บวชลูกแก้วที่ดอยไตแลง

ก่อนเข้าพรรษาเป็นเวลาบวชลูกแก้ว หรือส่างลองของชนชาติไต นอกจากจะมีพิธีแห่แล้วยังต้องแต่งหน้าแต่งตัวให้สวยอีกด้วย และไม่เพียงแต่แต่งตัวให้ส่างลองเท่านั้น ม้าที่เข้าร่วมพิธีก็ต้องสวยหล่อด้วยเช่นเดียวกัน

ปีนี้เป็นปีแรกที่วัดแลงหาญไต จัดพิธีปอยส่างลองขึ้นที่ดอยไตแลง รัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของ พล.ท.เจ้ายอดศึก ผู้นำของ SSA หรือ Shan State Army ซึ่งรัฐบาลเมียนมาร์เรียกว่า SURA หรือพรรคปฏิวัติชนชาติไต งานนี้มี “ส่างลอง” เข้าร่วมพิธี 108 คน นอกจากพ่อแม่ของส่างลองแต่ละคนจะต้องลงทุนกันคนละ 3 - 5 หมื่นบาทแล้ว กองทัพไตยังต้องสปอนเซอร์งานนี้ด้วยเงินอีกจำนวนไม่น้อยด้วย ที่กองทัพไตต้องสปอนเซอร์ก็เพราะส่างลองที่บวชเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกของทหารไตนั่นเอง

นอกจากครอบครัวของส่างลองที่อยู่ในค่ายแล้ว ก็ยังมีญาติพี่น้องที่อยู่ทั้งในไทยและพม่าเดินทางมาร่วมงานด้วย ดังนั้นในงานจึงมีทั้งคนไตที่พูดพม่าและไตที่พูดไทยแบบแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ไม่น้อยที่เป็นไตกรุงเทพฯ

ส่างลองแต่ละคนถูกแต่งหน้าแต่งตาอย่างสวยงามด้วยเครื่องสำอางทั้งราคาถูกและราคาแพงที่ทันสมัย แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ “ทานาคา” เครื่องสำอางแบบพม่า เพื่อทำให้หน้าลูกหลานของตัวเองดูเด่นไปพร้อมๆ กับความทันสมัย

ปอยส่างลองเป็น Norm ของชนชาติไต เด็กชายไตทุกคนที่ต้องบวชเมื่ออายุได้ 5 ขวบขึ้นไป คนหนึ่งอาจจะบวช 7 วัน หรือมากกว่านั้น พวกเขาใช้เงินในการทำพิธีคนละ 3 - 5 หมื่นบาท แล้วแต่ฐานะของพ่อแม่

สำหรับงานปอยสางล่องที่วัดแลงหาญไตจัดเป็นครั้งแรกหลังจากกองทัพถูกจัดตั้งขึ้นมาบนดอยแห่งนี้ งานแห่จัดขึ้น 3 วัน หลังจากนั้นพวกเขาจึงเข้าพิธีบวชเป็นสามเณรน้อย

งานแห่ถือเป็นเรื่องหน้าตาของเจ้าภาพแต่ละพื้นที่ บางแห่งจัดแห่กันถึง 7 วัน บางแห่ง 9 วัน การที่ลูกได้แห่ ได้บวชถือว่าเป็นหน้าตาของพ่อและแม่ หลังจากโกนผมแต่งตัวแล้ว เท้าของเด็กน้อยไม่เคยได้สัมผัสดินเลยจนกระทั่งบวชเสร็จ การกินข้าวบางครั้งพ่อแม่ก็ป้อนให้ จะอาบน้ำก็ต้องขี่คอกันไปอาบน้ำ เรียกได้ว่าเหมือนเทวดาตัวน้อยของพ่อแม่เลยทีเดียว

งานนี้เจ้ายอดศึกมีโปรแกรมไปร่วมงานด้วยแต่ทว่ากลับป่วยด้วยโรคท้องร่วง จึงไม่ได้ไปร่วมงาน ก่อนหน้านั้นเจ้ายอดศึกให้สัมภาษณ์กับโพสต์ทูเดย์ท่องเที่ยวว่า คนไทยหลายคนมองว่าพม่า คือ สาวสวยที่ต้องเข้าหา เจ้ายอดศึกเตือนว่า สาวสวยนั้นอาจจะเป็นสาวสวยประเภท 2 หรือกะเทยก็ได้ ดังนั้นอย่าเพิ่งไว้วางใจพม่า

เขาพูดถึงอองซานซูจีว่า เธอเป็นพม่า ดังนั้นจึงทำหลายสิ่งหลายอย่างที่สอดคล้องกับรัฐบาลพม่าแต่ไม่สอดคล้องกับชนชาติอื่นๆ เจ้ายอดศึกยืนยันจุดยืนของชนชาติตัวเองและชนชาติอื่นๆ ด้วยว่าพวกเขายอมรับในความเป็นชาติเมียนมาร์แต่รูปของการปกครองต้องเป็นสหพันธรัฐ หรือ Federation State เท่านั้น

ปล.เจ้ายอดศึกเป็นผู้นำของชนชาติที่อายุน้อยที่สุดในจำนวนผู้นำชนชาติทั้งหลาย กองกำลังชนชาติที่แข็งแกร่งที่สุด 3 อันดับแรก คือ ชนชาติไต ชนชาติคะฉิ่น และชนชาติว้า แต่ว้าไปอยู่ข้างรัฐบาลพม่า ส่วนคะฉิ่นกำลังต่อสู้กับรัฐบาลพม่าอยู่ในขณะนี้ ส่วนชนชาติไตหยุดยิงกับรัฐบาลเช่นเดียวกับชนชาติส่วนอื่นๆ อีกหลายกลุ่มเช่น มอญ กะเหรี่ยง อาระกัน ฯลฯ หลังจากหยุดยิงแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องการเมืองแต่อย่างใด

เจ้ายอดศึก กล่าวว่า หลังจากเป็นสหพันธรัฐแล้วพื้นที่ดอยไตแลงจะใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่อไป