posttoday

วัดแขก ศรัทธาแห่งความรัก

14 กรกฎาคม 2556

คนที่ต้องการความรัก หรือว่าต้องการมีบุตร ผมเชื่อว่าสถานที่ที่น่าจะเหมาะในการขอให้สมหวังดังปรารถนาคงไม่พ้นที่นี่แน่ๆ นั่นคือ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี

โดย...สืบสิน / ภาพ กีกี้

คนที่ต้องการความรัก หรือว่าต้องการมีบุตร ผมเชื่อว่าสถานที่ที่น่าจะเหมาะในการขอให้สมหวังดังปรารถนาคงไม่พ้นที่นี่แน่ๆ นั่นคือ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือวัดแขกสีลม ที่หลายคนรู้จัก

ในทุกวันวัดแขกที่ถูกเรียกจนติดปากจะมีผู้เข้าไปสักการะกันมากมาย เป็นวัดนิกายที่ผู้ก่อตั้งนับถือว่าเป็น ศักติ คือ นับถือเทพสตรีเป็นหลัก อย่างพระศรีมหาอุมาเทวี ซึ่งเป็นชายาของพระศิวะ หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า เจ้าแม่อุมา ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระอิศวรด้วย ดังนั้นผู้มีจิตศรัทธาจึงนิยมไปกราบไหว้บูชาและขอพรกันเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความรัก รวมไปถึงเรื่องการขอบุตรอีกด้วย

ว่ากันว่าวัดนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย ร.5 ราว พ.ศ. 24532454 โดยคณะชาวอินเดียใต้ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยนานแล้ว โดยชาวอินเดียที่เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยในบริเวณถนนสีลมนั้นมีทั้งชาวอินเดียที่นับถือศาสนาอิสลาม และชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดู ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการก่อสร้างศาสนสถานเพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาของผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู และเพื่อเป็นที่ประกอบพิธีบูชาพระเป็นเจ้าตามลัทธิความเชื่อของตน นั่นจึงเป็นที่มาของการสร้างเทวสถานพระศรีมหาอุมาเทวีขึ้น ซึ่งวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดในศาสนาฮินดู นิกายศักติ สร้างโดยชาวอินเดียที่อพยพมาจากทางอินเดียตอนใต้ ที่เรียกว่า ชาวทมิฬ ในระยะแรกมีการก่อสร้างเป็นเพียงศาลไม้เล็กๆ เพื่อประดิษฐานองค์พระแม่ศรีมหามารีอัมมัน (พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี) ซึ่งเป็นเทพสตรีที่ชาวทมิฬให้ความเคารพสักการะ

ตามประวัติศาสตร์บอกเล่าว่า นายไวตี ประเดียอะจิ นายนารายเจติ นายโกบาระตี และญาติมิตรที่มีจิตศรัทธา ได้ร่วมใจกันบริจาคเงินเพื่อซื้อที่ดินตรงถนนปั้นหรือบริเวณวัดแขกนี้เพื่อที่จะสร้างเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งที่ดินบริเวณนี้เป็นสวนผักของนางปั้น อุปการโกษากร จำนวน 292 ตารางวา และเมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้มีการจัดตั้งเป็นคณะกรรมการเพื่อบริหารดูแลเทวสถานแห่งนี้ด้วย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2458 ได้มีการจดทะเบียนเทวสถานแห่งนี้ในนาม “มูลนิธิวัดพระศรีมหามารีอัมมัน” และได้มีการนำเทวรูปจากประเทศอินเดียมาประดิษฐานเพิ่มขึ้นจากเมื่อครั้งที่เริ่มสร้างวัด นอกจากนี้ทางคณะกรรมการมูลนิธิยังได้เชิญพราหมณ์จากประเทศอินเดียทางตอนใต้มาทำหน้าที่ในการประกอบพิธีกรรมและบูชาพระเป็นเจ้าต่างๆ ด้วย อีกทั้งทางวัดยังได้มีการพัฒนา ซ่อมแซม และปรับปรุงอาคารสถานที่ต่างๆ ภายในบริเวณวัดอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสวยงามเป็นที่ปรากฏแก่สายตาของทุกท่านดังเช่นในปัจจุบัน

สถาปัตยกรรมของวัดพระศรีมหาอุมาเทวีนี้ ถือว่ามีความงดงามมาก สีสันสดใส สบายใจสบายตา ว่ากันว่าสร้างขึ้นตามรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของอินเดียตอนใต้ โดยมีช่างผู้ชำนาญการชาวทมิฬ รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย เป็นผู้อำนวยการก่อสร้าง จึงทำให้วัดพระศรีมหาอุมาเทวีแห่งนี้มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเทวาลัยในอินเดียทางตอนใต้เป็นอย่างมาก โดยตัววัดประกอบด้วยซุ้มโคปุระจำนวนสองซุ้ม ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออก ซุ้มโคปุระทางด้านทิศตะวันออกจะมีขนาดใหญ่กว่าซุ้มโคปุระทางด้านทิศเหนือ โดยล้อมรอบตัววัดทั้งทางด้านถนนปั้นและถนนสีลมด้วยกำแพงทั้งสองด้าน

ภายในยังมีองค์พระแม่ศรีมหามารีอัมมันประดิษฐานเป็นเทพประธานอยู่กลางโบสถ์ แวดล้อมด้วยพระพิฆเนศ พระขันธกุมาร พระศิวะ พระกฤษณะ พระวิษณุ พระแม่ลักษมี และพระแม่กาลี มีเทวาลัยขนาดเล็กบริเวณกลางลานเทวสถาน ภายในเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ ซึ่งทั้งเป็นการอัญเชิญมาจากอินเดียเมื่อครั้งที่เริ่มสร้างวัดแห่งนี้เลยทีเดียว

สำหรับท่านที่สนใจและอยากที่จะเดินทางไปสักการะพระพิฆเนศและพระเป็นเจ้าองค์อื่นๆ ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก เพราะวัดพระศรีมหาอุมาเทวีแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนสายสำคัญทางเศรษฐกิจ ฉะนั้นการคมนาคมจึงมีให้เลือกหลายรูปแบบ

วัดพระศรีมหาอุมาเทวีจะเปิดให้บูชาตั้งแต่ 06.00-20.00 น. เฉพาะวันศุกร์เปิดถึง 21.00 น. ยกเว้นในช่วงที่มีงานเทศกาลนวราตรี หรือพิธีบูชาประจำปี ซึ่งจัดให้มี 9 วัน จะเปิดให้เข้าได้ถึงเวลา 24.00 น. เลยล่ะครับ

อ่อ อีกประการก็คือ ทั้งดอกไม้ ธูป เทียน กระทั่งของถวายต่างๆ ก็หาซื้อกันได้หน้าวัดเลยล่ะครับ

เจ้าประคู้นขอให้ลูกเจอรักแท้กับเขาเสียทีเถอะครับ สาธุ!!!

ข่าวล่าสุด

รมว.พลังงานรุดช่วยใต้ อัดฉีด 9 แสน หนุนแพทย์-กู้วิกฤตน้ำ