มูมู่... เจ้าตัวเล็กของบอส ธนะสิทธิ์ เฟื่องไพศาล

ความสุขของคนเราสามารถหาได้จากหลายๆ อย่าง สัตว์เลี้ยงก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของหลายๆ คนมีความสุข

โดย...วรธาร

ความสุขของคนเราสามารถหาได้จากหลายๆ อย่าง สัตว์เลี้ยงก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของหลายๆ คนมีความสุข “บอส-ธนะสิทธิ์ เฟื่องไพศาล” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ไฟแรง เจ้าของโครงการ Landmark Residence บนทำเลบางนา แถวมหาวิทยาลัยเอแบค ก็เช่นกัน เขายอมรับว่าสุนัขทำให้ชีวิตของเขามีความสุข

บอส เล่าว่า บรรดาสัตว์เลี้ยงเขาชอบสุนัข และต้องเป็นสุนัขตัวเล็ก ขนยาวนุ่ม น่ารัก โดยพันธุ์ที่ชอบมากพิเศษกว่าใคร คือ “ปอมเมอเรเนียน” และ “มูมู่” สุนัขเพศเมียที่เขาเลี้ยงตอนนี้ก็เป็นพันธุ์ปอมเมอเรเนียนด้วย

นักธุรกิจหนุ่ม เล่าว่า เขาซื้อมูมู่มาตั้งแต่ตัวเล็กๆ มาจากฟาร์มดรีมทีม เมื่อ 89 ปีที่แล้ว ในราคา 4 หมื่นบาท แต่ตอนนี้น้ำหนักก็คงไม่เกินสองกิโลกรัม พ่อของมูมู่ ชื่อ “เก้าแสน” เคยไปประกวดที่อเมริกาแล้วได้อเมริกันแชมเปียนกลับมา

ปล่อยอิสระ

เจ้าของหนุ่ม เล่าว่า การเลี้ยงจะปล่อยให้อยู่อย่างอิสระ สามารถเดินนอนเล่นในบ้านได้เสรี แต่จะมีพื้นที่ให้เขาอยู่ชั้นล่างของบ้าน มีอาหาร น้ำพร้อม ห้องน้ำเปิดไว้ตลอด

“การเลี้ยงผมปล่อยเขาอิสระเลย บ้านชั้นล่างเป็นพื้นที่ของเขาเลย อาหารน้ำสำหรับเขา เราเตรียมไว้พร้อม เวลาหิวเขาก็เดินมากินเอง ห้องน้ำเราเปิดไว้ตลอด เวลาเขาปวดฉี่ก็เดินเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ฉี่เรี่ยราดในบ้าน แต่กลางวันจะออกไปปัสสาวะและขับถ่ายหลังบ้าน แต่ว่าตอนที่ซื้อใหม่ๆ ก็สร้างปัญหาบ้าง เช่น ปัสสาวะ ขับถ่ายไม่เป็นที่ ก็มีการลงโทษด้วยการตีเหมือนกันเพื่อให้เขาไม่ทำอีก”

บอส เล่าว่า หมอเคยแนะนำว่า ถ้าสุนัขปัสสาวะใส่ตรงนั้นตรงนี้ไม่เป็นที่เป็นทางในบ้านก็ให้ลงโทษด้วยการตี แล้วอย่าลืมจับให้เขาดมกลิ่นปัสสาวะของตัวเองตรงที่เขาฉี่ใส่ แล้วพูดกับเขาดีๆ ว่า ห้ามมาฉี่ตรงนี้อีกนะ ต่อไปเขาก็จะไม่ทำอีก จากนั้นก็พาเขาไปฉี่ข้างนอกหรือในห้องน้ำแทน

“เรื่องนี้ต้องใช้เวลาหน่อย ไม่นานมาก แต่มั่นใจได้เลยว่าเขาจะไม่สร้างปัญหาในเรื่องแบบนี้ให้เราต้องตามเช็ดตามเก็บอุจจาระปัสสาวะของเขาอีกต่อไป เพราะสุนัขพันธุ์นี้นิสัยดี น่ารัก สอนง่าย เชื่อฟังดี สอนอะไรเขาก็จำได้และทำได้ตามที่เราสอน”

สำหรับการอาบน้ำให้มูมู่ บอส บอกว่า ทุกสองอาทิตย์ บางครั้งก็หนึ่งอาทิตย์จะให้แม่บ้านหรือคนรถพาไปให้ที่ร้านอาบให้ตลอด เพราะที่ร้านจะมีอุปกรณ์ในการอาบน้ำครบ ทั้งไดร์เป่าขน ตัดเล็บ ทุกอย่างเป็นอย่างดี แต่ตอนหลังเปลี่ยนให้พาไปโรงพยาบาลที่เคยรักษาแทน

“เวลาอาบน้ำแต่ก่อนจะพาไปที่ร้าน เขาทำสะอาดดีเหมือนกัน แต่ตอนหลังเริ่มมีหมัดและเห็บเยอะ ก็เลยเปลี่ยนสถานที่ให้ไปโรงพยาบาลแทน ทำสะอาด กลับมาบ้านก็ไม่มีหมัด ไม่มีเห็บ”

ตัวเล็ก...แต่ก็ทำหน้าที่เจ๋ง

ถึงแม้มูมู่ตัวจะตัวเล็กแต่ก็ทำตัวดีมีประโยชน์ให้ได้พึ่งพาอาศัยได้ โดยใครมาเดินอยู่แถวหน้าบ้าน หรือมากดกริ่งหน้าประตูบ้าน มูมู่จะส่งเสียงเห่าเพื่อเป็นการบอกคนในบ้านให้รู้ว่าตอนนี้กำลังมีแขกมาบ้าน

“ทุกครั้งเมื่อมีใครมายืนอยู่หน้าบ้าน หรือมากดกริ่งหน้าประตูเข้าบ้าน มูมู่จะส่งเสียงเห่าก่อนเลย บางครั้งคนในบ้านไม่ได้ยินเสียงกริ่ง แต่พอมูมู่เห่านานเข้าพร้อมหันหน้าไปทางประตูบ้าน เราก็จะรู้ว่ามีคนมาหา บางทีมูมู่นอนหลับแต่สัมผัสเขาดีเยี่ยม พอได้ยินเสียงอะไรดังนิดหน่อยก็จะตื่นทันที”

กรณีที่มีใครเข้ามาในบ้าน ถ้ามูมู่ไม่รู้จักก็จะเดินวนไปมาในขณะที่ดวงตาก็จ้องมองแขกที่เข้ามาพร้อมกับเสียงเห่า แต่ถ้าคนคนนั้นเข้ามาเล่นด้วยสักพัก มูมู่ก็จะเล่นด้วยเพราะเป็นหมาที่เข้ากับคนง่าย

ผ่านวินาทีเฉียดตาย

บอส เล่าว่า เขาเองเกือบสูญเสียเจ้าหมาน้อยแสนน่ารักของเขาไปเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว แต่โชคดีที่มูมู่สามารถผ่านพ้นวิกฤตเหตุการณ์นั้นมาได้ด้วยมือแพทย์

“วันหนึ่งคุณพ่อผมกินหมูปิ้งแล้วแบ่งให้เขากิน โดยฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ให้กิน แต่ปรากฏมีชิ้นหนึ่งที่หลุดมือ ขนาด 2 เซนติเมตร มูมู่รีบตะครุบกลืนเลยแล้วมันก็ไปติดที่ปลายหลอดลม ทำให้เกิดอาการชัก ลิ้นจุกปาก น้ำลายฟูมปาก ผมรีบพาไปโรงพยาบาล หมอช่วยไว้ทันด้วยการฉีดยาสลบ แล้วเอาท่อเหล็กเสียบเข้าไปดันเอาชิ้นที่อยู่ปลายสุดหลุดเข้ากระเพาะรอดตายมาได้”

บอส เล่าว่า ตอนวางยาสลบกลัวว่ามูมู่จะตาย เพราะอาการที่เขาเป็นนั้น ถ้าใครเห็นแล้วก็ต้องตกใจคิดว่าเขาไม่รอด อีกอย่างอายุของมูมู่ก็ไม่น้อย 9 ปีแล้ว แต่โชคดีที่หมอช่วยได้และช่วยไว้ทันเวลา

“ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นมา ผมประกาศเลย ห้ามให้อาหารอย่างอื่นแก่เขาเป็นอันขาดนอกจากอาหารของเขาโดยเฉพาะ และให้คอยระวัง เพราะเวลาเรากินอะไรเขาก็จะเดินเข้าไปหาตลอด และพออะไรหล่นปุ๊บเขาจะรีบตะครุบเลยจนบางครั้งดึงจากปากไม่ทัน”

 

 

&<2288;