อิสระอย่างมีสไตล์ ‘พฤษ์พล มุกดาสนิท’
หากจะมีใครสักคนไม่รู้ชื่อ...แต่คุ้นตากันมาก และรู้จักตัวการ์ตูนที่มีดวงตากลมโต มีหนวด และขนทั่วทั้งตัว ในลุคของ “มิสเตอร์ เฮลล์เยส!” (Mr.HellYeah!)
โดย...นกขุนทอง ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
หากจะมีใครสักคนไม่รู้ชื่อ...แต่คุ้นตากันมาก และรู้จักตัวการ์ตูนที่มีดวงตากลมโต มีหนวด และขนทั่วทั้งตัว ในลุคของ “มิสเตอร์ เฮลล์เยส!” (Mr.HellYeah!) เพียงแค่นั้น “ตั้มพฤษ์พล มุกดาสนิท” ผู้สร้างสรรค์คาแรกเตอร์มิสเตอร์ เฮลล์เยส! ให้เกิดขึ้นบนพื้นที่ของคนรักงานศิลปะอีกทั้งยังขยายสู่แวดวงธุรกิจอื่นๆ อีก ก็ภูมิใจมากแล้ว...
“ตั้มพฤษ์พล มุกดาสนิท” หรือเป็นที่รู้จักในวงการสตรีตอาร์ตในนามของ “มามาฟาก้า” (Mamafaka) จัดเป็นศิลปินรุ่นใหม่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ภายในเวลาไม่กี่ปีเขาได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังทั้งในและต่างประเทศ และมีเดียต่างๆ มากมาย
หลังจากทำงานในระบบบริษัทมาเกือบ 6 ปี พฤษ์พลก็ตัดสินใจลาออกมารับงานเอง เป็นดีไซน์เนอร์อิสระ ทำงานภาพประกอบ กราฟิกดีไซน์ รวมไปถึงงานด้านสตรีตอาร์ต นับจากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นปีที่ 3 แล้ว
“ผมชอบแบบนี้มากกว่า เพราะงานที่ทำออกไปก็เป็นชื่อเรา ทำในระบบออฟฟิศก็มีคนรู้บ้างว่าเราทำ แต่ก็ไม่ชัดเจนถึงขนาดที่เราจะใช้ชื่อ มามาฟาก้าได้ อย่างระบบทำงานก็ต่างกัน เพราะว่าระบบออฟฟิศจะมีลูกค้าเข้าหาเอเยนซี่ เอเยนซี่ก็มาบรีฟงานเราอีกทีหนึ่ง แต่ว่าพอมาทำเองมันชัดเจนว่าลูกค้าที่เข้ามาหาเรา เขารู้แล้วเขาอยากได้อะไร เขาอยากได้ในสิ่งที่มันเป็นตัวเรา เราก็แค่ทำในแบบที่เราทำ อิสระกว่ามาก แต่มันก็จะมีข้อบังคับอะไรอยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ ตามแบรนดิ้งเขา อย่างเช่น ต้องใช้สีนี้ ซึ่งไม่มีปัญหาเลย เพราะเราเข้าใจในระบบพวกนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว”
เมื่อไม่มีแบรนดิ้งของบริษัทห้อยคอ พฤษ์พลจึงต้องสร้างแนวทางที่ชัดเจนของตัวเอง และแน่นอนว่าที่เป็นที่จดจำก็คือ มิสเตอร์ เฮลล์เยส! นี่แหละ
“พอเป็นฟรีแลนซ์ต้องสร้างภาพตัวเองให้ชัด พอสร้างคาแเรกเตอร์ให้ชัดชื่อมันก็จะตามมา คนก็จะรู้จัก คนก็อยากรู้ว่าคนทำชื่ออะไร และคาแรกเตอร์ของมิสเตอร์ เฮลล์เยส! มันทำงานได้หลายลักษณะ ผมดัดแปลงให้มันไปอยู่ในแต่ละโปรเจกต์ได้ ถึงมีเสื้อยืดที่เป็นโปรดักต์เหมือนกัน แต่ว่าพอทำกับแบรนด์นู้นแบรนด์นี้ผมก็มีวิธีการทำงาน คือมองแบรนดิ้งให้ออกก่อนว่าคนที่มาซื้อของเขามีลักษณะเป็นอย่างไร และข้อดีที่เรามีแนวทางทำงานที่ชัดเจน มีคาแรกเตอร์ของมิสเตอร์ เฮลล์เยส! ลูกค้าที่เลือกเราจะเข้าใจเราเป็นอย่างดี คือรู้จักงานเราก่อนตัวเราด้วยซ้ำ และผมก็ไม่ได้ยึดว่าจะต้องเอางานตามสไตล์ผม ผมก็เปิดรับคนที่มีไอเดีย ผมว่ามันพัฒนาไปด้วยกันได้”
กว่าจะมาเป็นมามาฟาก้า ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศแถมยังเป็นที่รู้จักในต่างประเทศแล้วด้วย พฤษ์พลบอกว่า เริ่มมาจากเด็กมัธยมเกเรคนหนึ่ง เรียนก็ไม่จบ กิน เที่ยวเตร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร ถึงได้หลงไปเรียนก่อสร้างเสียด้วยซ้ำ จนในที่สุดได้ลองทำงานศิลปะแล้วชอบจึงหันกลับมาเรียนจริงจังจนสำเร็จระดับปริญญาตรีคว้าเกียรตินิยมมาด้วยอีกต่างหาก
“ตั้งแต่เรียนจบก็ทำแต่งานอยู่ตลอดไม่เคยหยุด มานั่งคิดดู เราไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย ช่วงแรกๆ ผมทำงานเยอะเพราะยังเด็กอยู่ อยากปล่อยของ อยากทำนู่นทำนี่ พอแก่ลงมันก็จะคลี่คลายลง จับเอาจุดที่มันใช่จริงๆ โดนจริงๆ อันนี้เป็นเรื่องของวิธีการคิด ส่วนเรื่องสไตล์แน่นอนเปลี่ยนแปลง ตอนแรกก็ทำพวกกราฟฟิกที่มันเป็นเวกเตอร์ ตอนนี้ก็เริ่มทำอะไรที่มันเป็นคาแรกเตอร์ของตัวเอง คือไม่ยึดติดกับอะไรแล้ว สไตล์คนอื่นชาวโลกจะเป็นอย่างไรไม่รู้ เราสร้างสไตล์ของเราออกมา แล้วเราก็ประยุกต์ใช้เรื่อยๆ คิดว่าจนวันหนึ่งเราเบื่อและมันไม่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง เราก็คงพัฒนาไปทำอย่างอื่น ไม่ได้ยึดติดว่าต้องอยู่กับเราไปจนวันตาย”
ทุกวันนี้มีน้องๆ เข้ามาหาขอความรู้ ซึ่งพฤษ์พลก็ยินดีถ่ายทอดวิชา เพื่อที่จะมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามาในวงการนี้ “เดี๋ยวนี้การสื่อสารกันง่าย มีทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักเข้ามาขอคำปรึกษา เราบอกอะไรได้ก็บอกมีเวลาเราก็จะคุยกับเขา เพราะเรารู้สึกว่าอยากจะสร้างเด็กใหม่ๆ เหมือนกัน คือให้ความรู้ไปเหอะลองผิดลองถูกดู เพราะผมรู้สึกว่าตอนยุคเรามันยากมาก เฟซบุ๊กไม่มี เจอไอดอลทีนั่งตัวเกร็ง เราจะคุยกับเขาอย่างไร คือผู้ใหญ่คนนี้เป็นไอดอล เขาพูดอะไรสักอย่างหนึ่งที่มันเป็นธรรมดาของเขาแหละ แต่ว่าพอเรามาฟังแล้ว เออไอ้สิ่งนี้แหละ เราทำให้มันเป็นอย่างเขาได้ เราได้รับตรงนั้นมาแล้ว พอมีโอกาสใครมาก็ยินดีบอกทั้งหมด”
ท้ายสุดพฤษ์พลฝากถึงน้องๆ ที่สนใจอยากทำงานศิลปะต่างๆ ว่า “เราควรทำอะไรให้มันโดดเด่นออกมา ผมว่าคนวาดรูปเก่งกว่าผมเยอะแยะ แต่ผมมาจับทางอะไรบางอย่างได้ เราต้องหาตัวเองให้เจอก่อน แล้วก็มุ่งมั่นที่จะทำมัน แล้วก็ทำมันให้ดี บางคนวาดรูปสวย ใครๆ ก็วาดรูปเหมือนได้ มันก็ไม่มีประโยชน์ไง แต่ถ้าเราครีเอทขึ้นมาคนเดียวในโลกที่ทำอะไรแบบนี้ มันก็จะชัดขึ้น น่าจะง่ายขึ้นในการทำความรู้จักกับคนต่างๆ แต่อย่าไปกดดันตัวเอง ว่ามันต้องออกมาแล้วมันต้องดี บางคนจะย้ำคิดย้ำทำอยู่อย่างนั้น พยายามดันคาแรกเตอร์เขาออกมา ผมรู้สึกว่าปล่อยๆ ไปก่อนไหม ลองทำหลายอย่างดู ลองทำมากขึ้นๆ หรือลองเปลี่ยนแนวทาง คือถ้ามันไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ แต่ถ้าเราหาไปเรื่อยๆ แล้วสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเราไม่รู้ไง อาจจะเจอสิ่งที่ดีกว่าสิ่งที่ทำในตอนนี้ เพราะผมไม่ได้ยึดติดอะไรเลย ผมก็ลองผิดลองถูกเรื่อยๆ จนมาเจอไอ้ตัวนี้ก็อายุตั้ง 30 ปีไปแล้ว ผมว่าในจุดๆ หนึ่งที่ทุกอย่างมันตกตะกอน ทุกอย่างจะออกมาเอง”
“มามาฟาก้า” มาจากคำว่า Mother Fucker
“ตอนเรียนมหาวิทยาลัยชอบฟังเพลงอันเดอร์กราวด์ ในเพลงก็จะมีคำพวกนี้อยู่เยอะ และเราก็เคยคิด อยากใช้ชื่อที่ดูโหดๆ สักหน่อย แต่เอามาใช้เลยคงไม่สุภาพ ก็เลยดัดแปลงนิดหน่อยมาลงตัวที่ มามาฟาก้า เขียนออกมาแล้วสวยดี และคำให้ความรู้สึกว่ามันมีความหมายแฝง ดูมันซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งเราก็อยากพรีเซนต์ตัวเราเป็นอย่างนั้น”
“มิสเตอร์ เฮลล์เยส!” คาแรกเตอร์ที่โด่งดัง
“ตอนทำงานประจำมีหนังสือมาจ้างให้ทำคาแรกเตอร์สำหรับปฏิทิน แล้วเมื่อก่อนผมเคยวาดงานแนวเรียลลิสติกและชอบวาดผมผู้หญิงมาก พอมาทำคาแรกเตอร์ก็เอาความถนัดของเรา เอาสกิลที่วาดผมได้ดีมาวาดเป็นขน ส่วนตัวการ์ตูนก็เอามาจากที่เราชอบซึมซับมาตัดทอนรูปทรง จุดเริ่มต้นมีแค่นั้น แต่ตอนนั้นผลตอบรับไม่ดี แต่เมื่อ 3 ปีที่แล้วพี่ P7.ชวนมาทำที่หอศิลป์ กทม. เรามีคาแรกเตอร์ตัวนี้พอดี ก็เลยเอามาวาดบนกำแพงขนาด 4 เมตร ใช้เทคนิคปากกามาร์กเกอร์เขียนขนทีละเส้นๆ และกลายเป็นว่าเป็นเทคนิคที่อิมแพคกับผู้คนมาก”
ตั้มพฤษ์พล มุกดาสนิท
จบการศึกษาจากคณะศิลปกรรม สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ได้ร่วมสร้างกลุ่ม b.o.r.e.d (กิจกรรมด้านศิลปะ แนวสตรีตอาร์ต)
เคยได้รับรางวัลในสาขากราฟฟิกดีไซน์จาก B.A.D award, Adsman, Adfest, British council etc.
ล่าสุดร่วมงานกับ ไทเกอร์ เบียร์ ในบทบาทการสร้างสรรค์ผลงานต้นแบบ และร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินในแคมเปญ “Tiger Translate Presents Godung Logo Competition” โอกาสในการแสดงความสามารถทางความคิดสร้างสรรค์อันทรงพลังของคนรุ่นใหม่


