หยินหยาง สร้างสมดุล

โดย...สาโรจน์ มีวงษ์สม / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

อากาศร้อนๆ อย่างนี้ หลายคนอาจจะหงุดหงิด ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็เหงื่อท่วมกาย แถมยังหมดเรี่ยวหมดแรง และต่างหาหนทางคลายร้อนกันต่างๆ นานา แล้วรู้ไหมครับว่าอาการดังว่าเราสามารถแก้ได้ด้วยการรับประทานอาหาร เพื่อการปรับสมดุลให้กับร่างกาย

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “หยินหยาง” เป็นคู่กันตลอด แต่รู้มั้ยครับว่าทั้งหยินและหยาง คือ ตัวการสำคัญที่ช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายเราดีนักละครับ

คำว่า “หยิน” ทางแพทย์แผนจีนเปรียบไว้ว่าก็คือธาตุเย็นในร่างกายคนเรา แล้วเมื่อธาตุเย็นสูงขึ้นมากไปก็ทำให้ร่างกายขาดสมดุลได้

ในทางกลับกัน “หยาง” นั้นก็เป็นเสมือนธาตุร้อน ถ้ามากเกินไปเราก็จะป่วยจะไข้ จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องรักษาสมดุล “หยินหยาง” ของร่างกายเอาไว้ให้ดี เพื่อให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรง วิธีการง่ายๆ ก็คือ การเลือกรับประทานอาหารให้ทั้งหยินและหยางผสมผสานกันอย่างสมดุลนั่นเอง

อาหารที่จัดว่าเป็นอาหารเสริมธาตุเย็นของ “หยิน” นั้น มักจะเป็นอาหารที่รสชาติเค็ม ขม เปรี้ยว อาทิ เก๊กฮวย กล้วย สาลี่ แตงโม สับปะรด องุ่น มะพร้าว ถั่วเหลือง เต้าหู้ ปลาเนื้อขาว ปู เป็ด หอยนางรม ยังไม่เพียงเท่านั้นการปรุงอาหารด้วยการต้ม นึ่งและตุ๋นก็จัดว่าเป็นอาหารหยิน

สำหรับอาหารที่ช่วยมาเสริมธาตุร้อนของ “หยาง” ให้สมดุล ก็คืออาหารที่รสชาติเผ็ดร้อน รวมไปถึงของหวานและอาหารจำพวกแป้ง เช่น ขิง พริกไทย กระเทียม ผักชี หัวหอม งาดำ นอกจากนี้เนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวหรือไก่ รวมทั้งการปรุงอาหารด้วยการทอด ย่าง และรมควันก็เป็นอาหารเสริมธาตุ “หยาง” อีกด้วยนะครับ

จะว่าไปแล้ว หยินคือ เย็น เปรียบเหมือนเครื่องจักร ส่วนหยางก็คือ ร้อน เปรียบเหมือนพลังงาน ดังนั้นการผสมผสานอาหารที่เสริมค่า “หยิน” และ “หยาง” ในสัดส่วนที่พอเหมาะกับแต่ละมื้อจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะช่วยสร้างสมดุลร่างกายของเราให้เป็นปกติ

เมื่อนำหลักคิดแบบหยินหยางมาใช้กับเรื่องการกิน เราก็จะพิจารณาได้จากการที่อาหารทุกประเภท ล้วนมีภาวะหยินและหยางอยู่ด้วยกันทั้งหมด แล้วแยกแยะว่าอาหารชนิดนั้นๆ มีความเป็นหยินหรือหยางมากกว่ากัน โดยดูที่คุณสมบัติหลักของอาหารชนิดนั้นเป็นเกณฑ์ตัดสิน อย่างพริกไทยมีรสชาติเผ็ดร้อน ก็ถือเป็นอาหารแบบหยาง หรือมะระมีรสชาติขม ถือเป็นอาหารแบบหยิน

ร้าน หยิน หยาง เอเชี่ยน แกสโทร บาร์ (Ying Yang Asian Gastro Bar) เข้าใจคอนเซปต์ของอาหารที่นำหยินหยางมาสร้างสมดุลให้กับร่างกาย จึงนำแรงบันดาลใจดังว่า คัดสรรมาเป็นเมนูเพื่อสุขภาพภายใต้อาหารเอเชียขึ้นชื่อ ที่มีการผสมผสานความเป็นหยินหยางเข้ากับเมนูอาหารเป็นอย่างดี

นอกจากอาหารหยินหยางกว่า 40 รายการให้เลือกลิ้มลองกันแล้ว ยังจัดคอนเซปต์ให้ตรงกับปีเกิดของแต่ละคนอีกด้วย นั่นคือ คอนเซปต์ 12 ราศี ซึ่งประกอบด้วยอาหารหลัก 5 อย่าง ที่คัดสรรจากเมนูหยินหยางจากหลายสัญชาติแห่งเอเชีย รังสรรค์โดยเชฟมากฝีมือ

ครั้งนี้ทางร้านได้จัดเมนูเพื่อให้เข้าปีนักษัตรประจำปีนี้ ก็คือ โมเดิร์น ฟู้ด เซตไทเกอร์ ที่ประกอบด้วยเมนูหลักด้วยกัน 5 เมนู รวมไปถึงเครื่องดื่มและของหวานอีกด้วย

ขอเริ่มสตาร์ทออกเบาๆ กับเมนู ปั้นขลิบไส้ปู หน้าละม้ายกับสาคูปากหม้อ ยัดไส้ด้วยปลาปรุงเครื่องเทศ เป็นเมนูเบาๆ เหมาะสำหรับการกินเล่น

ต่อกันด้วย ยำเห็ดหยินหยาง เมนูนี้จะเป็นยำเห็ดรวมแบบญี่ปุ่น ที่อุดมไปด้วยเห็ดหลายชนิด ทั้งเห็ดไมตาเกะ เห็ดหูหนู เห็ดเข็มทอง นำมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาปรุงด้วยน้ำซอสออกรสเปรี้ยว เห็ดคือสัญลักษณ์ของหยิน แต่ความจัดจ้านก็คือน้ำยำซึ่งจัดให้เป็นหยาง เข้าขากันทีเดียว

หนักขึ้นมาอีกนิดกับ เต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า เปรียบเทียบความเป็นหยินหยางในคราวเดียวกันนั่นคือ เต้าหู้หมายถึงความเย็น และซอสน้ำมันหอยคือหยางนำมาปรุงรส คลุกเคล้าจนเข้ากัน เป็นสูตรแบบเดียวกับที่สิงคโปร์ แต่ที่พิเศษคือมีการนำเอาดอกดาหลามาเสริมกลิ่นหอม ช่วยทำให้ชุ่มชื่น

พะโล้เปรี้ยว ถ้าบ้านเราจะออกรสชาติหวาน แต่เมนูนี้จะมีรสเปรี้ยวด้วยเครื่องเทศ และออกเผ็ดด้วยรสของขิง ได้คอนเซปต์มาจากสิงคโปร์เช่นกัน เปรี้ยวจากซอสจิ๊กโฉ่วความเผ็ดของขิงเป็นหยาง แล้วก็มีเต้าหู้คือเย็นเข้ามาผสานกันอย่างลงตัว

ตบท้ายด้วย พอร์คช็อปย่างราดซอสแกงเขียวหวาน ทางร้านเพิ่มความจัดจ้านของแกงเขียวหวานแบบพอประมาณ เสริมรสชาติให้พอร์คช็อป รับประทานคู่กับสลัดเคียงข้างที่รวมเอาผักนานาชนิดที่ให้สัมผัสที่เย็นสดชื่น

อ้อ...อย่าลืมเรียกหาเครื่องดื่ม และไอศกรีมประจำปีมาปิดท้ายมื้อ เพื่อให้อรรถรสความเป็นหยินหยางอย่างสมบูรณ์แบบกันด้วยนะครับ

ร้านหยิน หยาง เอเชี่ยน แกสโทร บาร์ ชั้น 1 ห้างเซน แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 02-101-0999 / 081-899-2117