‘เตรียมตัวให้พร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน’ ศุภิสรา ชมภูศรี

นักศึกษาสาวเจ้าของทุนเรียนดีคณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ลูกตาลศุภิสรา ชมภูศรี วัย 19 ปี

โดย...วราภรณ์

นักศึกษาสาวเจ้าของทุนเรียนดีคณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ลูกตาล-ศุภิสรา ชมภูศรี วัย 19 ปี เธอมีดีมากกว่าความสวย เป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบ 20 คน การประกวดมิส ไทยแลนด์ เวิลด์ 2013 ในรอบประกวดความสามารถพิเศษ หรือฟาสต์แทร็ก ลูกตาลเลือกโชว์ความสามารถพิเศษ โดยเล่นขิมเป็นเพลงสากล ดนตรีไทยที่ร่ำเรียนมาตั้งแต่ชั้นมัธยม 1 กิจกรรมพิเศษที่เลือกทำหลังเลิกเรียน แต่ในการโชว์ เธอไม่เล่นเพลงไทย แต่นำดนตรีไทยกับเพลงสากลมาประยุกต์เข้าด้วยกัน เพื่อให้เข้ากับแนวคิด “งามอย่างมีคุณค่า สง่าสู่สายตาอาเซียน” และก็ผ่านเข้ารอบ 1 ใน 3 เพื่อประชันกันในวันประกวดจริง

“ลูกตาลเรียนขิมมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยม 1 รวม 8 ปีแล้วที่เรียนขิม ที่เลือกเรียนขิม ด้วยท่วงท่าการนั่งเล่นขิมสง่างาม ดูนุ่มนวล สะท้อนความเป็นผู้หญิงเรียบร้อยเหมาะกับความเป็นผู้หญิงไทย หลังจากเล่นขิมได้ระดับหนึ่งแล้ว หนูก็ต่อด้วยเล่นเครื่องดนตรีสากล คือไวโอลิน และเคยแสดงในงานโรงเรียน เพราะหนูเป็นหนึ่งในวงออร์เคสตราของโรงเรียน เล่นตั้งแต่มัธยม 4 เพราะหนูคิดว่าเมื่อเล่นดนตรีไทยได้แล้ว ก็ลองมาหัดดนตรีสากลบ้าง ซึ่งโน้ตไวโอลินเล่นยากกว่าขิม เพราะโน้ตกว้างกว่า จึงเล่นได้หลากหลายกว่า และหนูก็ได้อยู่ในวงออร์เคสตราของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ บางบอน เคยไปเล่นดนตรีเพื่อการกุศล เล่นกับศิลปินแห่งชาติ งานจัดร่วมกับกรมศิลปากร แสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ มอบรายได้ให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยม 6 ซึ่งพอมีการแสดงเราต้องซ้อมทุกวัน”

ผลของการเล่นดนตรีทั้งไทยและสากล นอกจากสอนให้ลูกตาลมีทักษะด้านดนตรีแล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกสมองด้วยการจดจำโน้ตเพลง ช่วยลดอารมณ์โกรธได้ “เวลาหนูรู้สึกหงุดหงิด หนูจะตีขิม ตีเบาๆ ก็ช่วยผ่อนคลายทำให้อารมณ์เย็นลง ซึ่งมีผลต่อการเรียน ทำให้ผลสอบไล่มัธยมปลายหนูได้เกรดเฉลี่ยที่ 3.96”

วิชาที่ลูกตาลชอบที่สุดคือภาษาอังกฤษ เพราะเป็นภาษาสากลที่ใช้สื่อสารได้ทั่วโลก ส่วนภาษาจีนเธอก็พอพูดได้ ยิ่งอีก 2 ปีข้างหน้าไทยจะก้าวขึ้นสู่หนึ่งในสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภาษาก็ยิ่งสำคัญ เธอจึงตัดสินใจเรียนในมหาวิทยาลัยนานาชาติ จะได้แลกเปลี่ยนกันด้านวัฒนธรรมและภาษากับเพื่อนๆ ชาวต่างชาติ

“ในคลาสเรียน หนูมีเพื่อนสนิท คือ ไต้หวัน อินเดีย และคนไทยอีก 3 คน ซึ่งเมื่ออยู่รวมกันก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง เราก็จะได้ฝึกภาษาไปด้วย ที่หนูได้ทุนเรียนดีเพราะตอนเรียนมัธยม 4 มีการสอบชิงทุน ซึ่งช่วงนั้นมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ดไปแนะแนวที่โรงเรียนพอดี หนูก็เลยนำผลการเรียนไปแสดง กิจกรรมที่เคยทำ เช่น เป็นตัวแทนถือพานไหว้ครู เล่นดนตรี เคยเป็นตัวแทนเข้าร่วมโครงการวิทยาศาสตร์ แล้วหนูก็ได้ทุนเรียนปริญญาตรีฟรี แบบไม่ผูกมัดค่ะ”

ความสามารถของลูกตาลยังไม่หมดแค่นั้น เธอเคยเป็นตัวแทนทีมชาติเข้าแข่งขันเทนนิสระดับเยาวชนทีมชาติ และเธอติดอันดับ 1 ใน 3 นักกีฬาเยาวชนทีมชาติของไทย เพราะได้เทรนเนอร์ส่วนตัวดี คือคุณพ่ออดีตนักกีฬาเทนนิสทีมชาติไทย (ประภาส ชมภูศรี) คอยสอนสั่ง

“หนูเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 9 จนถึง 12 ขวบ เล่นแข่งเก็บคะแนนมาโดยตลอด แต่การเล่นกีฬาต้องทุ่มเทให้การฝึกซ้อมมากๆ เมื่อประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง หนูคิดว่าหนูมีศักยภาพที่น่าจะลองทำอย่างอื่นบ้าง ก็เลยหันมาเล่นดนตรีค่ะ”

เมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ค่าที่เธอเป็นนักเรียนทุนเรียนดี จึงต้องรักษาเกรดเฉลี่ยให้ได้ 3.25 เป็นอย่างต่ำ เป็นเรื่องยาก แต่ไม่เกินความสามารถ อีกทั้งต้องแข่งขันกันกับเพื่อนๆ นักเรียนชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของภาษา เพื่อนบางคนยังโตกว่า แต่เธอก็คว้าเกรดเฉลี่ยมากถึง 3.93 แม้เป็นเด็กชอบทำกิจกรรมมากๆ ตั้งแต่มัธยมต้น-ปลาย จนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เช่น เป็นตัวแทนประกวดนางสงกรานต์ของคณะ ซึ่งเธอก็คว้าตำแหน่งมาครองได้ ส่วนกิจกรรมอื่นๆ เช่น เป็นพิธีกรพูดภาษาอังกฤษในวันไหว้ครู ก็ยิ่งต้องทุ่มเทให้กับการเรียน ไม่เข้าใจต้องถามอาจารย์ ฝึกทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ นี่คือเคล็ดลับทำให้เรียนเก่ง

สุดท้าย เธอฝากบอกไปถึงเพื่อนๆ เยาวชน ว่า ควรฝึกศักยภาพด้านภาษาให้คล่อง เพื่อเตรียมตัวก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หากเยาวชนไทยยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เด็กไทยก็จะเสียเปรียบเพื่อนบ้าน

“ผลการสำรวจพบว่า 10 ประเทศที่มีค่าแรงขั้นต่ำ ไม่มีไทย ฉะนั้นถ้าคนไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ค่าแรงของเราแพง นายจ้างสู้ไปจ้างเพื่อนบ้านที่ค่าแรงถูกกว่าและเก่งภาษากว่าไม่ดีหรือ แล้วจะมีใครจ้างคนไทยล่ะ เราจึงต้องเน้นเรียนพูดภาษาอังกฤษ และต้องเรียนเพื่อนำไปใช้ในชีวิตและอาชีพจริงๆ ได้ด้วย”