posttoday

ความซื่อสัตย์ต่อศาสนากรณีพระมิตซูโอะ

02 กรกฎาคม 2556

โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง นักวิชาการกฎหมายอิสระ

โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง นักวิชาการกฎหมายอิสระ

ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุหลายเรื่องหลายราว เราชาวพุทธต้องแยกแยะให้ดีว่า กรณีใดควรตำหนิ กรณีใดที่ผู้มีหน้าที่ต้องจัดการ กรณีใดควรเอาอย่าง

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าพระภิกษุในพุทธศาสนาหรือศาสนาใดก็ตาม ถ้ายังเป็นปุถุชนอยู่ แม้จะท่องพระไตรปิฎกหรือคัมภีร์ได้หมด อธิบายธรรมได้คล่องแคล่วพิสดารเพียงใดก็ตาม หากยังไม่หลุดพ้นก็มีโอกาสที่จะสึกหาลาเพศได้ทั้งนั้น

ในขณะที่เมืองไทยมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุ ที่วาติกันก็มีข่าวว่า บาทหลวงอาวุโสทุจริตฉ้อโกงเงินจากธนาคารวาติกันถึง 20 ล้านยูโร

ที่ยกมาไม่มีเจตนาจะให้ร้ายใคร เพียงแต่จะบอกว่า เมื่อยังเป็นปุถุชนย่อมหนีไม่พ้น รัก โลภ โกรธ หลง กิเลสตามธรรมชาติของมนุษย์ไม่เลือกว่าจะเป็นชาติใด ศาสนาใดก็ตาม

ท่านมิตซูโอะ เป็นลูกศิษย์ต่างชาติรุ่นแรกๆ ของหลวงพ่อชา แห่งวัดหนองป่าพง เมื่อท่านเป็นพระ ท่านก็เป็นพระที่เคร่งครัด ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ในกรอบของเพศบรรพชิต

กรณีของท่านมิตซูโอะ ที่ลาสิกขาไปใช้ชีวิตคู่ จึงเป็นเรื่องที่ช็อกวงการพระป่าพอสมควร แต่เมื่อตั้งสติได้แล้ว ส่วนใหญ่ก็เข้าใจในความเป็นจริง เข้าใจสภาพแห่งธรรมชาติของมนุษย์ และกลับยกย่องท่านว่าทำถูกต้องแล้ว

เพื่อนผมเคยไปอินเดียกับท่าน เล่าให้ฟังว่า ท่านนั่งสมาธิได้ทั้งคืน คิดอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้ว่า ทำไมท่านจึงลาสิกขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสึกไปมีครอบครัว

ในความเป็นจริงแต่ไหนแต่ไรมา มีพระสึกอยู่เป็นประจำ ทั้งพรรษามาก พรรษาน้อย ถือเป็นเรื่องปกติครับ จนมีคำโบราณท่านว่า หญิงจะคลอด พระจะสึก ไม่มีใครห้ามได้ แต่ที่ไม่เป็นข่าว ไม่เป็นที่สนใจของคนทั่วไป เพราะเป็นพระธรรมดา ไม่ใช่พระที่มีชื่อเสียง

กรณีท่านมิตซูโอะ เนื่องจากท่านเป็นพระที่ผู้คนจำนวนมากให้ความเคารพเลื่อมใส จึงเป็นที่สนใจ ซึ่งการพิจารณากรณีของท่าน ต้องดูว่าท่านทำผิดธรรมผิดวินัยทั้งทางโลกและทางธรรมหรือไม่ ถ้าอยู่ในกรอบแห่งธรรมวินัย ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย และไม่ใช่เรื่องที่จะต้องจับผิดอะไร ไม่ว่าท่านหรือสตรีของท่าน เหตุผลต่างๆ ท่านได้อธิบายด้วยตัวท่านเองทั้งหนังสือและคลิปเสียงแล้ว จึงไม่ต้องไปสงสัยอะไรอีก

สิ่งที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติมาในเพศนักบวช ท่านไม่ได้ทำความเสียหายใดๆ ให้พระศาสนา ไม่เคยประพฤติทำให้ศาสนามัวหมอง ท่านเป็นนักปฏิบัติ เป็นนักเทศน์ และเป็นพระผู้เผยแผ่พระศาสนา จนเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปฏิบัติ

เมื่อท่านพบเนื้อคู่ และท่านไม่สามารถตัดให้ขาดได้ ท่านก็ซื่อสัตย์ต่อพระศาสนา ไม่ยอมมัวหมองหรือละเมิดศีล ไม่ยอมทำลายความบริสุทธิ์ของเพศบรรพชิต เมื่อท่านอยู่ในเพศนักบวชไม่ได้ ท่านก็ลาสิกขาใช้ชีวิตทางโลก และถ้าท่านประกอบสัมมาชีพ ก็เป็นสิ่งที่ต้องยกย่อง

พระชาวต่างชาติ ท่านมักจะซื่อสัตย์ต่อพระศาสนา เมื่อมีเหตุที่ทำให้ท่านอยู่ในเพศนักบวชไม่ได้ ท่านก็ออกมาใช้ชีวิตชาวบ้าน มีพระต่างชาติหลายท่านที่ลาสิกขาออกมาใช้ชีวิต|ฆราวาส ซึ่งดีกว่าอลัชชีบางคนที่หมดสิ้นความเป็นพระแล้ว แต่ยังใช้เครื่องแบบพระพุทธเจ้าทำมาหากิน ใช้ผ้าเหลืองหลอกลวงชาวบ้าน|หากินกับศรัทธาของชาวพุทธ เพราะเป็นการหากินที่ง่ายมากๆ ไม่มีต้นทุน คนมาทำบุญเท่าไรก็กำไรเท่านั้น เช่น กรณียันตระ หรือนิกร ที่เป็นข่าวอื้อฉาว ทำให้คนหมดศรัทธาในพระศาสนา

สำหรับท่านมิตซูโอะ ท่านรักษาพระศาสนา จึงไม่ยอมใช้ผ้าเหลืองทำมาหากิน และเท่าที่ทราบ ท่านไม่ได้แตะต้องเงินบริจาคที่ท่านได้รับ ไม่ว่าที่วัดสุนันทวนาราม กาญจนบุรี หรือที่มูลนิธิมายาโคตมี ที่กรุงเทพฯ ท่านไม่หาข้อแก้ตัวว่า เป็นเงินที่ญาติโยมถวายท่านส่วนตัว เพราะท่านทราบดีว่า แม้จะถวายส่วนตัวก็ถวายเพราะท่านเป็นสงฆ์ ถวายภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ไม่ใช่ถวายให้นายมิตซูโอะ

จึงต้องชื่นชมท่าน มากกว่าจะไปตำหนิท่าน และจริงๆ แล้ว ก็ไม่มีเหตุใดๆ ที่จะตำหนิท่านได้เลย เพราะท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งทางโลกและทางธรรม

เรื่องของพระกับสตรีนั้น มีมานานแล้ว และจะมีต่อไปจนสิ้นพระศาสนา ครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่หลายท่านที่เรารู้จักกันดี ก็เคยผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากเกี่ยวกับเนื้อคู่มาแล้ว

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร พระที่ได้รับการยอมรับว่ามีพลังจิตสูงยิ่ง พลังจิตแรงขนาดเพ่งเครื่องยนต์ของรถยนต์ขณะกำลังวิ่งอยู่ให้หยุดได้ หลวงปู่ฝั้นท่านก็เคยพบเนื้อคู่ของท่าน เมื่อท่านมาอยู่ที่วัดบรมนิวาส ตามประวัติของท่านที่บันทึกไว้ดังนี้

“ระหว่างพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ เรื่องที่ไม่น่าจะเกิด ได้อุบัติขึ้นแก่ท่านโดยบังเอิญ ที่ว่าไม่น่าจะเกิดนั้น ก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสตรีเพศ

เรื่องมีว่า วันหนึ่งพระอาจารย์สิงห์ได้พาท่านไปนมัสการท่านเจ้าคุณ พระปัญญาพิศาลเถระ (หนู) ที่วัดสระปทุม ระหว่างทางได้เดินสวนกับผู้หญิงคนหนึ่ง นับตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา พระอาจารย์ฝั้นก็ลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ลง

ท่านรู้สึกว่า ท่านได้เกิดความรักขึ้นในใจเสียแล้ว ขณะเดียวกัน ท่านก็บอกตัวเองด้วยว่า ท่านจะต้องขจัดความรู้สึกดังกล่าวออกไปเสียให้พ้นจากความรู้สึกนึกคิดให้ได้

กลับวัดบรมนิวาสในวันนั้น ท่านได้นั่งภาวนา พิจารณาแก้ไขตัวเองถึงสามวัน แต่ก็ไม่ได้ผล ใบหน้าของผู้หญิงนั้นยังคงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด จนไม่อาจสลัดให้ออกไปได้ ในที่สุด เมื่อเห็นว่าเป็นการยากที่จะแก้ไขได้ด้วยตัวเองแล้ว ท่านจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านพระอาจารย์สิงห์ฟัง เพื่อให้ช่วยแก้ไข พระอาจารย์สิงห์ได้แนะให้ท่านไปพักในพระอุโบสถ พร้อมกับให้พิจารณาทำความเพียรให้หนักขึ้น

พระอาจารย์ฝั้นได้บำเพ็ญภาวนาอยู่ในพระอุโบสถเป็นเวลาถึง 7 วัน ก็สามารถรู้ชัดถึงบุพเพสันนิวาสแต่ในปางก่อน ว่าผู้หญิงคนนี้กับท่านเคยเป็นสามีภรรยากันมา จึงทำให้เกิดความรู้สึกดังกล่าวขึ้น เมื่อตระหนักในเหตุในผล ท่านก็สามารถตัดขาดลืมผู้หญิงคนนั้นไปได้โดยสิ้นเชิง”

เรื่องของหลวงปู่ฝั้น เป็นที่รู้กันดีในวงกรรมฐาน หญิงที่ท่านเห็นก็เป็นหญิงมีสามี มีลูกแล้ว แต่ท่านก็หลงรักด้วยอำนาจแห่งกรรมที่เคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน

เรื่องอย่างนี้ ถ้าไม่เกิดกับตัวเองก็ยากที่จะเข้าใจ

ท่านมิตซูโอะ ท่านไม่เคยนำเงินที่ญาติโยมถวายไปซื้อรถยนต์ ไม่ว่ารถใช้งานหรือรถหรูๆ ไม่เคยนำไปซื้อหรือเช่าเครื่องบินส่วนตัว ไม่เคยซื้อหรือรับถวายของแบรนด์เนมจากญาติโยม เมื่อเป็นพระ ท่านใช้ชีวิตเรียบง่ายตามปฏิปทาของหลวงพ่อชา

ผมไม่อาจรู้ได้ว่า ท่านมิตซูโอะ ท่านปฏิบัติไปถึงไหนแล้ว เป็นอริยบุคคลหรือไม่ แต่มั่นใจว่าท่านจะใช้ชีวิตฆราวาสที่ถูกต้องตามครรลองแห่งธรรม

ดีกว่าบางคนที่ห่มผ้าเหลืองแต่ประพฤติตนต่ำกว่าฆราวาส

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2