บุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ ทำทุกงานด้วยความจริงใจ

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

พูดถึงแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย อาจมีชื่อของหลายต่อหลายแบรนด์จ่อคิวผุดขึ้นในสมอง แต่แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง “ฮิตาชิ” รวมอยู่ด้วย วันนี้เราจะพาไปรู้จักผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับต้นๆ ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน เขาคือ แมนบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดของฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย)

ด้วยลุคที่ยังหนุ่มเกินคาด ในวัย 30 ปลายๆ กับตำแหน่งที่ไม่ใช่จะได้มาประดับในนามบัตรง่ายๆ เพราะดูแลควบรวมทั้งฝ่ายขายและการตลาด พานให้การสนทนาครั้งนี้ทวีความน่าสนใจขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้นว่า เหตุใดชายหนุ่มอารมณ์ดีตรงหน้าถึงสามารถประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในหน้าที่การงานเพียงนี้ ทั้งที่เขาไม่ใช่เด็กเกียรตินิยม หรือหนุ่มนักเรียนนอก

ผู้บริหารหนุ่มออกตัวก่อนว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า บริษัท ฮิตาชิ กรุ๊ป ประกอบด้วยหลายอุตสาหกรรม มีอยู่ทั้งหมดเกือบ 40 บริษัท ซึ่งในส่วนที่เขารับผิดชอบคือในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์และทิศทางการตลาดในประเทศไทยของเครื่องใช้ไฟฟ้าฮิตาชิ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ในปีนี้จะครบรอบ 15 ปี ที่เขาอยู่ใต้หลังคาฮิตาชิ

“ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะทำงานที่เดียวยาวถึง 15 ปี ตอนแรกตั้งใจจะทำสัก 2 ปี ก็มีคนชวนให้ไปทำที่อื่น ด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า ตอนนั้นผมก็จะไป เลยไปบอกคุณพ่อว่าจะลาออก แต่คุณพ่อกลับบอกให้ผมลองเขียนข้อดีและข้อเสียเปรียบเทียบระหว่างฮิตาชิและบริษัทใหม่ ซึ่งต้องขอบคุณคุณพ่อมาก เพราะตรงนั้นก็เหมือนเป็นจุดที่ทำให้ผมได้หยุดคิด และตัดสินใจอยู่ที่ฮิตาชิต่อมาจนวันนี้”

บอสแมน เล่าต่ออย่างออกรสว่า ปัญหาของเด็กจบใหม่อย่างหนึ่ง คือ ชอบเปลี่ยนงานบ่อย ทำให้ขาดการเรียนรู้อย่างลงลึก และสำหรับตัวเขาเองแม้จะอยู่ที่ฮิตาชิมา 15 ปีแล้ว ก็ยอมรับว่ายังไม่สามารถเรียนรู้ได้หมด เพราะแม้ในช่วง 35 ปีแรก จะสามารถเรียนรู้โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด รู้จักองค์กร คู่ค้า วิธีการทำงาน แต่ในโลกของตลาด ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ดังนั้นการเรียนรู้จึงไม่มีวันหมด และที่สำคัญ สิ่งที่ยากกว่าการเรียนรู้ความรู้ที่มี คือ การต่อยอดความรู้เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ

อีกหนึ่งแรงขับดันสำคัญที่ทำให้ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงยืนหยัดอยู่ในองค์กรนี้ได้ยาวนาน เพราะความประทับใจที่มีต่อฮิตาชิ ซึ่งแม้จะเป็นบริษัทญี่ปุ่น แต่มีความจริงใจกับลูกค้าคนไทย ซึ่งสำหรับบอสแมน ยกให้เป็นกุญแจสำคัญในการทำงาน

“ผมยกตัวอย่าง หม้อหุงข้าวของฮิตาชิ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นบริษัทเดียวที่ออกแบบมาเพื่อหุงข้าวหอมมะลิ เพื่อตอบโจทย์คนไทยโดยเฉพาะ กล่าวคือ แม้หลักการหุงข้าวจะอาศัยน้ำ ข้าวและไฟฟ้า แต่ข้าวแต่ละชนิดก็เหมาะกับปริมาณน้ำและไฟไม่เท่ากัน ยิ่งกว่านั้น ฮิตาชิยังมีจุดยืนไม่ออกแบบสินค้าที่มีฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าจริงๆ ไม่ได้เน้นก้าวตามความทันสมัยของเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในฟากยุโรปอาจไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในเอเชีย”

ย้อนกลับไปในวัยเยาว์ หากมองเผินๆ ด.ช.แมน อาจเป็นเพียงนักกิจกรรมตัวยง ที่ให้น้ำหนักกับกิจกรรมนอกตำรา แต่หากมองให้ลึกจะพบว่า กิจกรรมนอกตำรา อย่างการเป็นประธานชมรมบริษัทจำลอง (ABAC Dummy Company) และการทำงานพิเศษตั้งแต่ ป.6 ด้วยการช่วยคุณครูขายตรง ไปเป็นพาร์ตไทม์ในบริษัทโบรกเกอร์ตั้งแต่อายุ 16 ปี

“ตอนที่ผมเรียนและจบมา ผมไม่ได้ตั้งเป้าไว้ชัดเจนว่าต้องทำงานด้านการตลาด เพราะตอนเลือกเอกผมยังเลือกด้านธุรกิจระหว่างประเทศ เพราะอยากท้าทายความสามารถตัวเอง เนื่องจากภาคนี้คนเรียนน้อย เพราะว่าเรียนค่อนข้างยาก แต่สุดท้ายได้มาทำก็สนุกดี ผมว่าการตลาดมันคล้ายการเพ้อฝัน คือเราคิดไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายต้องเอาจินตนาการมาสร้างเป็นเป้าหมาย และหากลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนให้ไปถึงฝัน ซึ่งการหากลยุทธ์เพื่อไปให้ถึงนั้น ผมมองว่ายากกว่าการตั้งเป้าหมาย”

สำหรับอนาคต หนุ่มแมนตอบอย่างอารมณ์ดีว่า จริงๆ ตั้งใจจะเกษียณตอนอายุ 35 ปี แต่ตอนนี้ก็เลยมาแล้ว เลยขอขยับมาเป็นอายุ 40 ปีแทน สาเหตุที่ต้องปรับเป้าใหม่ เพราะพออายุมากตัวเขาเองก็มีความท้าทายใหม่ที่อยากจะก้าวผ่านเพิ่มเข้ามา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการสร้างคนรุ่นใหม่ให้กับองค์กร

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการขายและการตลาดที่ยาวนาน บวกกับความสามารถที่เป็นที่ประจักษ์ในวงการตลาด ทำให้วันนี้บอสหนุ่มที่คิวงานรัดตัว ยังได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพิเศษ ได้แบ่งปันประสบการณ์ด้านการตลาดในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศหลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากสถาบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต อีกด้วย

การศึกษา : ปริญญาตรีด้านการตลาด เอกธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

ปริญญาโท “Young Executive Program” จากสถาบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

หลักการในการใช้ชีวิต : Play Hard Work Harder and Smarter

หลักในการทำงาน : เน้นทีมเวิร์ก รวมพลังทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายบริหาร ดีลเลอร์ พนักงานและลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนไปยังเป้าหมายร่วมกัน

งานอดิเรก : เล่นหุ้น อ่านหนังสือ เข้าฟิตเนส

ของสะสม : นาฬิกา

ไอดอลในใจ : คุณพ่อคุณแม่ คิดเสมอว่ามีวันนี้ได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่ให้การศึกษา