ตกหลุมรัก ‘ไดโด’ (อีกครั้ง)

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

Dido

Girl Who Got Away

(Sony Music ***)

ฝึกฝนวิชาจากโรงเรียนดนตรีในลอนดอน ทั้งยังสั่งสมประสบการณ์จากการเป็นสมาชิกวงดนตรีคลาสสิกและวงทริปฮอปชื่อ เฟธเลส ของ โรโล อาร์มสตรอง ผู้เป็นพี่ชายมาก่อนจะกลายมาเป็นศิลปินเดี่ยว

“ไดโด” โด่งดังระดับโลกเมื่อราว 14 ปีที่แล้วด้วยอัลบั้ม No Angel งานเพลงอะคูสติก / ป๊อป / อิเล็กทรอนิกา โดยเฉพาะเพลง Thank You นั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เอมิเนม แร็ปเปอร์ชาวอเมริกันยังได้นำส่วนหนึ่งของเพลงนี้ไปเป็นท่อนคอรัสของเพลง Stan ของเขา Life For Rent ผลงานชุดต่อมาของเธอก็ได้รับการต้อนรับที่เยี่ยมยอดเธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ด้วย

ทิ้งช่วงจากอัลบั้มชุดที่แล้ว Safe Trip Home นานถึง 4 ปี ไดโดก็กลับมาอีกครั้งกับ Girl Who Got Away อัลบั้มชุดที่ 4 ทุกเพลงแต่งและโปรดิวซ์โดยไดโดและโรโล

ทั้งหมดเป็นเพลงที่แต่งก่อนช่วงในฤดูร้อนปี 2011 ไม่นาน เป็นช่วงหลังจากที่ไดโดถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากเพลง If I Rise ซึ่งเธอแต่งให้กับหนังเรื่อง 127 Hours หลายเพลงบันทึกเสียงในห้องพักภายในโรงแรม ด้วยคีย์บอร์ดและไมโครโฟน ขณะที่เริ่มต้นบันทึกเสียงงานชุดนี้ ไดโดก็ตั้งท้องลูกคนแรก หลังจากนั้นเธอก็หยุดเพื่อคลอดและดูแลลูกเป็นปีก่อนจะกลับมาจบงานชุดนี้ในปี 2012

ไดโด ในวัย 41 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า อัลบั้มนี้เป็นการทำงานโดยไร้ความกดดัน ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและเรียบง่าย เสียงร้องของไดโดนุ่มแต่มีพลัง บทเพลงของเธอน่าจดจำ อบอุ่น เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิต มีบทเพลงแห่งความท้าทาย ความหวัง ความเจ็บปวดใจ รวมทั้งความสุขสมบูรณ์ในชีวิตคุณแม่มือใหม่ปรากฏร่องรอยอยู่ในบางบทเพลง

ชื่อเพลง Girl Who Got Away นั้นเหมาะที่จะนำมาเป็นชื่ออัลบั้มใครๆ ก็บอก เพราะที่ผ่านมาไดโดหายไปจากการรับรู้ของสาธารณชนอยู่พักใหญ่ เพลงนี้มีท่อนเบสที่โดดเด่น มีสัดส่วนระหว่างโฟล์กและอิเล็กทรอนิกผสมผสาน

เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้ออกมาแนวหวานๆ เบาๆ โดดเด่นด้วยลีลาการแต่งเพลงที่ใช้ภาษาราวบทกวี พร้อมท่วงทำนองแหลมคม เพลงเปิดอัลบั้ม No Freedom ราวกับมีความเศร้าแอบแฝงอยู่ในนั้น ขณะที่ Go Dreaming บอกเล่าถึงรักแท้ Let Us Move On มีแร็ปเปอร์ชื่อดัง เคนดริก ลามาร์ มาร่วมร้อง เป็นเพลงที่แตกต่างไปจากงานอื่นๆ ของไดโด End Of Night เป็นคึกคัก น่าจะเป็นหนึ่งเพลงที่เร็วที่สุดของไดโด งานเพลงชุดนี้มีซีดีคู่โดยแผ่นที่ 2 นั้นเป็นหลายเพลงในเวอร์ชันรีมิกซ์

จะว่าไปแล้วงานชุดนี้ก็ไม่ได้แปลกใหม่หรือชวนตื่นเต้น (ซึ่งก็คงจะเป็นความตั้งใจของตัวศิลปินเอง) สไตล์เพลงของไดโดก็ยังคล้ายๆ ของเดิม เพียงแต่งานชุดนี้นำเครื่องเคราดนตรีอิเล็กทรอนิกเข้ามามีบทบาทมากกว่า ถึงอย่างนั้นก็ยังเหลืออารมณ์เพลงอะคูสติกป๊อปอยู่ในหลายเพลง อารมณ์เพลงเหมาะกับการเป็นซาวด์แทร็กของยามค่ำคืน

Girl Who Got Away น่าจะเป็นงานที่ทำให้แฟนเก่าของไดโดชื่นชอบได้ไม่ยาก ด้วยบทเพลงเหล่านี้จะทำให้ต้องตกหลุมรักเธอได้อีกครั้ง @

Did You Know?

ไดโด เกิดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 1971 ที่เคนซิงตัน ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ชื่อจริงของเธอคือ ฟลอเรียน คลาวด์ เดอ บูเนอเวลล์ อาร์มสตรอง ข่าวว่าปัจจุบันนักร้องสาวเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ไดโด ซึ่งได้มาจากเทวีไดโดแห่งคาร์เทจมาเป็นชื่อจริง

ก่อนจะมาเป็นศิลปินเดี่ยวเธอเคยทำงานร่วมกับวงเฟธเลส ซึ่ง โรโล อาร์มสตรอง พี่ชายของเธอเป็นสมาชิกอยู่

ฟุตบอลทีมโปรดของสาวคนนี้ คือ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล

เพลง Thank You จากอัลบั้มแรกของไดโด ได้รับรางวัล Song Of The Year จากงาน ASCAP Awards ในปี 2002 เพลงนี้เธอแต่งให้กับแฟนเก่า เคยประกอบในหนัง Sliding Doors

เพลง White Flag ซึ่งรวมอยู่ในอัลบั้ม Life For Rent ได้รับรางวัล Best Single จากงาน บริต อะวอร์ด ปี 2004 วิดีโอเพลงนี้มี เดวิด โบเรียนาซ หรือ แองเจล พระเอกซีรีส์เรื่อง Buffy The Vampire Slayer มาร่วมแสดง