posttoday

กระแสนิยมเครื่องประดับลงยา (2)

27 มีนาคม 2556

โดย...สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

โดย...สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

เทคนิคเครื่องประดับลงยายังมีอีกมากมาย อย่าง บาสส์ไตย์ (BasseTaille) มาจากคำในภาษาฝรั่งเศส หมายถึง LowCut ตามกระบวนการนี้ พื้นผิวของโลหะที่จะถูกลงยา จะมีการออกแบบลายนูนต่ำ จะทำให้พื้นผิวที่ได้รับการตกแต่ง สามารถมองเห็นได้จากยาที่ลงไว้อย่างโปร่งแสง และโปร่งใส

พื้นผิวด้านหน้าจะสะท้อนแสงและความลึกของรอยตัด จะทำให้เห็นความลึกของสีที่ลงยาไว้ ด้วยเป็นเทคนิคการตกแต่งด้วยการลงยาบนพื้นผิวของโลหะ ซึ่งมีการออกแบบที่เล่นระดับต่างๆ กันเอาไว้แล้ว ทั้งด้วยการดุนลาย แกะ สลักหรือทุบ ต่อจากนั้นพื้นผิวก็จะถูกปกคลุมด้วยสีเคลือบที่โปร่งแสงและโปร่งใส (แต่ไม่มีส่วนกั้น เพื่อแยกสีออกจากกัน)

จากนั้นจึงจะหลอมละลายด้วยไฟ ความลึกระดับต่างๆ กันของแบบ จะสะท้อนให้เห็นสีเคลือบ ระดับต่างๆ กัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดรอยนูนต่างๆ ขึ้นด้วย การตกแต่งด้วยการลงยา หลังจากมีการเผาและขัดเงา จะเกิดความเนียนเรียบ ติดกับพื้นผิวหน้าของโลหะ โดยปกติพื้นผิวของโลหะ จะเป็นทองหรือเงิน การลงยาบางครั้ง จะใช้สีต่างๆ กัน แต่จะให้ผลดีที่สุด เมื่อใช้เพียงสีเดียว (โดยปกติใช้สีน้ำเงิน หรือเขียว) เทคนิคนี้ว่ากันว่า มีต้นกำเนิดในอิตาลี ช่วงปลายศตวรรษที่ 1314 และหลังจากนั้น มีการนำไปใช้ในที่ต่างๆ ในทวีปเดียวกัน โดยเฉพาะในไรน์แลนด์ (เยอรมนี) ฝรั่งเศส และอังกฤษ บางครั้งเรียกว่า “การลงยาแบบโปร่งแสง”

เทคนิค คลัวซง (Cloison) ภาษาฝรั่งเศส หมายถึง ช่อง ตามเทคนิคนี้ ช่องเล็กๆ ที่จะใช้ลงยา จะถูกปิดกั้นด้วยลวดโลหะเส้นบางๆ ที่เรียกว่า “Cloisonne Wire” โดยลวดเส้นบางๆ นี้ จะถูกจัดให้เป็นรูปร่างต่างๆ ก่อนหลังจากนั้นจึงจะติดเข้ากับพื้นผิว โดยใช้ของเหลวหรือด้วยการเชื่อม ต่อจากนั้นจึงจะทำการลงยา ลงบริเวณที่ถูกกำหนดเอาไว้ ด้วย Cloisonne Wire

เทคนิคการลงยาแบบไลโมเกส (Painting) ด้วยวิธีการนี้ สีลงยาอย่างดีจะนำมาทาเป็นพื้น เพื่อเป็นการสร้างภาพให้เกิดขึ้น โดยส่วนมากมักนำมาใช้บนพื้นลงยาสีขาว ทึบแสง คุณภาพของภาพวาดจากสีลงยา ทำให้มีความเหมาะสมเป็นพิเศษ สำหรับภาพถ่าย ที่วาดลงบนพื้นสีขาวได้โดยตรง หรือไม่ก็อาจจะมีการร่างภาพขึ้นก่อน แล้วค่อยย้ายไปลงบนพื้นที่ที่ต้องการ

เทคนิคปลิกกาชูร์ (PliqueaJour) ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า การถักทอในแสงแดด การลงยาวิธีนี้จะไม่มีด้านหลัง เพราะต้องการให้เห็นทั้งสองด้าน ช่องต่างๆ จะถูกตัดออกจากแผ่นโลหะก่อน จึงจะทำการลงยา โดยยาที่ลงไว้จะไปหุ้มปิดช่องต่างๆ ซึ่งเกิดจากการดึงดูดกันและกันของตัวยาที่ลงไว้ ข้อเสียคือไม่ค่อยมีความคงทนนัก หากโลหะเกิดการงอ ก็จะทำให้วัตถุที่ลงยาไว้ เกิดรอยแตกขึ้นได้ เป็นเทคนิคการประดับตกแต่ง ในการลงยาโดยการออกแบบ จะกำหนดแบบร่างลงในโลหะ และเติมด้วยสีลงยาโปร่งใสสีต่างๆ แต่จะไม่มีแผ่นโลหะหนุนด้านหลัง เพราะต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาคล้ายคลึงกับหน้าต่างประดับกระจกสี

วิธีการหนึ่ง ก็คือ การผสมสารละลายเข้าไปในการลงยา เพื่อให้เกิดความเหนียว แต่บ่อยครั้งจะใช้งานโลหะลายโปร่ง ติดกับแผ่นทองแดงที่บางมากๆ แล้วลงยาเพื่อให้ทนทาน

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการสัมมนาในหัวข้อ “ค้นหาทางออก...ฝ่าทางตัน...ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยไปตลาดยุโรป” ในวันที่ 9 เม.ย. 2556 เวลา 13.30-16.00 น. ณ ห้องศรีสุริยวงศ์ โรงแรมตะวันนา ถนนสุรวงศ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-634-4999 ต่อ 444 หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ Error! Hyperlink reference not valid. (สัมมนานี้ไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น)

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน