ฌอน คริสโตเฟอร์ ฮิลล์ ทายาทรุ่น 4 จิราธิวัฒน์ เริ่มจากวีเจ สู่มือเทกโอเวอร์หมื่นล้าน

ฌอน คริสโตเฟอร์ ฮิลล์ เป็นทายาทรุ่น 4 ของตระกูลจิราธิวัฒน์

เขาเป็นบุตรชายคนโตของ พญ.สุวิมล ฮิลล์ ธิดาคนโตของ สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้นำรุ่น 2 ของตระกูลจิราธิวัฒน์

หนุ่มลูกครึ่งวัย 34 ปีคนนี้ อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในสังคมไทย แต่เขาทำงานใหญ่และอยู่เบื้องหลังข่าวดังทางธุรกิจในเมืองไทยและทั่วโลก เพราะเป็นหัวหอกในการกว้านซื้อกิจการในต่างประเทศของเครือเซ็นทรัล เป็นมือทำงานคนสำคัญของบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น (ซีอาร์ซี) ซึ่งมี ทศ จิราธิวัฒน์ นั่งบังเหียนในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่

ผลงานล่าสุด คือ การเจรจาซื้อห้างสรรพสินค้าอิลลุม (ILLUM) ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเดนมาร์ก

ฌอน ประจำการอยู่ที่อิตาลี เขามีตำแหน่งเป็นผู้จัดการด้านการขยายธุรกิจค้าปลีกของ La Rinascente SpA ห้างสรรพสินค้าแถวหน้าในอิตาลี

เราพบชายหนุ่มคนนี้ที่มิลาน พูดคุยกันในสองภาษา คือ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่เขาพูดได้มากกว่านั้น เพราะไปทำดีลธุรกิจในอิตาลี ทำงานกับคนอิตาเลียนก็เลยพูดภาษานั้นได้อีกภาษาหนึ่ง

หนุ่มนักกฎหมายซึ่งเริ่มต้นทำงานจาการเป็นวีเจ และกำลังทำงานใหญ่ คือ บุกเบิกกิจการเซ็นทรัลไปทั่วโลก ชอบทำผัดซีอิ๊วรับประทานที่บ้านกับภริยา เขาเป็นยังไงลองฟังดู

ทำไมเป็นทนายความแล้วถึงกลับมาทำงานด้านนี้กับเซ็นทรัล

ทั้งชีวิตได้เห็นเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่สมัยเด็กๆ จากอากงของผม (คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์) ตั้งแต่ขวบหนึ่งผมก็เดินทางไปกับอากงตลอด ทุกปีอากงจะไปที่อเมริกา เพื่อดูมอลล์ต่างๆ และถ่ายรูปมอลล์ทั้งหมด เอาไอเดียดีๆ มาปรับใช้ที่เมืองไทย ซึ่งตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาสิ่งที่เขาทำ ทำให้เกิดเป็น CPN และ CRC รวมไปถึงช็อปปิ้งมอลล์ต่างๆ ที่เราเห็นกัน ณ เวลานี้ ผมเห็นและสัมผัสเรื่องนี้จนมันอยู่ในเลือดของผมแล้ว ซึ่งอากงเขาต้องการให้ผมพูดภาษาไทย เลยให้ผมกลับมาเมืองไทยตลอด

เวลาที่กลับมาเมืองไทยได้มาช่วยงานในห้างหรือมาห่อของขวัญ ทำงานในห้างบ้างไหม

เวลาผมกลับมา ผมก็เข้าไปในร้านตลอด อย่างเวลาที่มีการประชุมต่างๆ ผมก็จะเข้าไปในห้องประชุมตลอดเช่นกัน เพราะจะมีอาหารให้กินด้วย อยู่ในห้องก็ฟังทุกอย่าง เพราะทุกๆ วันจะมี Lunch Meeting ผมก็จะเข้าไปตลอด เลยทำให้ซึมซับเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่เด็กๆ

เรื่องการเรียนกฎหมาย เลือกที่จะเรียนเองหรือทางตระกูลอยากให้เรียน

ผมเลือกที่จะเรียนเอง และผมคิดว่าบริษัทเราควรมีทนายอยู่ในตระกูลของเรา เพราะตอนนี้มีเพียงคนเดียวที่เป็นทนาย คือ คุณกอบชัย ซึ่งเป็นนักกฎหมาย ผมถือว่าเรื่องการเรียนกฎหมายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไปเมืองไหนก็ต้องรู้เรื่องกฎหมายของเมืองนั้นๆ เพราะอย่างที่เดนมาร์กกับที่อิตาลียังมีความแตกต่างกันมาก และยิ่งถ้าเทียบกับที่เมืองไทย ยิ่งมีความแตกต่างกันเข้าอีก

ถือว่าคุณฌอนเองเป็นส่วนสำคัญในการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการของห้าง La Rinascente หรือไม่

ก็ช่วยดูนะครับ แต่ไม่ได้เยอะ

ก่อนมาดูต่างประเทศ ก็เป็นนักกฎหมายมาก่อน และพอเข้ามาทำงานที่เซ็นทรัลได้ไปทำงานส่วนไหนก่อน

เข้ามาทำหน้าที่นี้เลย ดูแลในส่วนของการขยายสาขา ที่ห้างสรรพสินค้า La Rinascente ออกไปดูโลเกชัน ว่าจะซื้อหรือจะเช่า หรือจะทำโครงการนี้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องเอาไปเสนอและประชุมกันก่อนว่าควรทำหรือไม่ ถ้าตกลงที่จะทำโครงการนั้นๆ ผมก็จะเป็นคนเข้าไปเจรจากับร้านหรือห้างนั้นๆ เอง

เป็นคนพูดเก่งไหม ช่างพูดไหม

ก็คิดว่าเก่งนะ เพราะว่าถ้าคุยไม่เก่งก็คงทำงานนี้ไม่ได้ (หัวเราะ)

ตอนอยู่กับอากงได้ซึมซับอะไรมาบ้าง

อากงของผมต้องการให้เด็กๆ ทุกคนในตระกูลได้เรียนดีๆ ต้องตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงาน อยากให้ทุกๆ คนมีการศึกษาที่ดี

ถ้าเป็นเรื่องเทคนิคทำงานล่ะ ได้ซึมซับอะไร หรือได้สอนอะไรให้บ้าง

น่าจะเป็นเรื่องระบบการจัดการ การคุมคน การจัดการคนในตระกูล รวมไปถึงการคุมลูกน้องที่มีจำนวนมากมาย

เรียกว่าอากงคือโมเดลในการทำงาน

ใช่ครับ รวมไปถึงคุณแม่ คุณทศ และคุณปริญญ์ด้วย ที่เป็นแบบอย่างให้ผมในทุกๆ เรื่อง ที่สำคัญหลากหลายธุรกิจในเมืองไทยก็ต่างขอบคุณคุณสัมฤทธิ์ที่ช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาเจริญก้าวหน้ามาถึงวันนี้

นอกจากคุณสัมฤทธิ์แล้ว ยังมีใครอีกไหม

คงเป็นน้าสองคนของผม ที่เราจะพูดคุยเรื่องของธุรกิจ และการทำงานต่างๆ กันอยู่สม่ำเสมอ

สนิทกับใครมากที่สุด

อย่างคุณทศ เขาเป็นคนที่เก่งมาก เข้าใจเรื่องของธุรกิจนี้เป็นอย่างดี ส่วนคุณปริญญ์ก็จะเก่งมากในเรื่องของไฟแนนซ์การเงินการลงทุน ให้คำตอบที่ดีและรวดเร็วมากในเรื่องของการเงิน

ในรุ่นราวคราวเดียวกันของตระกูลเข้ามาทำงานในธุรกิจนี้กี่คน

ก็เกือบทั้งหมดครับ

มองเป้าหมายของตัวเองไว้อย่างไรบ้าง

อยากให้ทุกอย่างที่ทำดีที่สุด แบรนด์ที่เราสร้างขึ้นมาทุกๆ แบรนด์มีความแข็งแกร่ง เติบโต อย่างมากที่สุด

ยากไหมกับการที่เราเป็นบริษัทคนไทยและต้องมาดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ

บางทีเราต้องคุยโทรศัพท์กับทางเมืองไทยทีนึง และกลับมาประสานงานกับทางอิตาลีอีกทีนึง ซึ่งคนไทยยังคุยภาษาอังกฤษมากกว่าคนอิตาเลียนอีกด้วย

พูดอิตาลีได้ไหม

ได้พอสมควร คือ พยายามพูดให้ได้ครับ

อย่างนี้หมายความว่าตอนไปที่ประเทศไหนๆ ก็ต้องฝึกพูดภาษานั้นๆ ไปด้วยหรอ

ไม่นะครับ เพราะส่วนมากประเทศอื่นๆ ก็พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งตอนนี้ผมพูดได้ 3 ภาษาครับ ไทย อังกฤษ อิตาลี

ตอนนี้ทำงานหนักมากไหม

เวลามีอีเมลมาจากเมืองไทยตอนตี 3 ในบางครั้งก็ต้องตอบอีเมลเลย แต่จริงๆ ตอนช่วงที่ทำงานทนาย ผมก็ทำงานวันหนึ่ง 1518 ชม. เลยทีเดียว

เรียกว่ากำลังอยู่ในช่วงที่เป็นหนุ่มไฟแรง

อยู่ในสายเลือดมากกว่าในเรื่องของการทำงาน

ทำไมถึงได้ไปทำงานเป็น VJ ที่ MTV

เริ่มจากโดนเพื่อนแกล้งเอาเราไปนำเสนอทางเจ้าของ MTV ณ เวลานั้น สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเขาก็เลือกเราให้เข้าไปทำ ซึ่งตอนนั้นก็เป็นช่วงแรกๆ ของรายการ MTV ในเมืองไทย ซึ่งรายการที่ผมเข้าไปทำตอนนั้นก็คือ เป็นเหมือน VJ แนะนำเพลงและศิลปินใหม่ๆ ในรายการ รวมไปถึงการเป็นวีเจภาคสนามที่ออกไปในที่ปาร์ตี้และแหล่งเที่ยวต่างๆ เพื่อแนะนำและเชิญชวนให้คนมาเที่ยวงานและสถานที่นั้นๆ

อย่างนี้เรียกว่าไม่ว่าจะมีงานไหนๆ เข้ามาก็ลองทำหมดเลยใช่ไหม

เหมือนได้ลองอะไรใหม่ๆ ผมถือว่าทุกอย่างที่เข้ามาเป็นเรื่องที่ท้าสำหรับผมหมดเลย

ตอนเด็กๆ มีความฝันอยากทำอย่างอื่นไหม

นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลครับ ซึ่งผมว่าเรื่องการเล่นกีฬาช่วยในเรื่องของการทำงานเหมือนกัน เพราะเวลาที่เราทำงานเราก็ต้องการความเป็นทีมเวิร์ก ซึ่งเหมือนกับเรื่องการเล่นกีฬา

ในห้างนี้มีอะไรที่เป็นไอเดียของเราบ้าง

ทุกอย่างเป็นการแชร์ไอเดียกันมากกว่า ต้องมีการปรับนู่นเปลี่ยนนี่ตลอดเวลาทุกๆ 7 ปี ตอนนี้ใช้ไปแล้วในการทำห้าง 48 ล้าน

มีพี่น้องกี่คน

2 ครับ พี่ชายทำร้านเบเกอรีที่ชิดลมและลาดพร้าว ชื่อร้าน Flour Shop ส่วนน้องสาวเป็นสถาปนิก

มีลักษณะนิสัยยังไง

เป็นคนซีเรียสในเรื่องของการทำงาน

อะไรที่ได้จากคุณทศและคุณปริญญ์ในเรื่องของการทำงาน

แง่มุมและวิธีการทำงานต่างๆ คุณทศและคุณปริญญ์มักจะไปดูงานที่เมืองนอก ดูร้าน ดูลูกค้า แล้วถ่ายรูปและเก็บข้อมูล และเอาไอเดียส่งให้ทุกคนในครอบครัว เพื่อนำมาปรับปรุงธุรกิจเสมอ

ข้อคิดดีๆ ในเรื่องของการทำงาน

คนเรามักจะคิดว่าทำไม่ได้แล้วเวลาเจอปัญหา แต่จริงๆ ผมคิดว่าทำได้ เพียงแต่ต้องเปลี่ยนแนวทาง หาทางใหม่หรือวิธีการทำงานมากกว่า

ครอบครัว ณ เวลานี้

ผมกับภรรยาย้ายมาอยู่ที่นี่หมดเลย จริงๆ เขาเป็นคนอังกฤษ แต่เจอเขาที่เมืองไทยครับ เพราะพี่เขาก็อยู่ที่เมืองไทย มิลานอยู่กลางยุโรป เวลาจะเดินทางไปไหนมันง่ายมาก

ในพี่น้อง ญาติ สนิทใครมากที่สุด

ลูกคุณยุวดี ลูกคุณสุทธิชาติ (ชาติ ไท แกละ) ลูกคุณสุทธิธรรม ถ้าใครมาอิตาลีผมก็ต้องดูแล พวกเราจิราธิวัฒน์ทุกคนมีความใกล้ชิดกันมาก

มีแบรนด์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาที่เซ็นทรัลอีกไหม

ตอนนี้มีอีกหลายแบรนด์ที่สนใจเข้ามาอยู่กับเซ็นทรัล