ใครจะหยุด นาดาล?

โดย...จาด้า

บางครั้งอันดับโลกก็ไม่ได้การันตีทุกอย่างในวงการเทนนิส ดังเช่น ราฟาเอล นาดาล ที่แม้ตอนนี้จะเป็นมือ 4 โลก แต่สำหรับศึกเฟรนช์ โอเพน แล้ว เขาคือ “เต็งหนึ่ง” อย่างไม่ต้องสงสัย

นักหวดชาวสแปนิช กำลังไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 8 แต่แน่นอนว่ากระดูกชิ้นโตของเขาก็คงจะหนีไม่พ้น โนวัก โจโควิช มือ 1 โลก ที่ตามเส้นทางแล้วน่าจะโคจรมาพบกันในรอบรองชนะเลิศ แทนที่จะเป็นนัดชิงดำเหมือนปีที่แล้ว

เดินหน้าล่าสถิติใหม่

หลังคว้าชัยเหนือ โจโควิช เมื่อปีที่แล้ว นาดาล ก็กลายเป็นเจ้าของสถิติแชมป์ชายเดี่ยวที่โรล็องด์ การ์รอส สูงสุดตลอดกาลเหนือ บียอร์น บอร์ก แต่ดูเหมือนว่าถ้าสิงห์อีซ้ายวัย 26 ปี ยังรักษาฟอร์มสุดฮอตแบบนี้ไว้ได้ ก็คงยากที่ใครจะหยุดยั้งเขา

นักหวดวัย 26 ปี มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นคนแรกที่คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแกรนด์สแลมรายการเดียวกัน 8 สมัย

“การพูดถึงเรื่องตัวเลขสถิติต่างๆ หรือประวัติศาสตร์ คุณจะต้องวิเคราะห์ตอนที่เขารีไทร์แล้ว ไม่ใช่ว่ายังเล่นอยู่ การได้ลงเล่นที่โรล็องด์ การ์รอส ถือเป็นความรู้สึกที่พิเศษสำหรับผมเสมอ และผมก็รู้สึกตื้นตันทุกครั้งที่ได้กลับมาที่นี่” นาดาล กล่าว

นับตั้งแต่มีการเล่นอาชีพ ยังไม่เคยมีนักหวดคนไหนชนะเลิศแกรนด์สแลมรายการเดียวกัน 8 ครั้งมาก่อน โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ พีท แซมพราส เคยทำได้สูงสุด 7 สมัย ในศึกวิมเบิลดัน ขณะที่ บิล ลาเมด, บิล ทิลเดน และ ริชาร์ด เซียร์ส ได้ชูโทรฟี่ยูเอส โอเพน มาแล้ว 7 ครั้ง

กูรูในแวดวงลูกสักหลาดส่วนใหญ่เชื่อว่า นาดาล ยังคงเป็นเต็งจ๋าที่จะรักษาตำแหน่งเจ้าแห่งเคลย์คอร์ตที่กรุงปารีสได้ หลังพกสถิติชนะ 52 แพ้ 1 มาขู่

สิงห์อีซ้ายจากแดนกระทิงดุ ลงเล่นในศึกเฟรนช์ โอเพน เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2005 และน่าเหลือเชื่อที่ว่าเขาพบกับความปราชัยเพียงครั้งเดียวเท่านั้นต่อ โรบิน โซเดอร์ลิง จอมเสิร์ฟหนักชาวสวีดิช เมื่อปี 2009 และนั่นก็เป็นการเปิดทางให้ เฟเดอเรอร์ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมบนคอร์ตดินได้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว

ฟอร์มกำลังเข้าฝัก

แม้ว่าจะห่างหายจากคอร์ตไปนานถึง 7 เดือน จากปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่า แต่นั่นกลับทำให้เขาดูมีความกระหายมากขึ้น หลังจากที่พลาดโอกาสลงชิงชัยในศึกวิมเบิลดัน, โอลิมปิก, ยูเอส โอเพน และออสเตรเลียน โอเพน

การเข้าชิงชนะเลิศได้ครบทั้ง 8 รายการที่ลงเล่นหลังคัมแบ็กเมื่อเดือน ก.พ. และได้ชูโทรฟี่ถึง 6 ครั้ง ย่อมการันตีได้ว่า นาดาล คือผู้เล่นที่อันตรายที่สุดในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนคอร์ตดินที่เขาถนัด

ความพ่ายแพ้ 2 ครั้งในซีซั่นนี้ของ นาดาล เกิดขึ้นในการพบกับ โฮราซิโอ เซบายอส จากอาร์เจนตินา ในทัวร์นาเมนต์แรกหลังการคัมแบ็กที่ชิลี เมื่อต้นเดือน ก.พ. และพ่าย โจโควิช ที่มอนติคาร์โล เมื่อเดือนที่แล้ว

แชมป์เก่าถูกวางมือให้เป็นอันดับ 3 ของรายการ หลังการถอนตัวของ แอนดี เมอร์เรย์ มือ 2 โลก จากสกอตแลนด์ และเขาจะประเดิมรอบแรกด้วยการพบกับ แดเนียล แบรนด์ส มือรองบ่อนจากเยอรมนี

หากดูจากสายการประกบคู่แล้ว กว่าที่ราชาคอร์ตดินจะได้เจองานหนัก ก็คงจะเป็นรอบ 8 คนสุดท้าย ที่มีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเจอใครคนใดคนหนึ่งระหว่าง สตานิสลาส วาริงกา (สวิส/9) หรือ ริชาร์ด กาสเกต์ (ฝรั่งเศส/7)

อย่างไรก็ตาม แมตช์ที่แฟนๆ ตั้งตารอก็คงจะเป็นรอบตัดเชือกของสายบนที่มี โจโควิช และ นาดาล เป็นตัวยืน

หากคู่นี้มีโอกาสได้โคจรมาดวลแร็กเกตกันอีกครั้ง ก็คงจะสนุกตื่นเต้นเช่นเคย เพราะแม้ว่า นาดาล จะมีเฮดทูเฮดที่เหนือกว่าบนคอร์ตดิน แต่ โจโควิช เพิ่งจะยัดเยียดความปราชัยให้เขาในรอบชิงชนะเลิศมอนติ คาร์โล มาสเตอร์ส

คู่แข่งแย่งแชมป์หน้าเดิม

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ใด ตัวเต็งที่มีโอกาสได้ชูโทรฟี่ก็หนีไม่เคยพ้น 4 จตุรเทพของวงการอย่าง เฟเดอเรอร์ เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 17 รายการ, นาดาล, โจโควิช และ เมอร์เรย์

แม้ว่า ดาวิด เฟร์เรร์ จะเคยขึ้นมาติดท็อปโฟร์อยู่พักใหญ่ในช่วงที่ นาดาล เพิ่งจะหายเจ็บกลับมา แต่เวลาเข้าสู่สถานการณ์ที่กดดันหรือต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งทั้ง 4 รายข้างต้น นักหวดร่างเล็กจากสเปน ก็มักจะไปไม่เป็นเสมอ

เมื่อเทียบดรอว์กันแล้ว ดูเหมือนว่าสายล่างของ เฟเดอเรอร์ น่าจะงานเบากว่า นาดาล เพราะนอกจากจะไม่มี เมอร์เรย์ ขวางทางแล้ว เขายังจะได้เจอกับมือควอลิฟายทั้งในรอบแรกและรอบ 2 ด้วย ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวร่วมสายก็มี เฟร์เรร์, โทมัส เบอร์ดิช (เช็ก/5) และ โจ วิลเฟรด ซองกา (ฝรั่งเศส/7)

เฟเดอเรอร์ กำลังจะลงเล่นในแกรนด์สแลมเป็นรายการที่ 54 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่นานที่สุดในหมู่นักหวดที่ยังไม่แขวนแร็กเกต โดยเขาเริ่มต้นครั้งแรกในศึกออสเตรเลียน โอเพน 2000 (สถิติสูงสุดเป็นของ เวย์น เฟร์ไรรา จากแอฟริกาใต้ ที่ทำไว้ 56 ครั้งติดต่อกันระหว่างปี 1991-2004)

ขณะที่ โจโควิช ก็ตั้งเป้าลุ้นคว้าแกรนด์สแลมครบ 4 รายการให้ได้ที่กรุงปารีส หลังจากที่อกหักพ่าย นาดาล เมื่อปีที่แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านแชมป์เก่า แม้ว่าจะเพิ่งโค่นบัลลังก์คู่ปรับตัวฉกาจที่มอนติคาร์โลมาก็ตาม

“แน่นอนว่ามันช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผม การเอาชนะ นาดาล บนเคลย์คอร์ตไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ทุกวัน มันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่” นักหวดมือ 1 โลก กล่าว

อย่างไรก็ตาม โนเล มีโอกาสจะเจองานหนักตั้งแต่รอบ 3 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะได้เจอกับ กริกอร์ ดิมิตรอฟ ดาวรุ่งชาวบัลแกเรีย ที่เพิ่งช็อกโลกด้วยการชนะเขาที่มาดริดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา