ดนตรีมีมนต์ขลัง มาเรียม เกรย์

โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

“อยากเป็นคนนั้น คนที่เธอรักกันด้วยหัวใจ อยากเป็นคนนั้น คนที่เขาได้มีเธอข้างกาย

อยากจะทำทุกทาง เพื่อให้เธอหันมองและสนใจ แต่ไม่รู้ต้องทำยังไง ไม่รู้ต้องทำแค่ไหน เธอจะรักกัน”

ฟังแค่เสียง ใครๆ ก็คงนึกอยากเป็นเยี่ยงเธอ (แน่ๆ) ยิ่งเฉพาะคนที่ฝันอยากเป็นนักร้องคุณภาพ “มาเรียม เกรย์” คือหนึ่งแรงบันดาลใจ

เจ้าของเสียงทรงพลัง สาวลูกครึ่งไทยซาอุดีอาระเบีย มาพร้อมงานผลงานล่าสุด “อยากเป็นคนนั้น” เพลงประกอบละคร “แรงปรารถนา” ฟีเจอริงกับหนุ่มมาดเท่เสียงดี “กวาง” AB Normal

แม้ละครจะจบไปแล้ว แต่เพลงนี้ยังเปรี้ยง ทะยานติดชาร์ตทุกคลื่นวิทยุ การันตีว่าเพลงฮิตจริง รวมไปถึงตัวนักร้องก็ด้วย ได้กระแสตอบรับดีเกินคาด

มาเรียม หรือ มาเรียม บีไฟว์ (B5) คืนสู่อ้อมอกแฟนๆ อีกครั้ง หลังวงยุบไปตั้งแต่ปี 2547 เพื่อนสมาชิกต่างก็โลดแล่นอยู่บนถนนสายดนตรี โด่งดังในฐานะซุป’ตาร์ ไม่ว่าจะ “โต๋” ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร “เบน” ชลาทิศ ตันติวุฒิ “คิว” (วงฟลัวร์) สุวีระ บุญรอด ล้วนเป็นดอกผลจากบีไฟว์

ขณะที่มาเรียมก็ยังทำงานเพลงต่อ เพียงแต่ไม่เปิดเผยตัวปรากฏกับสื่อ โดยส่งเพลงเพราะๆ มาให้แฟนเพลงฟังไม่ขาด ควบคู่กับการออกเดินทางไปหาประสบการณ์ชีวิตที่ประเทศออสเตรเลีย

“แยกวง ทุกคนดังหมด ยกเว้นเรียม (หัวเราะ) ที่แอบหนีไปทำงานอย่างอื่น ไปเป็นผู้จัดการโรงหนังอาร์ตเฮาส์ ในชีวิตเรียมก็ไม่เคยทำงานอย่างอื่นเลยนะ ก็ร้องเพลงมาตลอด จนวันหนึ่งก็มานั่งคิดว่าถ้าอายุ 30 เราจะทำอะไรและยังไงดี แล้วถ้าไม่ร้องเพลงจะทำอะไร สุดท้ายก็มีคำตอบให้ตัวเองว่า ไปออสเตรเลีย ไปหางานทำ ก็ได้ทำที่โรงหนังอาร์ตเฮาส์นี่แหละค่ะ ทำ 3 ปี สนุกมากกกกก แต่มันก็มาถึงจุดอิ่ม เพราะเรียมจะเป็นคนที่ทำอะไรนานจะเบื่อ อยากหาอะไรสนุกๆ ตื่นเต้นๆ ทำ ก็ยื่นใบลาออก บอกหัวหน้าว่า ฉันจะกลับเมืองไทยแล้วนะ ฉันจะกลับไปร้องเพลง จะกลับไปเป็นนักร้อง ทุกคนก็ยินดีในสิ่งที่เรียมตัดสินใจ เรียมคิดว่าคนที่เคยร้องเพลง เคยอยู่กับเสียงเพลง มันทิ้งไปได้ไม่นานหรอกค่ะ วันหนึ่งก็ต้องกลับมา เพราะหัวใจมันร่ำร้องนี่คะ”

กลับมาบ้านเกิด มาเรียมก็ประเดิมร้องคอรัสคอนเสิร์ตนักร้องดัง เธอบอกด้วยสีหน้ามีความสุข ทั้งดีใจและสนุก ที่พี่ๆ ให้โอกาส มากกว่านั้น สิ่งที่เธอหวนกลับมาจับไมค์ร้องเพลงอีกครั้ง นั่นเพราะดนตรีมีมนต์ขลัง ที่ตัวเธอหลงรักและหลงใหล

“การร้องเพลงมันมีเสน่ห์นะคะ แล้วมันก็มีมนต์ขลังด้วย มนต์ขลังของมันคือการถ่ายทอดอารมณ์มาจากจิตวิญญาณ ซึ่งอาจจะมีเพี้ยนบ้างอะไรบ้าง ไม่ต้องเปล่งออกมาจากกระบังลมก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ทุกอย่างก็ได้ แต่ขอให้มันมาจากความรู้สึกจริงๆ มนต์ขลังของเพลงนั้นๆ ก็จะออกมา ออกมาจากข้างในของเรา”

งานร้องเพลงยังเข้ามาให้มาเรียมได้โชว์พลังเสียงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเธอถูก “ฟองเบียร์” ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม นักแต่งเพลงตัวพ่อ จีบมาร้องเพลงประกอบละคร “แรงปรารถนา” ซึ่งเธอก็ไม่ลังเลที่จะคว้าโอกาสสำคัญนั้น

“มันเป็นเพลงที่ร้องยากนะ เพราะคีย์มันค่อนข้างสูง สำหรับคนฟังก็ฟังง่ายมาก และคิดว่าจะร้องตามได้ จริงๆ มันร้องได้แหละ แต่มันต้องปีนป่ายพอสมควร เรียมก็เกือบตายนะคะกว่าจะร้องได้ (หัวเราะร่วน) เพลงนี้มันเป็นแนวเพลงที่เรียมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ค่ะ ปกติเรียมจะชอบร้องโซลมากกว่า เรียมชอบเอาเพลงต้นฉบับมาคัฟเวอร์ใหม่ในแบบของเรียม คือใส่ความเป็นโซลเข้าไป แต่ยังคงความเป็นต้นฉบับไว้ ยากค่ะร้องเพลงนี้ ใช้พลังกับมันเยอะค่ะ”

มาเรียมเป็นนักร้องคุณภาพที่พระเจ้าส่งเธอมา พรสวรรค์จากน้ำเสียงอันทรงพลัง พรแสวงจากการไปเรียนด้านดนตรีโดยตรง สาขา Jazz Performance, Vocal ณ Australian National University ประเทศออสเตรเลีย

“เด็กๆ เรียมอยากเป็นหมอ อยากขายข้าวแกง แต่พอโตมาหน่อย เรียมรู้เลยว่าเรียมชอบดนตรี ชอบร้องเพลง ทุกครั้งที่ได้ร้องเพลง เรียมมีความสุขมาก เคยไปนั่งดูคอนเสิร์ต เรียมรู้สึกเลยว่า วันหนึ่งเรียมก็อยากจะไปยืนอยู่ตรงนั้นบ้าง อยากทำอะไรเกี่ยวกับดนตรีบ้าง ไม่ว่าจะเบื้องหน้า หรือเบื้องหลัง เรียมแค่รู้สึกว่ามันคือที่ของเรียม เรียมเชื่ออย่างนั้นนะ แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง เรียมได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ถือเป็นโชคดีค่ะ อนาคตเรียมยังไม่รู้หรอกว่าจะเป็นยังไง แต่วันนี้เรียมมีความสุขที่ได้ร้องเพลง เรียมก็จะทำหน้าที่นี้ให้ดี เพราะการร้องเพลงสำหรับเรียมมันไม่ได้มาง่ายๆ สมัยเรียมไม่มีการประกวด ถึงจะมีเรียมก็ไม่เคยชนะ สำลักน้ำลายตลอด (หัวเราะลั่น) ฉะนั้น เรียมจะต้องเต็มที่กับมันทุกครั้งๆ ที่จับไมค์ร้องเพลง เรียมคิดว่าคนที่เป็นนักร้องต้องมีเอกลักษณ์และความเป็นตัวเองให้ได้ ไม่ใช่เอาตัวเองไปเป็นเหมือนคนอื่น ซึ่งก็ไม่ใช่เรียมแน่นอน”