สองหมัดเด็ด เทคนิคเอาชนะใจแม่ (ของเขา)

โดย...ราตรีแต่ง

“สิ่งที่มาคู่กับแฟนคือแม่แฟน” แม้ลูกชายเติบโตมีครอบครัวไปแล้ว แต่ด้วยความรักของแม่ก็ยังหวงและห่วงใย คอยดูแลซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีอยู่เสมอ จนบางทีอาจจะทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก?!!

สถานการณ์ : เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นทุกๆ วัน และยืนยาวระดับมหากาพย์ ปัญหากินใจของคุณสาวๆ กับแม่แฟน โดยเฉพาะในยามที่คุณแม่แฟนเจ็บป่วย แฟนดีเด่นอย่างเราย่อมต้องเอาใจคุณแม่มากขึ้นเป็นพิเศษ แต่บางครั้งก็ทำให้สาวๆ หลายคนถึงกับออกอาการเครียด

ทางออก : สาวๆ หลายคนอาจจะมีความรู้สึกว่าคุณแม่แฟนจู้จี้ ขี้บ่น ก็คิดเสียว่าท่านผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย เรื่องบางเรื่องที่เรามักมองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในมุมมองของคนที่ผ่านโลกมานาน มีความคิดละเอียดรอบคอบ และมองการณ์ไกลอาจจะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เช่น เด็กสมัยนี้ติดแชทกับคอมพิวเตอร์ แต่ในมุมมองของท่านอาจจะมองว่า คุณไม่ค่อยสนใจสังคม ก้าวร้าว เอาแต่ใจตนเอง ฯลฯ ทำให้ท่านต้องพูดบ่อยๆ เพราะสิ่งที่ท่านเป็นห่วงกลัวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่กลับถูกละเลย แต่คุณสาวๆ อาจจะรู้สึกว่าเป็นการบ่นจู้จี้

ยิ่งช่วงที่คุณแม่ป่วย เป็นช่วงที่ท่านต้องการกำลังใจจากคนรอบข้างมากขึ้น หากลูกๆ ยุ่งกับการทำงาน หรือยังเคยชินกับการอยู่ในโลกออนไลน์จนไม่มีเวลาดูแลท่านเท่าที่ควร ยิ่งพอเห็นลูกชายมีแฟนก็มักจะคิดว่าแฟนเป็นคนดึงเวลาของลูกชายไปจากท่าน เป็นสาเหตุหนึ่งที่กระทบทำให้สาวๆ หลายคนต้องอึดอัดที่ดูเหมือนคุณแม่จะหงุดหงิดใส่ทั้งขึ้นทั้งล่อง

พญ.เรขา กลลดาเรืองไกร จิตแพทย์ ที่ปรึกษาบริษัท จูเนียร์ แอนด์ ซีเนียร์ เครือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท แนะนำว่า “แม่ ลูกชาย และแฟนสาว เป็นความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อกัน เช่น ถ้าคุณสาวๆ มีปัญหากับคุณแม่แฟน ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาย่อมส่งผลกระทบตามไปด้วย บางเรื่องเกิดขึ้นเพราะคุณแม่แฟนรู้สึกถูกแบ่งปันความรัก ความสนใจไปจากลูกชาย การดูแลเอาใจใส่จากลูกที่อาจจะน้อยลง เพราะต้องแบ่งเวลาไปให้คนอื่น ความรู้สึกที่ห่วงลูก กลัวคนอื่นดูแลลูกชายได้ไม่ดี รวมไปถึงความรู้สึกของคนที่เป็นแม่ก็มักจะรู้สึกว่าลูกตัวเองเป็นเด็กอยู่เสมอ ข้อสุดท้ายนี้สาวๆ จงทำใจเตรียมรับสถานการณ์กันไว้เชียว ว่านี่ล่ะค่ะคือปัญหาอมตะคู่โลกนิรันดร์!!!

ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในบ้าน เมื่อต่อเนื่องยาวนานเป็นความเครียดระยะยาวที่จะก่อให้เกิดโรคตามติดมาได้ ทั้งกับคุณสาวๆ และคุณแม่แฟน เช่น ความเครียดเรื้อรัง ปวดหัว กระเพาะอาหาร ปวดกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ เป็นต้น คุณหมอเรขา กล่าวเสริมอีกว่า “เทคนิคมัดใจคุณแม่แฟนยามท่านป่วย ความสำคัญอันดับแรกคือ ความจริงใจ ให้ความรักความเคารพท่านเหมือนแม่เราเอง ท่านก็คือแม่คนที่สองของเรา ไม่ใช่ใครอื่น

สถานการณ์ : กรณีที่แม่ท่านมีโรคประจำตัวยิ่งจะส่งผลให้เป็นมากยิ่งขึ้น เช่น เป็นความดันโลหิตสูงอยู่ ความเครียดจะยิ่งเสริมให้ความดันสูงขึ้น สิ่งที่อยากแนะนำคือลูกๆ ก็อย่านอยด์วิตกกังวล ขอย้ำ! โปรดอย่าเครียดตามคุณแม่ไปอีกคนล่ะ?!!

ทางออก : เรื่องเจ็บป่วยของท่าน เมื่อเราหงุดหงิดยามที่ท่านพูดในบางเรื่องบางครั้ง ควรทำความเข้าใจว่า วัยสูงอายุท่านอาจจะมีพูดซ้ำๆ (และซ้ำๆๆๆ) บ้าง!!! เนื่องจากความเป็นห่วง ละเอียดรอบคอบ และมองการณ์ไกลกว่าเรา ซึ่งถ้ามองในแง่บวกก็คือความปรารถนาที่ดี ไม่ใช่เจตนาร้าย

ที่สำคัญคือ ไม่ใช้อารมณ์เวลาเข้าหาท่าน ไม่พยายามเอาชนะ ถือตัวว่ารู้ดีกว่าท่าน หรือมองว่าท่านหัวโบราณไม่ทันโลก คุณควรมีสติรู้ตัวและระลึกอยู่ตลอดเวลาว่าตอนนี้กำลังทำอะไร? ถ้าใช้อารมณ์แล้วจะเกิดผลเสียหายตามมาอย่างไร?!! ควรให้ความเคารพ นับถือ ให้เกียรติ ใช้มารยาทแบบไทยๆ อย่ายึดอัตตากับแม่ป่วย หรือการถือตัวเองเป็นสำคัญ ควรนิ่งรับฟังท่านก่อน บางครั้งท่านอาจพูดไม่เก่ง พูดไม่ทันเรา แต่ถ้านิ่งและหยุดฟัง นอกจากจะทำให้ท่านเอ็นดูแล้ว เราอาจได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากประสบการณ์ของท่าน นี่คือช่วงเวลาทองของการได้รับฟัง และเมื่อท่านใจเย็นลงแล้ว จึงค่อยๆ อธิบายและทำความเข้าใจกับท่านหรืออาจให้ลูกชายช่วยพูดบ้าง

ยิ่งช่วงที่เห็นท่านน้อยใจ ยิ่งควรเตือนให้แฟนพาเราไปหาแม่เร็วขึ้น ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ไปรับประทานข้าวในร้านโปรดของท่าน และในบางครั้งควรปล่อยให้ท่านมีเวลาส่วนตัวของท่านกับลูกชายบ้าง

ซึ่งเทคนิคการเข้าหาแม่แฟน แต่ละครอบครัวอาจจะแตกต่างกันไป คุณควรปรึกษากับแฟนว่าทำอย่างไรให้ถูกใจคุณแม่มากที่สุด และควรทำสิ่งนั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ

คุณหมอเรขาทิ้งท้ายว่า เมื่อใช้เทคนิคทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าอึดอัด คงต้องใช้วิธีสุดท้ายคือ “ปิดหูสองข้าง ปิดปากไว้บ้าง จิตใจสบาย แต่ถ้าเปิดตาสองข้าง เปิดปากทุกครั้ง เปิดหูรับฟัง ใจลุกเป็นไฟค่ะ”

Ask the Expert

Q. สามี (วัย 40) ดูเนือยๆ เฉื่อยๆ ไม่รักความก้าวหน้า เราจะช่วยกระตุ้นเตือนให้เขาดูแอ็ก็็ทีฟกว่านี้อย่างไรดีคะ?

A. พญ.จามรี ณ บางช้าง จิตแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ช่วงอายุ 4060 ปี เป็นช่วงวัยที่อาจเกิดภาวะวิกฤตวัยกลางคน (Midlife Crisis) ขึ้นได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บุคคลนั้นได้คิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา เช่น เรื่องอัตลักษณ์ของตัวเอง (Identity) หรือเรื่องหน้าที่การงาน นอกจากนี้ ในเพศชายจะพบว่าเริ่มมีความเสื่อมถอยทางร่างกาย และมีระดับฮอร์โมนเพศที่ลดลงด้วย หากสามารถปรับตัวผ่านช่วงเวลานี้ได้ดี ยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดขึ้น และมองเห็นศักยภาพของตัวเองในการเรียนรู้ หรือการใช้ชีวิตในช่วงเวลาของวัยกลางคนที่เป็น “วิกฤต” ก็จะกลับกลายเป็น “โอกาส” ให้บุคคลนั้นค้นพบความสามารถหรือความสนใจใหม่ๆ ของตนเอง ให้โอกาสตัวเองได้ลงมือทำในสิ่งที่อยากทำในครึ่งชีวิตที่มีอยู่ต่อจากนี้ไป ดังนั้นกำลังใจจากคนรอบข้างจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้บุคคลนั้นตระหนักถึงความสามารถและความสำคัญของตนเองจากช่วงชีวิตที่ผ่านมา การชื่นชมในความสำเร็จ ข้อดี และความสามารถของเขาจะช่วยให้เขาผ่านช่วงเวลานี้ได้ดียิ่งขึ้น

He Said/She Said

ตั้ม นักเขียน

“ผมชอบผู้หญิงลุยๆ ไม่ชอบแบบคุณหนู เพราะเอาใจไม่เก่ง อยากให้ดูแลตัวเองได้ และเราเป็นเพื่อนลุยไปด้วยกัน แต่ก็แอบมีความเป็นผู้หญิงที่มีจริตจะก้านในตัว ผมว่าน่ารักดีครับ ไม่ชอบผู้หญิงแบบเว่อร์ๆ ดูเป็นเด็กตลอดเวลา”

ต่าย พนักงานบริษัท

“ชอบผู้ชายหล่อๆ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วผู้หญิงทุกคนชอบผู้ชายหน้าตาดีๆ เท่ๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ดิฉันว่าถ้าเรารักกัน ผู้ชายแบบไหนก็โดน ขอให้รักเราจริงๆ เถอะ แบบไหนก็ผ่าน (หัวเราะ)”

Quote

“ฉันชอบความรู้สึกเวลาที่เราตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก อารมณ์แบบว่า ตื่นเช้ามาก็พบแต่โลกสดใส เหมือนรอบกายเต็มไปด้วยผีเสื้อหลากสีสัน ช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษจริงๆ”

เจนนิเฟอร์ อนิสตัน นักแสดงสาวสวยฮอลลีวู้ด