ดีไซเนอร์สุดเซ็กซี่ อณิชา อรรถสกุลชัย

โดย...วราภรณ์ ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช

นักออกแบบร่างเพรียวระหงสุดเซ็กซี่ แพม-อณิชา อรรถสกุลชัย เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า “Lovebird” เรดดี้ ทู แวร์ สไตล์เฟมินีนจ๋า เสื้อผ้าภายใต้การออกแบบของอณิชาได้รับการยอมรับในหมู่เพื่อนฝูงนักแสดงและเซเลบริตี อาทิ พลอยพยัพ ศรีกาญจนา ไปรยา สวนดอกไม้ ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ศิลปินโฟร์มด ฯลฯ ก็ยังเป็นลูกค้าของเธอ

อณิชามีความฝันตั้งแต่วัยเด็กอยากสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง แต่ด้วยครอบครัวธุรกิจเป็นเจ้าของนมเปรี้ยว “บีทาเก้น” ซึ่งอยากให้ลูกสาวเอาดีทางด้านธุรกิจ เธอจึงไม่เลือกเรียนด้านแฟชั่นโดยตรง แต่เมื่อศึกษาจบคณะอักษรศาสตร์ เอกฝรั่งเศส จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศึกษาจนจบปริญญาโท 2 ใบ ด้านสาขาการสื่อสารชั้นสูง ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากยูนิเวอร์ซิตี ออฟ นิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เสร็จเรียบร้อยเธอจึงเริ่มทำตามความฝัน อณิชาตัดสินใจเรียนหลักสูตรแฟชั่นดีไซน์ราฟเฟิลส์ Raffles Institute Bangkok และหลักสูตรระยะสั้นด้านแฟชั่น Central Saint Martins และสร้างแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองได้ 2 ปีแล้ว

อณิชา เล่าว่า ชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กๆ อีกความชอบส่วนตัวหนึ่ง คือ ช็อปปิ้งออนไลน์ เพราะไม่มีเวลาไปเดินห้างสรรพสินค้า เมื่อความคิดตกผลึกเธอตัดสินใจนำสองอย่างมารวมกัน คือ ลองทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง และเปิดเว็บไซด์ช็อปปิ้งออนไลน์มีหน้าร้านเป็นเฟซบุ๊กกับอินสตาแกรม www.shopatlovebird.com ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถสร้างกระแสของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอย่างคาดไม่ถึง

อณิชาเริ่มสร้างแบรนด์กับทีมงานเพียง 2-3 คน คอนเซปต์และรูปแบบทั้งหมดของแบรนด์มาจากเสื้อผ้าที่อณิชาชื่นชอบ ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจมาจากมุมมองเรื่องความรักที่เชื่อว่า “ผู้หญิงดูสวยที่สุด เวลามีความรัก” แนวคิดของ Lovebird จึงสะท้อนความเป็นเฟมินีน แสดงตัวตนและคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน เน้นสไตล์หวานซ่อนเปรี้ยว สวมใส่แล้วเผยรูปทรงองค์เอวความเป็นผู้หญิงที่ชวนค้นหา น่าหลงใหล ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะใส่ไซส์ไหน ขณะเดียวกันเป็นเสื้อผ้าที่สามารถปรับใช้ได้ในหลายโอกาส จึงมีสไตล์ความเป็นเรดดี้ ทู แวร์ อยู่บนพื้นฐานของคัดติงที่ประณีต โดยอณิชาดูแลเองทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่ออกแบบ เลือกเนื้อผ้า วางคอนเซปต์ ดูแลลูกค้า หาช่องทางการจัดจำหน่าย การทำโปรดักชัน รวมถึงโอเปอเรชัน ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับอณิชา

“ตอนแรกที่ตั้งแบรนด์ คิดว่าลูกค้าจะซื้อผ่านเว็บไซต์ แต่ปรากฏลูกค้าบุกมาที่ออฟฟิศบ้าง โทรมา อีเมลบ้าง ไลน์มาบ้าง จนเราตอบแทบไม่ทัน อาจจะเพราะสินค้าของเราค่อนข้างพรีเมียม ลูกค้าจึงอยากจะติดต่อเราตรง อยากเห็น อยากลองของจริง ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดี จากตอนแรกที่มีทีมงานไม่กี่คน เราก็ขยับเพิ่มขึ้น เป็นจำเป็นต้องมีโชว์รูมเป็นของตัวเอง เพราะเราหาจุดแข็งของแบรนด์ได้แล้ว เราจึงทำร้านเป็นของตัวเองที่ตึกเอสเอสพี ทาวเวอร์ เอกมัย 21 เพื่อลูกค้าจะได้มาเห็นเสื้อผ้าและได้ลองใส่จริงๆ แต่แพมก็ยังมองว่าสักวันหนึ่งตลาดเมืองไทยจะเข้าใจเหมือนตลาดต่างประเทศที่การซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์เป็นเรื่องปกติ อย่างเช่น ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ซึ่งเมืองไทยเริ่มมีพฤติกรรมช็อปปิ้งแบบนั้นแล้ว ฉะนั้นเลิฟเบิร์ดจึงยังไม่ทิ้งระบบออนไลน์ แต่จะพัฒนาให้เป็นระบบมากขึ้นไปพร้อมกับการเป็นโชว์รูม”

กลุ่มลูกค้าที่เป็นทาร์เก็ตของเลิฟเบิร์ด คือ เป็นหญิงสาวที่ชอบเสื้อผ้าที่สะท้อนความเป็นผู้หญิงสูง แพมวางคอนเซปต์ของแบรนด์ว่า เป็นเสื้อผ้าที่สะท้อนภาพผู้หญิงที่ตกอยู่ในความรักที่มีความหวานและโรแมนติก มีความนุ่มนวล ชอบใส่เสื้อผ้าเน้นอกเอว สะโพก เป็นผู้หญิงที่คลาสสิกไร้กาลเวลา แพมคิดว่าผู้หญิงเวลาตกในห้วงแห่งความรักจะสวยที่สุด

คอลเลกชันสปริงซัมเมอร์ 2013 นี้ แพมออกแบบชุดให้ผู้หญิงมีความหวานด้วยการใช้เทคนิคการตัดเย็บที่ซับซ้อน เช่น การรูด ซ้อนทับกันไปมา ซึ่งซิกเนเจอร์ไอเทมของเรา คือ กางเกงขาสั้นกับจัมพ์สูทขายาวผ่าข้าง เราก็ยังออกแบบและนำออกมาจำหน่ายอยู่ เพราะลูกค้าจะจำได้จากซิกเนเจอร์นี้ ปัจจุบันแบรนด์เสื้อผ้ามีเยอะก็จริง เราจึงต้องหาจุดยืนของแบรนด์ในตลาด คือ เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ เป็นผู้หญิงร่วมสมัยที่อยากสวยไร้กาลเวลา”

สำหรับการก้าวสู่ความเป็นสากล อณิชาวางเป้าหมายไว้เหมือนกัน แต่อยากสร้างฐานลูกค้าในเมืองไทยให้แข็งแกร่งเสียก่อน

“ตอนนี้แพมคิดว่าเรามาถูกทางมาก เพราะเสื้อผ้าที่แพมออกแบบก็สะท้อนความเป็นตัวเองมากๆ ทุกวันนี้แพมทำงานอย่างมีแรงปรารถนา ทำให้ชีวิตเติมเต็ม แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแพมไปแล้ว ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่มันคือชีวิตของแพม แพมอยากทำแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จและมั่นคง แต่โชคดีที่แพมมีทีมงานที่ดี ทุกคนเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกัน ส่งพลังให้กัน ถ้าเราดีไซเนอร์สวย คนเย็บก็อยากเย็บ ทุกคนเต็มที่กับงาน และทุกคนเชื่อในตัวแพม จริงๆ การเป็นดีไซเนอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นงานหนักและเหนื่อยเอาการ เพราะงานล้วนมีลายละเอียด แต่เราทำงานกันจริงจัง ทีแรกคุณพ่อคุณแม่คิดว่าแพมจะทำได้เหรอ เพราะท่านเลี้ยงเรามาแบบคุณหนู ไม่ได้เลี้ยงเรามาแบบนักสู้ พอเราทำได้ท่านก็ชื่นใจค่ะ”

แพม-อณิชา อรรถสกุลชัย

การศึกษา

1997-2001 : ปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาฝรั่งเศส

เกียรตินิยมอันดับ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2002-2003 : ปริญญาโทสาขาการสื่อสารชั้นสูง ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

2003-2004 : ปริญญาโทสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ นิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย

2008-2009 : หลักสูตรแฟชั่นดีไซน์ Raffles Institute Bangkok

2009-2012 : หลักสูตรระยะสั้นด้านแฟชั่น Central Saint Martins

ประสบการณ์ทำงาน

2006-2008 : แอกเคาต์ เอกเซ็กคิวทีฟ บริษัทเอเยนซีโฆษณา BBDO Bangkok

2010-2013 : บุกเบิกและก่อตั้ง Lovebird เรดดี้ ทู แวร์ สไตล์เฟมินีน ผ่าน www.shopatlovebird.com

งานอดิเรก : ดีไซน์เสื้อผ้า โยคะ ท่องเที่ยว

ดีไซเนอร์คนโปรด : คริสเตียน ลูบูแตง