็งจ๋ามาวินแบบมิสยูเอสเอ (คอร์ทนี่ กิบส์) มิสเม็กซิโก (อมานดา โอลิวาเรส) หรือมิสโดมินิกันรีพับลิค (แพทริเซีย จิมิเนซ) แต่ชาวไทเป สื่อมวลชน พี่เลี้ยงนางงาม และผู้เข้าประกวดอีก 65 คนทั่วโลก ต่างก็เชื่อมั่นว่าภรณ์ทิพย์จะเป็นสาวงามที่ติด 1 ใน 10 และมีโอกาสเป็นผู้คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลคนที่ 37 ไปครอบครอง

ก่อนจะถึงวันตัดสิน ภรณ์ทิพย์ก็คว้ารางวัลแรกมาให้คนไทยได้ชื่นใจเล่น นั่นคือ รางวัลเครื่องแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม โดยผู้ออกแบบชุดนี้ คือ ลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดไทยจักรีฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อวันตัดสินเดินทางมาถึง ภรณ์ทิพย์สามารถเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้ด้วยคะแนนมาเป็นลำดับที่ 4 (รองจากมิสโดมินิกันรีพับลิค มิสยูเอสเอ และมิสโคเรีย) แต่เมื่อการแข่งขันจริงได้เริ่มต้นขึ้น รอบสัมภาษณ์ ภรณ์ทิพย์ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 1 ด้วยการตอบคำถามที่ฉะฉาน และแสดงปฏิภาณไหวพริบได้อย่างเฉียบคม

พิธีกรถามภรณ์ทิพย์ว่า ทำไมเป็นนางสาวไทยแต่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก ภรณ์ทิพย์ ตอบว่า “ฉันเป็นนางสาวไทย แต่ไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ 2 ขวบ ตอนเด็กๆ ฉันฝึกพูดภาษาอังกฤษจากรายการซาเซมี่สตรีท และประทับใจตัวแสดงตัวหนึ่งมาก จึงทำให้พูดได้ดี” เมื่อพิธีกรถามต่อว่า เมื่อเธออยู่ในอเมริกาตั้งแต่ 2 ขวบ จวบจนถึงปัจจุบัน เธอจะเป็นตัวแทนของผู้หญิงไทยได้ดีหรือ และคำตอบที่ภรณ์ทิพย์ตอบ ก็ทำให้คนดูทั่วทั้งฮอลปรบมือให้เธออย่างอื้ออึง เธอตอบว่า “ได้แน่นอน เพราะพ่อแม่ของฉันเป็นคนไทย และครอบครัวของฉันที่อเมริกาก็ใช้ชีวิตแบบไทยๆ ฉันจึงภูมิใจที่จะบอกใครต่อใครว่า ฉันก็เป็นผู้หญิงไทยคนหนึ่ง”

หลังจากรอบสัมภาษณ์ ภรณ์ทิพย์ทำคะแนนมาได้เป็นอันดับ 1 ทั้งในรอบชุดว่ายน้ำ (ทั้งที่ในรอบคัดเลือก เธอทำคะแนนมาเป็นลำดับที่ 11) และรอบชุดราตรี ซึ่งเมื่อรวมคะแนนทั้งหมดแล้ว ภรณ์ทิพย์มีคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 อย่างไม่ต้องสงสัย

นั่นหมายความว่า ภรณ์ทิพย์สามารถเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี และเป็นที่น่าดีใจที่ในปีนี้ มิสฮ่องกง (พอลลีน หยัง เป่า หลิง) มิสเจแปน (มิซุโฮะ ซะกะงุจิ) มิสโคเรีย (ยุง จุง ชาน) ก็เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายไปพร้อมกับเธอด้วย (เป็นปีแรกที่สาวงามจากเอเชียเข้ารอบ 10 สุดท้าย และทะลวงเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายมาได้พร้อมกัน โดยปล่อยให้สาวงามจากเม็กซิโกเข้ารอบมาด้วยอีก 1)

จนมาถึงรอบที่ตื่นเต้นที่สุด นั่นคือ รอบที่กรรมการ 1 ท่าน จะต้องเลือกเพียง 1 คน ที่จะได้เป็นนางงามจักรวาลคนใหม่ ต่อจาก ซีซิเลีย โบรอคโค นางงามจักรวาลประจำปี 1987 ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงคะแนนและความโดดเด่นที่สุดบนเวทีในเช้าวันนั้น จึงไม่ยากเลยที่กรรมการจะเลือก ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก เป็นผู้ได้มงกุฎรุ่นคลาสสิกไปครอบครองอย่างสมศักดิ์ศรี โดยมีเพื่อนร่วมห้องอย่างมิสโคเรียได้รองอันดับ 1

(ล้อมกรอบ1)

* รางวัลที่ภรณ์ทิพย์ได้รับจากการเป็นนางวามจักรวาลในครั้งนั้น นอกจากมงกุฎเพชรรุ่นคลาสสิก เธอยังได้รับเงิดสด 6 ล้านบาท เสื้อขนมิงค์ รถสปอร์ตยี่ห้อมาเซราติ ซาคาโต้ คันละ 1 ล้านบาท เธอยังได้เดินทางรอบโลกและเป็นนางแบบโฆษณาสินค้าต่างๆ ที่ทางกองประกวดจัดสรรให้

* หลังจากการประกวดได้ผ่านพ้นไป โรเจอร์ นีล ประชาสัมพันธ์ประจำกองประกวด ได้เปรยให้ชาวโลกได้รับรู้ว่า ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก คือนางงามจักรวาลที่ดีที่สุดเท่าที่องค์กรมิสยูนิเวิร์สเคยได้มา เขามีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดนางงามจักรวาลมาหลายคน เพราะต้องพาเธอเหล่านี้เดินทางไปรอบโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจ แต่ก็ไม่มีนางงามจัรวาลคนไหนอ่อนหวาน คล่องแคล่ว และเข้ากับผู้คนได้ดีเท่าเธอ เขาเผยต่อว่า ที่มีคนกระแนะกระแหนว่า ภรณ์ทิพย์สวยสู้มิสยูเอสเอก็ไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าภรณ์ทิพย์ประกวดมิสยูเอสเอ เธอก็จะได้รับตำแหน่งมิสยูเอสเออย่างแน่นอน

* ปัจจุบันภรณ์ทิพย์เป็นคุณแม่ลูกสองอยู่ที่รัฐลอสแองเจลิส สหรัฐ โดยมีลูกชาย 1 คน คือ น้องฌอน ไซมอน และลูกสาว 1 คน คือ น้องโซฟี ไซมอน ซึ่งเกิดจากคู่สมรสที่เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน เฮิร์บ ไซมอน เจ้าของบริษัทพัฒนาไซมอน หนึ่งในหุ้นใหญ่ของธุรกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐ เช่น ห้างนอร์ดสตอร์ม เป็นต้น